TikTok เผยข้อมูลเชิงลึกรับเทศกาลสงกรานต์และซัมเมอร์ปี 2567 เร่งการเติบโตของแบรนด์และการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค ด้วยโซลูชันพิเศษแบบครบวงจร TikTok สามารถสร้างการมีส่วนร่วมและมอบโอกาสการเติบโตอย่างที่ ไม่เคยมีมาก่อนให้กับแบรนด์ต่างๆ ตลอดช่วงซัมเมอร์นี้

0
281

TikTok เผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดและผู้บริโภคสำหรับเทศกาลสงกรานต์และซัมเมอร์ประจำปี 2567 ที่กำลังจะมาถึง โดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจของแบรนด์ต่างๆ ให้ได้มากยิ่งขึ้นในช่วงฤดูกาลที่สดใสนี้ ซึ่ง TikTok ได้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่เน้นการใช้ประโยชน์จากความบันเทิงเพื่อขับเคลื่อนการเติบโต ผ่านเนื้อหาที่ให้ความสนุกสนานเป็นหลักและสร้างผลลัพธ์ได้อย่างสร้างสรรค์ในวงกว้าง ช่วยส่งเสริมให้ แบรนด์สามารถมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น เทศกาลสงกรานต์ปี 2567 นี้ได้ถูกกำหนดให้เป็นงานสำคัญที่คาดว่าจะติดอันดับหนึ่งใน 10 สถานที่จัดงานเทศกาลระดับโลก ด้วยการสนับสนุนของรัฐบาลไทย ซึ่งตลอดทั้งเดือนเมษายน TikTok จะทุ่มเทให้กับการเฉลิมฉลองประเพณีสุดยิ่งใหญ่นี้ ด้วยการคัดสรรเนื้อหาที่เกี่ยวข้องมารวบรวมไว้บนแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญสำหรับแบรนด์ต่างๆ ในการเชื่อมต่อและดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงที่เพิ่มมากขึ้นของแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมและยอดขายในช่วงการเทศกาลครั้งสำคัญนี้ ขับเคลื่อนผลลัพธ์การเติบโตด้วยความบันเทิง


จากการศึกษาข้อมูลผู้บริโภคร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำหลายรายพบว่า TikTok ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการค้นพบความบันเทิงทุกประเภทที่นำไปสู่แรงบันดาลใจและการลงมือทำ ที่ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการค้นพบความสุขยังและเป็นศูนย์กลางสำหรับเทรนด์และการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลสงกรานต์และซัมเมอร์อย่างแท้จริง ซึ่งเนื้อหาของแพลตฟอร์มมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญในช่วงสงกรานต์เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยในปี 2566 มีจำนวนคอนเทนต์วีดีโอเพิ่มขึ้น 4.4 เท่าและยอดดูวิดีโอเพิ่มขึ้น 3.4 เท่าในหมวดหมู่ที่หลากหลายตั้งแต่อาหารไปจนถึงการเงินที่สามารถดึงดูดผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ จากสถิติยังเผยให้เห็นถึงข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจของพฤติกรรมของผู้ใช้ที่ระบุว่า
• ผู้ใช้ 9 ใน 10 รายพบเนื้อหาที่พวกเขาชื่นชอบบนแพลตฟอร์ม และ 1 ใน 3 ใช้ TikTok เป็นเครื่องมือในการค้นหาข้อมูลต่างๆ
• อิทธิพลของแพลตฟอร์มนี้สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน เนื่องจาก 82% ของการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้รับอิทธิพลจากเนื้อหาความบันเทิง
• 85% คาดหวังว่าแพลตฟอร์มโซเชียลและความบันเทิงจะนำเสนอเนื้อหาของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ได้อย่างครบถ้วน
• พร้อมกันนี้ผู้ใช้ TikTok ชาวไทยกว่า 83% ยังค้นหาเนื้อหาเกี่ยวกับสงกรานต์และซัมเมอร์บน TikTok และ 86% คาดว่าจะใช้เวลาบน TikTok มากกว่าปกติในช่วงซัมเมอร์และเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง
• ผู้ใช้ 64% พึ่งพาแพลตฟอร์มเพื่อติดตามเทรนด์ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาล
• กว่า 56% บอกว่า TikTok ช่วยทำให้พวกเขาค้นพบการเปิดตัวสินค้าที่น่าสนใจอยู่เสมอ
• ผู้ใช้งาน TikTok ชาวไทยจำนวนกว่า 50% ยังได้แรงบันดาลใจจากคอนเทนต์ความบันเทิงให้ซื้อสินค้าที่กำลังมาแรง พร้อมทั้งยังมองหาโปรโมชั่นต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงสงกรานต์บนแพลตฟอร์ม เพื่อวางแผนการใข้จ่ายเงินโบนัสของพวกเขา
สิ่งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงโอกาสครั้งสำคัญสำหรับแบรนด์ต่างๆ ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของตัวเองด้วยการประยุกต์ใช้ความคิดสร้างสรรค์ควบคู่กับความบันเทิง เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่สนุกสนานของผู้บริโภคในช่วงสงกรานต์และซัมเมอร์นี้บน TikTok

สงกรานต์และซัมเมอร์ คือ ช่วงเวลาแห่งการให้รางวัลกับตัวเอง
ข้อมูลของ TikTok เน้นย้ำถึงการใช้จ่ายและการให้รางวัลกับตัวเองของผู้บริโภคในช่วงสงกรานต์และซัมเมอร์ที่เพิ่มมากขึ้น ผู้ใช้ 98% ตั้งใจที่จะซื้อสินค้าออนไลน์ และ 95% จะซื้อสินค้าแบบออฟไลน์ในช่วงสงกรานต์และซัมเมอร์ปีนี้ พร้อมกันนี้ 80% ของผู้ใช้ยังวางแผนที่จะช้อปปิ้งบน TikTok Shop ในช่วงเวลาดังกล่าวด้วยเช่นกัน ซึ่งหมวดหมู่สินค้าที่ผู้ใช้วางแผนที่จะทำการช้อปปิ้งในช่วงซัมเมอร์และสงกรานต์นี้ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม ยานยนต์ ผลิตภัณฑ์เสริมความงามและของใช้ส่วนตัว อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ สินค้าแฟชันและเครื่องประดับ และการท่องเที่ยว

• 90% ของผู้ใช้วางแผนที่จะใช้เงินซื้ออาหารและเครื่องดื่มในช่วงสงกรานต์และซัมเมอร์ ซึ่งคาดว่าจะใช้จ่ายเพิ่มมากในขึ้นถึง 52% มากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ของปี
• ผู้บริโภคตั้งใจที่จะใช้จ่ายกับผลิตภัณฑ์ด้านความงามและของใช้ส่วนตัวมากขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาอื่นๆ ของปี โดยมีผู้บริโภคจำนวน 67% (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 75% ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ให้ความสำคัญกับสินค้าในหมวดหมู่นี้
• 65% ของผู้บริโภคเริ่มมองหาข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อยานพาหนะตั้งแต่เดือนมกราคม ซึ่ง 85% ของผู้บริโภควางแผนที่จะซื้อรถยนต์ และ 45% วางแผนที่จะซื้อรถมอเตอร์ไซค์ในช่วงสงกรานต์นี้ โดย 54% ต้องการให้ครอบครัวได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางในช่วงวันหยุด และอีก 49% ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กำลังจะมาถึง
• คาดว่าจะมีการใช้จ่ายกับอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์มากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ของปีถึง 60% และผู้บริโภค 64% วางแผนที่จะซื้อสินค้าดังกล่าวในช่วงเวลานี้ (เพิ่มขึ้น 1.7 เท่าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)

นอกจากนี้สงกรานต์และซัมเมอร์ยังเป็นช่วงเวลาที่ผู้บริโภควางแผนเกี่ยวกับการใช้เงินโบนัสด้วยเช่นกัน โดยผู้ใช้ 7 ใน 10 วางแผนที่จะใช้เงินโบนัสไปกับการช้อปปิ้ง และ 6 ใน 10 วางแผนที่จะใช้เงินโบนัสไปกับการท่องเที่ยวหรือเฉลิมฉลองกับครอบครัวและเพื่อนๆ ในขณะที่ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยก็วางแผนที่เก็บออมเงินโบนัสดังกล่าวไว้ โดย 72% ของผู้บริโภคกำลังพิจารณาผลิตภัณฑ์ทางด้านการเงินต่างๆ และ 50% กำลังพิจารณาเรื่องกรมธรรม์ประกันปัจจุบันของตนเอง สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายและการเก็บออกเงินอย่างสมดุลของผู้บริโภค ซึ่งแบรนด์ต่างๆ สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกของ TikTok ด้วยการปรับข้อเสนอของแบรนด์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคและเพิ่มการมีตัวตนบนแพลตฟอร์ม เพราะนี่ถือเป็นโอกาสสำคัญในการเข้าถึงการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายและกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มมากขึ้น

เชื่อมต่อกับผู้บริโภคอย่างสร้างสรรค์
TikTok ได้นำเสนอแนวทางแบบบูรณาการในการเชื่อมต่อกับผู้บริโภคในช่วงสงกรานต์และซัมเมอร์ ที่ผสมผสานเนื้อหาที่เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลางเข้ากับเทรนด์ตามฤดูกาลเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของแบรนด์ให้ได้มากที่สุด โดยเน้นที่การให้คำแนะนำช่วงสงกรานต์และซัมเมอร์ ซึ่งมีผู้ใช้ 61% มองหาคำแนะนำดังกล่าว ขณะเดียวกันก็ได้รับความสนใจจากผู้ใช้ 64% ในสินค้ารุ่นพิเศษหรือลิมิเต็ดประจำฤดูกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มใหม่ๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้มากขึ้น ผู้ใช้ 73% มักสนใจเนื้อหาที่รวมเอาองค์ประกอบของสงกรานต์และซัมเมอร์เข้าด้วยกัน ซึ่ง TikTok ได้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการมอบแรงบันดาลใจและเทรนด์ที่กำลังมาแรงด้วยการรวบรวมแฮชแท็ก เพลง ครีเอเตอร์ และวิดีโอที่น่าสนใจ ไว้บน TikTok Creative Center ที่แบรนด์สามารถนำไปต่อยอดในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ รวมถึงการใช้แฮชแท็กอย่างเป็นทางการ เช่น #สงกรานต์2567 ยังถือเป็นกลยุทธ์หลักในการดึงดูดผู้คนในช่วงพีคนี้ ที่ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ มีส่วนร่วมกับคอมมูนิตี้ และสร้างแรงบันดาลใจผ่านเนื้อหาที่กำลังมาแรงบนแพลตฟอร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ แบรนด์สามารถนำเอาแนวทางดังกล่าวไปปรับใช้ได้อย่างสร้างสรรค์ โดยกระตุ้นให้ครีเอเตอร์ดึงดูดผู้ชมโดยใช้เพลงและดนตรีที่กำลังมาแรงในช่วงเวลานั้น ใช้แฮชแท็กและตัวกรองเฉพาะ ให้คำแนะนำและเคล็ดลับที่เหมาะสมกับช่วงเวลา ทั้งนี้ TikTok ยังสนับสนุนให้นำเอาเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นๆ มาใช้กับคอนเทนต์ของแบรนด์อย่างสร้างสรรค์ และเน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับผู้ชมผ่านการร่วมงานกับครีเอเตอร์

ขับเคลื่อนความสำเร็จผ่านโซลูชันนวัตกรรมของ TikTok
TikTok ตั้งเป้าส่งเสริมความสำเร็จของธุรกิจในช่วงเทศกาลสงกรานต์และซัมเมอร์ปีนี้ ด้วยโซลูชั่น ครบวงจร (Full-Funnel) ที่ได้รับอัปเดตล่าสุด โดยแพลตฟอร์มมีตัวเลือกมากมายสำหรับแบรนด์ เพื่อยกระดับการเดินทางของผู้ใช้ตั้งแต่การค้นพบไปจนถึงการซื้อด้วยโซลูชัน อันได้แก่ TopView ที่ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ In-feed Branding Ads เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมที่จะช่วยกระตุ้นสัญชาตญาณการซื้อ Branded Mission & Branded Effect เพื่อการมีส่วนร่วมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และ TikTok Shopping Ads เพื่อกระตุ้นคอนเวอร์ชั่น เครื่องมือเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มการมองเห็นให้แบรนด์ต่างๆ และการมีส่วนร่วมกับฐานผู้ใช้งานอันกว้างใหญ่และมีไดนามิกของ TikTok ในช่วงเทศกาล

“TikTok มุ่งมั่นในการเป็นแพลตฟอร์มในการจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และมอบความสุข ซึ่งจากข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ทำให้เห็นว่าความบันเทิงสามารถยอดและปลดล็อกโอกาสทางการตลาดให้กับแบรนด์ต่างๆ ได้อย่างมากมายในช่วงสงกรานต์และตลอดทั้งซัมเมอร์นี้ โดยแบรนด์สามารถเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ TikTok คอมมูนิตี้ ผ่านการใช้ประโยชน์จากโซลูชันที่ครบวงจรของเราในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ความบันเทิงที่ดึงดูดให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับ แบรนด์มากขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตทางการขายและบรรลุเป้าหมายทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นางสาวชลธิชา งามกมลเลิศ Head of Client Partnership, TikTok ประเทศไทย กล่าว


เกี่ยวกับ TikTok
TikTok คือ แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นชั้นนำระดับโลก พันธกิจของ TikTok คือ การจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และมอบความสุขให้กับผู้คน TikTok มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ลอสแองเจลิสและสิงคโปร์ และสำนักงานสาขาอื่นๆ ได้แก่ นิวยอร์ค ลอนดอน ดับลิน ปารีส เบอร์ลิน ดูไบ จาการ์ตา โซล และโตเกียว