WORKMATE ได้รับการลงทุน 5.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในรอบซีรี่ส์เอ เพื่อพัฒนาตลาดแรงงานนอกระบบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

0
1674

เวิร์คเมท (Workmate เดิมชื่อ Helpster) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจัดหาพนักงานแบบครบวงจรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับเงินลงทุนจำนวน 5.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมทั้งจากบีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล หลังธุรกิจโตถึง 10 เท่านับตั้งแต่มกราคม 61 ที่ผ่านมา โดยเวิร์คเมทจะนำเงินทุนนี้ไปยกระดับตลาดแรงงานนอกระบบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีมูลค่าตลาดสูงประมาณ 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี

การจ้างงานนอกระบบ (Informal Labor Staffing) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีสัดส่วนมากถึง 50% ของตลาดแรงงานทั้งหมด ซึ่งคิดเป็นมูลค่าประมาณการจ้างงานสูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ทั้งนี้เวิร์คเมท เป็นแพลตฟอร์มจัดหางานที่เปิดโอกาสให้ผู้หางานกว่า 100 ล้านคนในภูมิภาคเข้าถึงโอกาสการร่วมงานกับบริษัทชั้นนำหลายร้อยบริษัท อาทิ Central Group, True Corp, Lazada, Grab และ NinjaVan เป็นต้น มีพันธกิจที่จะยกระดับตลาดแรงงานนอกระบบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการช่วยให้พนักงานมีรายได้ที่สม่ำเสมอและมั่นคง ในขณะที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้หางานชั่วคราวที่ผ่านการคัดเลือกแล้วได้อย่างรวดเร็ว

กรุงเทพฯ, 12 พฤศจิกายน 2562, บริษัท เวิร์คเมค จำกัด (Workmate) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจัดหาพนักงานแบบครบวงจรประกาศการระดมทุนรอบซีรี่ส์เอ เป็นจำนวนเงิน 5.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นำโดย Atlas Ventures และร่วมลงทุนโดย Gobi Partners, บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล (Beacon Venture Capital) บริษัทเงินร่วมลงทุนของธนาคารกสิกรไทย และนักลงทุนอื่น ๆ โดยเวิร์คเมทจะนำเงินทุนนี้ไปขยายฐานลูกค้า พัฒนาเทคโนโลยี และขยายบริการไปยังตลาดใหม่ ทั้งนี้นับตั้งแต่มกราคม 2559 เวิร์คเมทมีการระดมทุนไปแล้วทั้งสิ้น10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และธุรกิจเติบโตเพิ่มขึ้น 10 เท่านับตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 โดยบริษัทมีพันธกิจในการยกระดับตลาดแรงงานนอกระบบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการจ้างงานนอกระบบถึง 50% ของการจ้างงานทั้งหมด ซึ่งตลาดแรงงานนอกระบบมีมูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี อย่างไรก็ตามส่วนหนึ่ง นายจ้างยังแสวงหาลูกจ้างด้วยวิธีการดั้งเดิม เช่น การแนะนำแบบปากต่อปาก ซึ่งทำให้เข้าถึงพนักงานจำนวนน้อยและไม่สามารถเลือกพนักงานที่มีคุณสมบัติหรือประสบการณ์ตามที่ต้องการได้

มิสเตอร์แมทธิว วาร์ด ผู้ก่อตั้งบริษัทเวิร์คเมท มีความตั้งใจจะเปลี่ยนตลาดการจ้างงานให้ทันสมัยและคล่องตัวมากขึ้น จึงร่วมก่อตั้งบริษัทกับผู้ร่วมก่อตั้งคนอื่นที่ล้วนมีประสบการณ์ในการสร้างบริษัทเทคโนโลยีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาแล้วมากมาย เช่นAdmax Network, Ardent Capital, Ensogo และ aCommerce

“เวิร์คเมทช่วยให้นายจ้างสามารถเข้าถึงพนักงานชั่วคราวได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง เช่น นายหน้า ทำให้นายจ้างสามารถลดค่าใช้จ่ายในการจ้างงานลงกว่า 30% ซึ่งระบบการจ้างงานแบบนายหน้านี้ไม่มีการใช้เทคโนโลยีและยังคงเป็นรูปแบบเดิมมานานกว่า 40 ปี การนำแพลตฟอร์มมาใช้ในระบวนการจ้างงานกำลังเป็นที่นิยมทั่วโลก แม้กระทั่งบริษัทชั้นนำ อาทิ Uber ยังมีการพัฒนาแพลตฟอร์มจ้างงานชื่อ Uber Works มาใช้ในสหรัฐฯ ” แมทธิว กล่าว

เวิร์คเมทตั้งใจที่จะเข้ามาสนับสนุนตลาดแรงงานนอกระบบในภูมิภาคนี้ ที่มีความต้องการพนักงานชั่วคราวมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในงานบริการ งานผลิต หรืองานรับจ้างทั่วไป ทั้งนี้ แพลตฟอร์มหางานส่วนใหญ่จะเน้นการจ้างงานประจำของพนักงานบริษัท แต่เวิร์คเมทเห็นว่า โอกาสที่แท้จริงนั้นอยู่ที่การจ้างงานชั่วคราว ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และสามารถนำเทคโนโลยีมาช่วยแก้ปัญหาได้ โดยสร้างประสิทธิภาพในวงกว้าง

ธุรกิจที่มีความต้องการหาพนักงานที่มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอมักต้องใช้เวลาอย่างมากในการคัดเลือกพนักงาน และมักขาดข้อมูลที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานของพนักงานเหล่านี้ ขณะเดียวกันฝั่งผู้หางานใช้เวลามากในการหางาน โดยในบางครั้งอาจใช้เวลานานถึงหลายสัปดาห์ ทำให้ผู้หางานเหล่านี้ไม่สามารถสร้างรายได้ตามที่ต้องการ

เวิร์คเมทจึงเข้ามาตอบโจทย์ของตลาด ซึ่งพนักงานที่อยู่บนแพลตฟอร์มของเวิร์คเมทจะได้รับการคัดกรองเบื้องต้นผ่านการสัมภาษณ์และคัดกรองโดยทีมงานของเวิร์คเมทเอง จึงเป็นพนักงานที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้ ต่างจากแหล่งประกาศหางานอื่นทั่วไป นายจ้างสามารถเลือกพนักงานและดำเนินการว่าจ้างผ่านแพลตฟอร์มได้ทันที หากมีพนักงานที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ต้องการและมีประวัติการทำงานที่ดี

นอกจากนี้แพลตฟอร์มยังช่วยจัดการในเรื่องสัญญาจ้างงาน การลงเวลาเข้าออก และการชำระค่าจ้าง อย่างครบวงจรด้วย พนักงานที่ผ่านการคัดเลือกและอยู่บนแพลตฟอร์มของเวิร์คเมท สามารถเห็นข้อเสนองานได้ทุกวันบนแอปพลิเคชันของเวิร์คเมท โดยงานเหล่านี้ถูกคัดกรองมาให้ตรงตามความสามารถของพนักงาน เวิร์คเมทยังมีการปกป้องพนักงานจากปัญหาค่าจ้างที่ไม่โปร่งใส และมีสวัสดิการให้พนักงาน รวมถึงมีแผนในอนาคตในการจัดหาผลิตภัณฑ์ประกันและการเงินต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ให้แก่พนักงานอีกด้วย ซึ่งบริการเหล่านี้ไม่เพียงช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของพนักงาน แต่ยังทำให้การทำงานแบบชั่วคราวเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจของคนโดยทั่วไปอีกด้วย

มิสเตอร์แมทธิว กล่าวว่า เวิร์คเมทกำลังสร้างสิ่งที่แตกต่างในภูมิภาคนี้ เราไม่ใช่แหล่งประกาศหางานหรือเป็นเพียงคนจับคู่พนักงานกับนายจ้างเท่านั้น แต่เราเป็นโซลูชั่นส์การจ้างงานที่ครบวงจร และมุ่งหวังที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของแรงงานในภูมิภาค รวมถึงช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานไปได้อย่างเต็มที่ โดยการจัดการพนักงานชั่วคราวที่มีคุณภาพให้อย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอ

นายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด กล่าวว่า บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ธนาคารกสิกรไทยเพิ่มศักยภาพในการให้บริการทางการเงินที่ดีแก่ตลาดแรงงานที่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างเต็มที่ (Underserved Population) และเชื่อมั่นว่าด้วยองค์ความรู้ ประสบการณ์ และความตั้งใจของเวิร์คเมทที่จะยกระดับความเป็นอยู่ของกลุ่มพนักงาน ประกอบกับความสามารถในการเติบโตทางธุรกิจทั้งในประเทศไทยและอินโดนีเซียในปีที่ผ่านมา จะช่วยให้ธนาคารกสิกรไทยสามารถเข้าใจและเข้าถึงตลาดนี้ได้มากขึ้น และให้บริการทางการเงินที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสุขภาพการเงินแก่บุคคลากรและพนักงานในตลาดแรงงานนี้

เวิร์คเมทมีสำนักงานใหญ่อยู่ในสิงคโปร์ และมีสำนักงานอยู่ในหลายเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพมหานคร กรุงจากาตาร์ บาหลี และมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังเมืองใหญ่อื่น ๆ ภายในปี 2563 ที่ผ่านมาเวิร์คเมทได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มธุรกิจชั้นนำทั้งในและนอกแวดวงสตาร์ทอัพ โดยลูกค้าในประเทศไทยรวมถึงบริษัท aCommerce, Flash Express, JD Central, Taco Bell, Lazada และ Chilindo และลูกค้าในประเทศอินโดนีเซียมี Grab, Ismaya Group, NinjaVan, Kopi Kenangan และ STOQO ในปี 2561 เวิร์คเมทเป็นผู้ให้บริการจัดหาพนักงานกว่าพันคนให้กับเอเชียนเกมส์ในกรุงจาการ์ตาและปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย