เมืองอี้อูเปิดนิคมอุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์อัจฉริยะแห่งใหม่สำหรับผลิตสินค้าเบ็ดเตล็ดในเมืองกุ้ยกัง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม โดยได้รับคำสั่งซื้อมูลค่ารวม 210 ล้านหยวน (ราว 31.48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตั้งแต่วันแรก
คุณหยาง หยาง รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท เจ้อเจียง ไชน่า คอมโมดิตี้ส์ ซิตี้ กรุ๊ป จำกัด (Zhejiang China Commodities City Group Co., Ltd.) เปิดเผยว่า นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ใช้เงินลงทุนรวม 1.1 หมื่นล้านหยวน ครอบคลุมพื้นที่ 2,388 หมู่ (mu) (159.2 เฮกตาร์) และมีพื้นที่ก่อสร้างตามแผน 3 ล้านตารางเมตร ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการสร้างงานโดยตรง 40,000 ตำแหน่ง และมีปริมาณการทำธุรกรรมต่อปีเฉลี่ยราว 1.3 หมื่นล้านหยวน ส่วนกำไรและภาษีต่อปีคาดว่าจะอยู่ที่ราว 400 ล้านหยวน
เมืองอี้อูในมณฑลเจ้อเจียงทางภาคตะวันออกของจีน ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “เมืองซูเปอร์มาร์เก็ตโลก” ได้นำต้นแบบเมืองอุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์อัจฉริยะรุ่นที่ 6 มาใช้กับโครงการใหม่ในเมืองกุ้ยกัง โดยนวัตกรรมทางเทคโนโลยีต่าง ๆ อาทิ ข้อมูลคลาวด์บิ๊กดาต้า, 5G และ AI ช่วยให้นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้สามารถสร้างระบบนิเวศการค้าระดับโลกที่ใช้โมเดลการดำเนินงานห่วงโซ่อุตสาหกรรมแบบ “8 in 1” ประกอบด้วยการค้า ตลาดสำหรับมืออาชีพ การผลิตและการแปรรูป คลังสินค้าและการขนส่ง การถ่ายทอดสดออนไลน์ ฯลฯ
คุณซู่ เจียน รองอธิบดีกรมพาณิชย์เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง กล่าวว่า กว่างซีจ้วงเชื่อมกับประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ทั้งทางบกและทางทะเล จึงมีโอกาสในการพัฒนาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในแง่ของการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน โดยการเปิดตัวนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้จะช่วยให้เมืองกุ้ยกังมีแรงผลักดันที่แข็งแกร่งในการเติบโตเป็น “เมืองหลวงของสินค้าเบ็ดเตล็ด” ทางตอนใต้ของจีน และนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้จะรองรับความต้องการของตลาดอาเซียนภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)
คุณเหยียน จิ่วฉิว ผู้อำนวยการคณะกรรมการถาวรแห่งสภาประชาชนจีนประจำเมืองกุ้ยกัง กล่าวว่า ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ยอดขายสินค้าเบ็ดเตล็ดไปยังประเทศสมาชิกอาเซียนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากที่ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคมีผลบังคับใช้ และคาดว่านิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ในเมืองกุ้ยกังจะได้รับอิทธิพลจากประสบการณ์ด้านการพัฒนาของเมืองอี้อู เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการค้าและการบริการ ตลอดจนส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองกุ้ยกังในเวทีโลก
