TQR เดินหน้าพัฒนากรมธรรม์รูปแบบใหม่ ประเมินอุตสาหกรรมประกันภัยต่อครึ่งปีหลังสดใสหนุนผลงานปี 64 โตเข้าเป้า

0
1506

บมจ.ที คิว อาร์ (TQR) เดินหน้าพัฒนากรมธรรม์รูปแบบใหม่ ร่วมกับบริษัทประกันภัยชั้นนำต่อเนื่อง พร้อมประเมินอุตสาหกรรมประกันภัยต่อครึ่งหลังของปี 64 ยังมีทิศทางที่ดี เนื่องจากความต้องการทำประกันภัยของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ผลจากความเสี่ยงรอบด้านทั้งเศรษฐกิจชะลอตัว และภัยไซเบอร์มากขึ้น ฟากซีอีโอ “ชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์” ระบุ พร้อมรุกขยายธุรกิจให้บริการ เรียนรู้-อบรม ระบบออนไลน์เต็มสปีด เน้นกลุ่มเป้าหมายแรกตัวแทนประกันภัย-นายหน้าประกันภัยในพื้นที่ต่างจังหวัด  มั่นใจช่วยสร้างรายได้ ผลักดันผลงานปี 64 เติบโตตามเป้าหมาย

          นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน)  หรือ TQR ผู้ให้บริการนายหน้าประกันภัยต่อ (Reinsurance Broker) แบบครบวงจร เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ และช่องทางสำหรับกรมธรรม์ประกันภัยรูปแบบใหม่ๆ ร่วมกับบริษัทประกันภัยชั้นนำ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในยุค Next Normal อาทิ การประกันภัยสุขภาพ, การประกันภัยความรับผิดทางวิชาชีพ ตลอดจน การประกันภัยความรับผิดของกรรมการและเจ้าหน้าที่, กรมธรรม์ประกันภัยพืชผลทางการเกษตร 

          ขณะที่ การประกันภัยไซเบอร์ (Cybersecurity Insurance) มีแนวโน้มที่น่าสนใจ เพราะจะเห็นว่าปัจจุบันองค์กรต่างๆ มีความต้องการเป็นอย่างมาก เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ทุกหน่วยงานมีการทำงานในรูปแบบ WFH จึงเปิดช่องให้อาชญากรทางไซเบอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลและระบบการทำงานที่สำคัญขององค์กรได้ง่ายยิ่งขึ้น เฉพาะครึ่งปีแรกของปี 2564 การโจมตีด้วย Ransomware เพิ่มมากถึง 102% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา บริษัทฯ จึงประเมินว่า การประกันภัยไซเบอร์ จะเป็นช่องทางในการสร้างรายได้เพิ่ม เนื่องจากตลาดมีความต้องการสูง ประกอบกับ TQR ได้มีการพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์และความสามารถในการให้บริการจัดหาประกันภัยต่อไว้แล้ว

          รวมทั้งจะรุกขยายอย่างเต็มที่ในส่วนของธุรกิจให้บริการ เรียนรู้-อบรม ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งได้เริ่มมีการนำเสนอลูกค้าไปแล้ว โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของ TQR ระยะแรกจะมุ่งเน้นไปที่ตัวแทนประกันภัย และนายหน้าประกันภัยที่อยู่ในต่างจังหวัด ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจนี้ได้ในทันที

          “บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า ตลาดประกันภัยต่อจะยังคงสามารถเติบโตได้ในช่วงครึ่งปีหลังของ 2564 เนื่องจากในช่วง  2–3 ปีที่ผ่านมา ตลาดประกันภัยต่อยังเป็นตลาดที่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง อัตราเบี้ยประกันภัยต่อได้ถูกปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ให้มีความเหมาะสมกับผลการรับประกันภัย รวมทั้ง ความต้องการการทำประกันภัยในรูปแบบใหม่ๆ มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เพิ่มความระมัดระวังในการรับประกันภัยในภัยที่จะก่อให้เกิดความเสียหาย ได้แก่ โรคระบาด ธุรกิจหยุดชะงัก หรือธุรกิจที่มีผลการรับประกันภัยมีผลต่อเนื่องในระยะยาว เป็นต้น เพื่อบริหารความเสี่ยงให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้ง ได้ขยายการรับประกันภัยไปในธุรกิจหลัก ธุรกิจนายหน้าประภัยต่อแบบทั่วไป มั่นใจว่า จะช่วยหนุนผลงานทั้งรายได้และกำไรให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้ได้” นายชนะพันธุ์กล่าว

          นางยุพเรศ พิริยะพันธุ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TQR กล่าวว่า ธุรกิจการให้บริการ ซึ่งเป็นการต่อยอดจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อ โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างดำเนินการจัดตั้งบริษัท อาร์สแควร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับบริษัท คอร์สสแควร์ จำกัด  โดย TQR ถือหุ้นในสัดส่วน 55%  เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อการศึกษา และการเรียนรู้ออนไลน์ โดยมีการนำเทคโนโลยีที่สามารถระบุตัวตนผู้ใช้งานหรือ Face Detection and Face Recognition มาใช้งาน ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) ที่สามารถช่วยในการตรวจสอบ และระบุตัวตนผู้เข้าอบรมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

          “จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่จะเปลี่ยนไปจากเดิม โดยหันมาทำธุรกรรมที่จำเป็นต่างๆ ในรูปแบบออนไลน์กันมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งการฝึกอบรมในรูปแบบออนไลน์จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางหรือการอยู่ในที่มีคนจำนวนมาก ดังนั้น TQR จึงเชื่อมั่นว่า เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย บริษัท อาร์สแควร์ฯ(R Square) สามารถช่วยเสริมศักยภาพและประสิทธิภาพในการฝึกอบรมออนไลน์จะเป็นสิ่งที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ในอนาคต” นางยุพเรศกล่าว

          อนึ่ง ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2564 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 57.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.58%  และมีรายได้รวม 93.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.18%  สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 68.93 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 51.20%  ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 136.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.76%