PFS จัดงานฉลองครบรอบ 30 ปี “SYNERGY OF SUCCESS” จัดเสวนา “คิดและปรับตัวกับทุกมิติที่เพื่อเข้าถึงแหล่งอาหารโลกอย่างยั่งยืนในอนาคต”

0
27

บริษัท พรีเซิร์ฟ ฟู้ด สเปเชียลตี้ จำกัด ผู้นำการผลิตอาหารอบแห้งแบบครบวงจรของประเทศไทย ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ดรีมมี่ และ ไบท์มี นำโดย คุณวรภาส มหัทธโนบล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเซิร์ฟ ฟู้ด สเปเชียลตี้ จำกัด

ร่วมด้วย คุณภาพร มหัทธโนบล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเซิร์ฟ ฟู้ด สเปเชียลตี้ จำกัด และ คุณภาณุ มหัทธโนบล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท พรีเซิร์ฟ ฟู้ด สเปเชียลตี้ จำกัด

จัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปี “PFS’s 30 Years : SYNERGY OF SUCCESS” เปิดตราสัญลักษณ์ใหม่ของ บริษัท พรีเซิร์ฟ ฟู้ด สเปเชียลตี้ จำกัด พร้อมการเสวนาในหัวข้อ “Food Insecurity and the next chapter” คิดและปรับตัวกับทุกมิติที่ผู้บริโภคต้องการเพื่อเข้าถึงแหล่งอาหารโลกอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. วิษุวัต สงนวลหัวหน้าภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

และคุณเชอรี่ เข็มอัปสร สิริสุขะ ร่วมเสวนา โดยมีคุณเอ วราวุธ เจนธนากุล ประธานบริษัท เซ้นส์ มอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นผู้ดำเนินรายการ ณ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพ ราชประสงค์

คุณวรภาส มหัทธโนบล กรรมการผู้จัดการ กล่าว “ตลอดระยะเวลา 30 ปีของ PFS คือ ความมุ่งมั่น ขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ๆ ในเทคโนโลยีการถนอมอาหารอย่างต่อเนื่อง เราได้มุ่งมั่นในการพัฒนา คุณภาพ การถนอมอาหารและมาตรฐานการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพันธมิตร และผู้บริโภคของเรา เราเชื่อมั่นว่าคุณภาพคือหัวใจสำคัญที่ทำให้เราเป็นผู้นำในการผลิตแบบครบวงจร ในอนาคต”

“ในโอกาสครบรอบ 30 ปีนี้ บริษัทฯ มีความภูมิใจที่จะเปิดตัวอีกวิวัฒนาการหนึ่ง สำหรับการเปลี่ยนแปลง โลโก้ของบริษัท PFS ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ใหม่ที่จะสะท้อนถึงวิสัยทัศน์และพันธกิจของ PFS ในอนาคต โลโก้ใหม่ของ PFS จะไม่เพียงแต่เป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงการเติบโต แต่จะเป็นสัญญาใจของ PFS ต่อทุกๆ พันธมิตรธุรกิจของ PFS ที่ต้องการเป็นศูนย์รวมแบบครบวงจรในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคไว้วางใจอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง และ PFS จะยังคงมุ่งมั่นก้าวต่อไปสู่อนาคตด้วยนวัตกรรมการผลิต สร้างผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ส่งเสริมสุขภาพของผู้คนบนโลก พร้อมกับการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน”

“การเติบโตด้านยอดขายของบริษัทฯ มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดมาตลอดสามทศวรรษ โดยใน10 ปีแรก ปี 2003 ยอดปิดที่ 397 ล้านบาท ปี 2010 ยอดขายแตะ 1,332 ล้านบาท ในปีที่ 20 ปี 2013 ยอดขายเพิ่มกว่า 2,272 ล้านบาท และรอบปีที่ผ่านมา 2024 ปิดยอดที่ 4,604 ล้านบาท

คุณภาณุ มหัทธโนบล ผู้จัดการทั่วไป กล่าว “ในการเริ่มต้นเข้าทศวรรษที่ 4 เราตั้งเป้าการยอดขายเติบโต 7,000 ล้านบาท ภายในปี 2030 ด้วยกลยุทธ์การขยายตลาด และออกสินค้าใหม่ในกลุ่ม Health & Well-being เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่รักสุขภาพ ด้วยก้าวแรกของปีนี้ กับกสินค้าใหม่ 3 กลุ่ม ได้แก่ Bite Me Yogurt Smoothie Freeze Dry 3 สูตร ประกอบด้วย สูตร Vitamin C, Vitamin E, Fiber และ Dreamy Fruit Tea with Stevia 5 รสชาติ ประกอบด้วย Apple, Yuzu, Peach, Mixed Berries, Honey Lemon และสุดท้ายเป็น Dreamy Natural Oat Milk Creamer เป็นครีมเมอร์จากน้ำมันมะพร้าวและโปรตีนนมโอ๊ต”
คุณภาณุ กล่าวต่อ “โดย Strategic Support มาจากการเพิ่มกำลังการผลิตทั้ง Freeze dry และ Spray Dry พร้อมทั้งการเปิดสายการผลิตเพิ่มในกลุ่ม Frozen ด้วยเทคโนโลยี Individual Quick Frozen หรือ IQF และสำคัญ ที่สุดที่จะขาดไปไม่ได้เลย คือ การผลักดัน R&D Technical Center เพื่อการวิจัยและพัฒนาสินค้า กลุ่มนวัตกรรม ที่สอดรับกับ global health and sustainability trend ด้วย”

สำหรับเสวนา “Food Insecurity and the next chapter” ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ได้ตระหนักถึงวิกฤตการณ์ภาวะ โลกร้อน เอลนินโญ่ ลานินญ่า ทำให้แหล่งอาหารตามธรรมชาติของมนุษย์ลดลง แปรผกผันกับจำนวนประชากรโลก ที่เพิ่มขึ้น เกิดความไม่มั่นคงทางอาหาร (Food Insecurity) ภาคการผลิต เกษตร และอุตสาหกรรม จำเป็นต้องคิด และปรับตัว เพื่อเข้าถึงแหล่งอาหารโลกในอนาคต (Future Food) นวัตกรรมการแปรรูปอาหาร จะเป็นแรงขับเคลื่อน สำคัญ ในการถนอมและรักษาคุณค่าของทรัพยากรโลก เพื่อเป็นแหล่งอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม