เอไอเอ ประเทศไทย เดินหน้าแคมเปญ “AIA+ Go Green” ปักหมุดภารกิจ ESG ครั้งสำคัญตั้งเป้าเปลี่ยน 100,000 กรมธรรม์ ให้เป็นต้นไม้ 10,000 ต้น ภายในปี 2567

0
54

พร้อมต่อยอดแคมเปญ ภายใต้สโลแกน “ลดการพรินต์ เพิ่มการปลูก สู่หมื่นต้นกับ AIA+”
ชวนลูกค้าลดใช้กระดาษ หันมาใช้ e-Document และ e-Receipt บนแอปพลิเคชัน AIA+

AIA+ (เอไอเอ พลัส)​ แอปพลิเคชันที่​รวมทุกบริการจาก เอไอเอ เพื่อความสะดวกในการจัดการกรมธรรม์แบบครบวงจรตามสโลแกน “แอปเดียวจบ ครบทุกบริการ” เปิดตัวแคมเปญ ESG ครั้งใหญ่ “AIA+ Go Green” ภายใต้สโลแกน “ลดการพรินต์ เพิ่มการปลูก สู่หมื่นต้นกับ AIA+” เชิญชวนผู้ถือกรมธรรม์หันมาดำเนินธุรกรรมไร้กระดาษบนแอปพลิเคชัน  AIA+ กับบริการ e-Document และ e-Receipt โดยตั้งเป้าหมาย 100,000 กรมธรรม์ ภายในสิ้นปี 2567 โดยทุกๆ 10 กรมธรรม์ เอไอเอ จะช่วยปลูกต้นไม้ 1 ต้น เพื่อนำไปสู่การเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศไทย ด้วยการปลูกต้นไม้รวม10,000 ต้น

แคมเปญ AIA+ Go Green เป็นการเดินหน้าตามนโยบาย ESG ของ เอไอเอ ประเทศไทย ที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คนมากมายในสังคมไทยตลอดระยะเวลากว่า 86 ปี โดยเอไอเอตระหนักถึงความสำคัญของการยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจโดยควบคู่กับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social, and Governance – ESG) ซึ่งช่วยส่งเสริมสุขภาพและยกระดับชีวิตของทุกคนให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ทั้งยังตระหนักถึงผลกระทบของภาวะโลกเดือด (Global Boiling) ที่จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการรับมือและแก้ไข

AIA+ จึงริเริ่มแคมเปญ “AIA+ Go Green” ขึ้นเพื่อเชิญชวนให้ผู้ถือกรมธรรม์เอไอเอทุกราย ได้มีส่วนร่วมในการลดการใช้ทรัพยากรและหันมาดำเนินธุรกรรมไร้กระดาษ (Paperless Transactions) ผ่านแอปพลิเคชัน AIA+ และใช้บริการ e-Document (เอกสารอิเล็กทรอนิกส์) และ e-Receipt (ใบเสร็จรับเงินชำระเบี้ยฯ รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์) ที่สะดวก ใช้งานง่าย และสามารถช่วยจัดเก็บทุกเอกสารสำคัญได้อย่างปลอดภัยพร้อมใช้งานตลอดเวลา

ดร. คริสเตียน โรแลนด์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์และดิจิทัล เอไอเอ ประเทศไทย

ดร. คริสเตียน โรแลนด์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์และดิจิทัล เอไอเอ ประเทศไทย เผยว่า “อีกหนึ่งการขับเคลื่อนสำคัญของแนวปฏิบัติ ESG ของ เอไอเอ คือการนำเทคโนโลยียุคดิจิทัลเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพ ความสะดวกสบาย และลดการใช้ทรัพยากรในทุกกระบวนการดำเนินงานของบริษัท นอกจากแคมเปญ AIA+ Go Green จะทำให้ลูกค้าได้ร่วมลดการใช้กระดาษกับเราได้ง่าย ๆ แล้ว เรายังอยากให้ลูกค้าได้รับความสะดวกจากการใช้แอป AIA+ ซึ่งมีระบบความปลอดภัยขั้นสูง ทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าเอกสารสำคัญทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกรมธรรม์ ใบแจ้งยอดชำระเงิน ใบเสร็จรับเงิน ไปจนถึงเอกสารเกี่ยวกับสินไหม จะอยู่ในแอปอย่างปลอดภัยและพร้อมใช้งานตลอดเวลา ช่วยตัดปัญหาการค้นหาเอกสารสำคัญไม่เจอ เรามั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับความสะดวกสบายทุกครั้งที่ใช้แอป AIA+”

สำหรับแคมเปญ AIA+ Go Green เริ่มขึ้นตั้งแต่ 1 สิงหาคม- 31 ธันวาคม 2567 ซึ่ง เอไอเอ ประเทศไทย เชื่อมั่นว่าแคมเปญนี้จะช่วยสร้างพลังการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถเชิญชวนให้ลูกค้ามีส่วนร่วมได้เป็นอย่างดี พร้อมตั้งเป้าเปลี่ยน 100,000 กรมธรรม์ สู่การปลูกต้นไม้ 10,000 ต้น เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและร่วมต่อสู้กับภาวะโลกเดือด (Global Boiling) โดยจะขยายความสำเร็จของโครงการ นำทีมโดย คุณพลับ จุฑาภัทร เหล่าธรรมทัศน์ และทีมผู้บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย พร้อมด้วยพนักงานอาสาสมัครที่จะมาร่วมปลูกต้นไม้ 10,000 ต้น ในต้นปี 2568

คุณอลิสา สิมะโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ เอไอเอ ประเทศไทย

คุณอลิสา สิมะโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ เอไอเอ ประเทศไทย เสริมว่า “แคมเปญ AIA+ Go Green เป็นการตอกย้ำว่าพวกเราทุกคนต่างมีบทบาทในการดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืนร่วมกัน ปัจจุบันที่ เอไอเอ ประเทศไทย เราใช้กระดาษมากกว่า 60,000,000 แผ่นต่อปี เพื่อส่งเอกสารถึงผู้ถือกรมธรรม์ทุกท่าน หากผู้ถือกรมธรรม์เปลี่ยนมารับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ทั้ง e-Document และ e-Receipt ผ่านแอป AIA+ และบรรลุเป้าหมายของแคมเปญ 100,000 กรมธรรม์ภายในสิ้นปี เราจะประหยัดกระดาษได้ถึง 400,000 แผ่น

“เรามั่นใจว่าผู้ถือกรมธรรม์ เอไอเอ จะดาวน์โหลดแอป AIA+ และรับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยแคมเปญ AIA+ Go Green เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่สนับสนุนพันธกิจ AIA One Billion ที่ต้องการให้ผู้คนกว่าหนึ่งพันล้านคนทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้มีส่วนร่วมเพื่อการมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นภายในปี 2573”

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ AIA+ Go Green เพื่อมุ่งสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ลดภาระให้สิ่งแวดล้อม เปลี่ยนสู่ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีความสะดวกและปลอดภัย ด้วยการดาวน์โหลดแอป AIA+ พร้อมสมัครรับบริการ e-Document และ e-Receipt เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยรักษ์โลกไปกับ เอไอเอ ประเทศไทย

ลูกค้า เอไอเอ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน AIA+ และลงทะเบียนรับ e-Document และ e-Receipt ได้แล้ววันนี้ผ่านสมาร์ตดีไวซ์บนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android หรือสแกนคิวอาร์โค้ดด้านล่าง

——————————

*Source:

  1. https://gls.egat.co.th/knowledge/68
  2. https://www.baanlaesuan.com/279152/garden-farm/farming-101/carbon_credit
  3. https://smartgreeny.com/ต้นไม้-1-ต้น-ช่วยลดคาร์บอ/#:~:text=นั้นสามารถช่วยลดคาร์บอน,เฉลี่ย%209%2D15%20กิโลกรัม%2Fปี

เกี่ยวกับกลุ่มบริษัทเอไอเอ

กลุ่มบริษัทเอไอเอ และบริษัทในเครือ (รวมเรียกว่า “เอไอเอ” หรือ “กลุ่มบริษัทเอไอเอ”) เป็นกลุ่มบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และมีการบริหารจัดการอย่างอิสระ มีบริษัทในเครือและสำนักงานสาขาใน 18 ประเทศทั่วเอเชียแปซิฟิก ทั้งในประเทศจีน เขตปกครองพิเศษฮ่องกง(1) ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย กัมพูชา อินโดนีเซีย เมียนมาร์ นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ศรีลังกา ไต้หวัน (จีน) เวียดนาม บรูไน และเขตปกครองพิเศษมาเก๊า(2) และเป็นผู้ถือหุ้นร่วมทุนร้อยละ 49 ในประเทศอินเดีย นอกจากนี้ เอไอเอ ได้เข้าไปถือหุ้นในบริษัทไชน่า โพสต์ ไลฟ์ ประกันชีวิต ในอัตราส่วนร้อยละ 24.99

เอไอเอเริ่มต้นธุรกิจครั้งแรกในเมืองเซี่ยงไฮ้เมื่อศตวรรษที่ผ่านมา ในปี 2462 โดยเป็นผู้นำตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น) ในด้านเบี้ยประกันภัยรับจากธุรกิจประกันชีวิต และเป็นผู้นำตลาดโดยส่วนใหญ่ในภูมิภาค โดยมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 276 พันล้านเหรียญสหรัฐ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566

กลุ่มบริษัทเอไอเอนำเสนอผลิตภัณฑ์ในการออมเงินระยะยาวและความคุ้มครองชีวิตแก่ลูกค้าบุคคลผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ทั้งการประกันชีวิต การประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพ และการวางแผนทางการเงินในวัยเกษียณ นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทเอไอเอยังให้บริการลูกค้าองค์กรผ่านผลิตภัณฑ์สวัสดิการพนักงาน ประกันสินเชื่อ และให้บริการเป็นผู้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพผ่านเครือข่ายตัวแทน พันธมิตรและพนักงานทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเอไอเอมีลูกค้าที่ถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิตรายบุคคลที่มีผลบังคับมากกว่า 41 ล้านกรมธรรม์ และเป็นสมาชิกกรมธรรม์ประกันกลุ่มมากกว่า 17 ล้านคน

กลุ่มบริษัทเอไอเอจดทะเบียนในกระดานหุ้นหลักของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ภายใต้รหัสหลักทรัพย์ “1299” สำหรับ American Depositary Receipts (ระดับ 1) มีการซื้อขายหลักทรัพย์นอกตลาดหลักทรัพย์ (Over-the-Counter) ภายใต้สัญลักษณ์ AAGIY

หมายเหตุ:

  • เขตปกครองพิเศษฮ่องกง (Hong Kong SAR)
  • เขตปกครองพิเศษมาเก๊า (Macau SAR)