ประกันภัยรถยนต์ ถือเป็นประกันที่สำคัญกับรถและผู้ขับขี่ทุกคน เพราะการใช้รถใช้ถนนมีความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา ทุกวันนี้มีประกันรถยนต์ให้เลือกจำนวนมาก แต่เมื่อถึงเวลาเลือกซื้อจริงก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า ประกันภัยตัวไหนที่เหมาะกับเรา ไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน ย่อมเหมาะกับประกันภัยรถยนต์ที่ต่างกันด้วย วันนี้ TIC ไทยประกันภัย ผู้นำด้านนวัตกรรมประกันภัย กลุ่มบริษัท Thai Group Holdings จะแนะนำการเลือกประกันภัยรถยนต์ตามไลฟ์สไตล์ของคุณ
รถใหม่ ขับบ่อย ชอบเดินทางไกล อุ่นใจแบบ 360 องศา ต้องประกันภัยชั้น 1
หากคุณมีรถใหม่ หรือรถที่อายุไม่เกิน 7 ปี ใช้รถเป็นประจำ จะขับใกล้ ๆ จากบ้านไปออฟฟิศ หรือเดินทางไกลท่องเที่ยววันหยุด และมองหาความสบายใจทุกนาทีบนท้องถนน รวมทั้งมีความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกันภัยที่สูง ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณที่สุด ยิ่งมือใหม่แล้วล่ะก็ มี ชั้น 1 ไว้ อุ่นใจแน่นอน
ความคุ้มครอง: ประกันภัยชั้น 1 คุ้มครองความเสียหายทั้งตัวรถของคุณ และตัวรถและทรัพย์สินของคู่กรณี ทั้งรถชนรถ (เคลมสด) และอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนวัตถุอื่นใดที่ไม่ใช่รถ (เคลมแห้ง) เช่น เสาไฟฟ้า รั้วบ้าน ต้นไม้ อีกด้วย นอกจากนี้ประกันภัยชั้น 1 ยังคุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วมและถูกโจรกรรม พร้อมคุ้มครองอุบัติเหตุของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมทั้งคู่กรณี เมื่อบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เรียกได้ว่าประกันภัยชั้น 1 ครอบคลุมดูแล 360 องศา
รถไม่ใหม่ ขับเก่ง ใช้รถเป็นประจำ แต่อยากสบายประเป๋าเพิ่มขึ้น ต้องประกันภัยชั้น 2+
หากคุณขับรถมานาน มีความเชี่ยวชาญในการขับขี่ ขับรถคล่อง เลี้ยว ถอย จอด ไม่มีพลาด รถที่ขับอยู่ไม่ได้เป็นรถใหม่ มองหาความคุ้มครองที่ครอบคลุม แต่ก็อยากลดภาระของเบี้ยประกันด้วยเช่นกัน ไลฟ์สไตล์แบบนี้ต้องประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+
ความคุ้มครอง: ประกันภัยชั้น 2+ มีความคุ้มครองที่ครอบคลุมเหมือนกับประกันภัยชั้น 1 แทบจะทุกอย่าง ยกเว้นเพียงแค่ผู้เอาประกันภัยสามารถเคลมการชนได้เฉพาะเมื่อมีคู่กรณีเท่านั้น พูดง่าย ๆ ก็คือเคลมสดได้ แต่เคลมแห้งไม่ได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ตามมาด้วยก็คือเบี้ยประกันภัยที่ถูกลง
ขับไม่บ่อย ไร้กังวลเรื่องรถหายน้ำท่วม เน้นอุ่นใจจากอุบัติเหตุ ต้องประกันภัยชั้น 3+
หากคุณไม่ได้ขับรถเป็นประจำหรือขับทางไกลบ่อย ๆ และเชื่อว่ารถของคุณไม่มีความเสี่ยงเรื่องการโจรกรรม สูญหาย ไฟไหม้หรือน้ำท่วม ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ คือตัวเลือกที่เหมาะกับคุณ
ความคุ้มครอง: ประกันภัยชั้น 3+ ดูแลครอบคลุมคล้าย ๆ กับชั้น 2+ ก็คือคุ้มครองรถ ทรัพย์สินและตัวบุคคล เมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีเท่านั้น แต่ชั้น 3+ จะไม่คุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วมหรือถูกโจรกรรม ไม่เพียงเท่านี้ ประกันชั้น 3+ ยังดูแลอุบัติเหตุส่วนบุคคลของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมทั้งค่ารักษาพยาบาลและการประกันตัวผู้ขับขี่จากคดีอาญาเช่นเดียวกับชั้น 1 และชั้น 2+
ขับน้อยมาก รถเก่า รับความเสี่ยงได้สูง ต้องประกันภัยชั้น 3
ประกันภัยชั้น 3 เหมาะกับผู้ขับขี่ที่ไม่ค่อยได้ขับรถหรือใช้รถน้อยมาก ไม่มีความเสี่ยงเรื่องการโจกรรมหรือน้ำท่วม รับความเสี่ยงเรื่องค่าใช้จ่ายหากเกิดอุบัติเหตุได้สูง แต่ก็อยากมีความอุ่นใจเมื่อต้องรับผิดชอบรถยนต์ของคู่กรณี
ความคุ้มครอง: ประกันภัยชั้น 3 คุ้มครองเฉพาะกรณีเกิดอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีและคุ้มครองความเสียหายให้แก่คู่กรณีเท่านั้น ไม่คุ้มครองความเสียหายหรือค่าซ่อมรถของผู้เอาประกันภัย อย่างไรก็ตามผู้เอาประกันภัยเองยังได้รับความคุ้มครองในส่วนของอุบัติเหตุส่วนบุคคลและค่ารักษาพยาบาลเช่นเดียวกับประกันภัยชั้น 1 ชั้น 2+ และชั้น 3+
หลายคนตอนนี้พอจะเริ่มรู้แล้วว่ารถของตัวคุณเองต้องการประกันภัยรถยนต์แบบไหนที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจ TIC ไทยประกันภัย ขอนำเสนอประกันภัยรถยนต์ 2+ 3+ ขับดีมีคืน ที่จะมอบเงินคืนให้คุณ 20% หากคุณขับรถดี ไม่มีการเคลมเลยในรอบปีกรมธรรม์ นอกจากนี้ลูกค้าที่ซื้อประกันภัยกับ TIC ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 21 รางวัลตลอดปี และรางวัลใหญ่รถยนต์ Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety มูลค่า 1,199,000 บาท ในแคมเปญ TIC ไทยประกันภัย ซื้อปุ๊บ คุ้มครองปั๊บ ลุ้นรับ โชค 2 ชั้น
หากสนใจสามารถลองคำนวนเบี้ยประกันภัยสำหรับรถคุณได้ง่าย ๆ บนหน้าเว็บไซต์ของเรา หรือถ้าตัดสินใจได้แล้ว ก็จัดเลย ไม่ต้องรอ ซื้อประกันภัยรถยนต์กับ TIC ไทยประกันภัย แค่เพียงปลายนิ้วคลิกที่ https://pchangonline.thaiins.com/ หรือ Line @Pchang ได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมทาง Call Center โทร. 02-613-0123 (ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง)
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
*ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำ
เกี่ยวกับบมจ.เครือไทย โฮลดิ้งส์
บมจ.เครือไทย โฮลดิ้งส์ (TGH) จดทะเบียนก่อตั้งเป็นบริษัทมหาชน เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2561 มีลักษณะการประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจการเงิน และธุรกิจอื่น ๆ ที่มีความสามารถในการสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน บริษัทฯ มีการลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจหลัก 3 ธุรกิจ กล่าวคือ ธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจประกันภัย และธุรกิจลีสซิ่ง ได้แก่ ธุรกิจประกันชีวิต ผ่านบริษัท อาคเนย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ธุรกิจประกันวินาศภัย ผ่านบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ธุรกิจการเงิน ผ่านบริษัท อาคเนย์แคปปิตอล จำกัด