บริษัท เซร่าฟิม เอนเนอร์จี กรุ๊ป จำกัด หรือเซร่าฟิม (Seraphim) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำระดับโลก ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า โมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ (PV) ขนาด 210 มม. ของบริษัทได้ผ่านการทดสอบการกระแทกของลูกเห็บคุณภาพสูง โดยมีอัตราการลดประสิทธิภาพต่ำเพียง 0.2% เท่านั้น
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกทำให้มีแนวโน้มว่าจะเกิดเหตุการณ์สภาพอากาศที่เลวร้ายเพิ่มมากขึ้น เช่น พายุลูกเห็บ ซึ่งอาจส่งผลต่อโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ที่ใช้เป็นอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าภายนอกอาคาร
ในสถานการณ์ดังกล่าว มักมีการทดสอบแรงกระแทกจากลูกเห็บ เพื่อตรวจสอบว่าระบบ PV เหล่านี้จะสามารถรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
โดยปกติ ลูกเห็บที่ถูกนำมาใช้ในการทดสอบแรงกระแทกจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 25 มม. และกระแทกกับโมดูล PV ด้วยความเร็วเพียง 23 เมตรต่อวินาทีเท่านั้น
แต่สำหรับโมดูล 210 มม. ของเซร่าฟิมแล้ว ในระหว่างการทดสอบได้ใช้ลูกเห็บที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 45 มม. ซึ่งกระทบกับพื้นผิวของโมดูลด้วยความเร็ว 30.7 เมตรต่อวินาที (ประมาณ 110.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) โดยผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า ประสิทธิภาพการต้านแรงกระแทกเชิงจลนศาสตร์ของโมดูล 210 มม. นั้นสูงกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรมดั้งเดิมถึง 10 เท่า
จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ การทดสอบดังกล่าวมีความละเอียดมาก ซึ่งรวมถึงจุดกระทบ 11 จุดที่กำหนดไว้บนพื้นผิว โดยหลังการทดสอบพบว่า ลักษณะที่ปรากฏ ความปลอดภัย และกำลังไฟที่ผลิตได้ของโมดูลได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประสิทธิภาพที่ลดลงนั้นต่ำเพียง 0.2%
โพลาริส หลี่ (Polaris Li) ประธานของเซร่าฟิมกล่าวว่า “การผ่านการทดสอบแรงกระแทกจากลูกเห็บได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์เซลล์แสงอาทิตย์ของเซร่าฟิมมีความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งเป็นผลมาจากความทุ่มเทของเราในการปรับปรุงประสิทธิภาพ นำเสนอนวัตกรรม และดำเนินการควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์อย่างเข้มงวด”
การทดสอบนี้ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจาก TUV SUD ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโซลูชันที่ยั่งยืน ปลอดภัย และมีคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ในศูนย์วิจัยระดับโลกของเซร่าฟิม
ศูนย์วิจัยนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2556 โดยมีความสามารถอย่างสมบูรณ์ในการวิจัยและทดสอบโมดูล PV ด้วยคุณสมบัติหลายประการจนได้รับรางวัลจากสถาบันที่มีชื่อเสียงระดับโลก
เซร่าฟิมระบุว่า ในอนาคตบริษัทจะดำเนินการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยเพิ่มเติมโดยมีข้อกำหนดที่เข้มงวดกว่ามาตรฐาน IEC เพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของโมดูลขนาดใหญ่ 210 มม.นี้ต่อไป