การเป็นผู้นำนั้นเป็นการทำงานให้สำเร็จผ่านการนำผู้อื่น ดังนั้น ความสามารถในการนำที่ผ่านการประสานความร่วมมือของคนในทีมจึงเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างผลงาน ซึ่งจากประสบการณ์การเป็นผู้นำที่ผ่านของผม ได้ใช้หลักการ 8 ประการของการเป็นผู้นำที่ประสานความร่วมมือของทุกคนได้อย่างดี ดังนี้
1.การสื่อสารทั้งวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมายและกลยุทธ์ให้ทุกคนเข้าใจ
พลังทีมที่ยิ่งใหญ่เริ่มจากการมีส่วนร่วมในการคิดตั้งแต่ต้น และเมื่อมีการสรุปออกมาเป็นวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมายและแผนกลยุทธ์แล้ว ผู้นำต้องสื่อสารและเน้นย้ำทำความเข้าใจอยู่บ่อยๆ เพื่อให้คนในองค์กรมองเห็นภาพ เข้าใจและมีอารมณ์ความรู้สึกร่วม โดยเฉพาะการสื่อให้เห็นภาพวิสัยทัศน์ที่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อชีวิตของทุกคนในองค์กร และการทำความเข้าใจกลยุทธ์องค์กร เพื่อให้แกนนำระดับถัดไปสามารถไปคิดวางแผนกลยุทธ์ระดับฝ่ายเพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ที่อยู่ในระดับใหญ่กว่า ผู้นำจึงจะสามารถขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายได้
2.มอบอำนาจให้แก่คนที่เป็นผู้ปฏิบัติงานในระดับต่างๆ
ทุกวันนี้สถานการณ์ต่างๆมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและซับซ้อนขึ้น ผู้นำจึงต้องไม่รวมศูนย์อำนาจไว้ที่ตัวเองคนเดียว ต้องมอบอำนาจออกไปให้คนที่มีบทบาทหน้าที่รับผิดชอบในระดับต่างๆเพื่อให้เขาเหล่านั้นสามารถตัดสินใจในเรื่องที่มีผลต่อการไปต่อของธุรกิจได้
3.ชี้ให้แต่ละคนมองเห็นบทบาทของตนเองอย่างชัดเจน
การทำงานร่วมกันในองค์กร บทบาทที่แต่ละคน แต่ละฝ่ายทำ ล้วนแล้วแต่ต้องเป็นการเคลื่อนความก้าวหน้าให้องค์กรสามารถบริการลูกค้าได้ดีขึ้น ซึ่งมีทั้งลูกค้าภายในและลูกค้าภายนอก แต่ละคนแต่ละฝ่ายมีบทบาทที่ส่งเสริมให้ใครบางคนในองค์กรทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีขึ้น เปรียบเสมือนทีมฟุตบอลที่นักเตะแต่ละตำแหน่ง มีบทบาทที่ชัดเจนในการเล่นเพื่อสนับสนุนผู้เล่นคนอื่นๆ จนทำให้ทีมสามารถยิงประตูและลดโอกาสการเสียประตูนั่นเอง
4.แสดงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะปฏิบัติพันธกิจให้สำเร็จลุล่วง
ผู้นำต้องแสดงออกถึงความมุ่งมั่นที่เอาจริงจนกลายเป็นบุคลิกที่ทุกคนยอมรับในความเอาจริง ในขณะที่สามารถรักษาบรรยากาศของพลังทีมในการขับเคลื่อนเป้าหมาย โดยยึดมั่นในพันธกิจที่สำคัญกว่าแค่งานตรงหน้า ซึ่งจะส่งผลให้ผู้นำมีพลังในการขับเคลื่อนที่สูงพอจนยืนหยัดเผชิญกับทุกๆอุปสรรคปัญหาได้
5.เรียนรู้ที่จะฟังผู้อื่นและกล้าที่จะพูด
การฟังเป็นทักษะแห่งการสื่อสารที่สำคัญที่สุดของผู้นำ เพราะมันหมายถึงการให้เกียรติผู้อื่นและช่วยทำให้เรามีความเข้าใจประเด็นต่างๆอย่างถูกต้อง อีกทั้งทำให้ผู้ร่วมงานรู้สึกมีตัวตนและพร้อมที่จะทุ่มเทให้กับทีมอย่างเต็มที่ นอกจากนั้น ผู้นำยังต้องกล้าที่จะพูดแสดงข้อคิดเห็น กล้าที่จะสะท้อนให้ผู้คนยอมปรับปรุงตนเองและกล้าที่จะโน้มน้าวให้คนในทีมทำในสิ่งที่ควรทำอีกด้วย
6.การให้ผู้คนมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น
การบริหารความร่วมมือที่ดีที่สุดเกิดจากการเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะตั้งแต่ต้น เมื่อแต่ละคนได้ร่วมอยู่ในบรรยากาศของการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และอยู่ในกระบวนการหาข้อสรุปร่วมกันตั้งแต่ต้น ทำให้ความรู้สึกต้องช่วยกันรับผิดชอบมันเข้มข้นกว่าการถูกสั่งให้ทำ การขอความร่วมมือจึงเกิดขึ้นง่ายกว่า
7.การประชุมเพื่อทบทวนผลลัพธ์และการหาแนวทางปรับปรุงเพื่อทำให้ดียิ่งขึ้น
ทีมงานที่จะให้ความร่วมมือกัน จำเป็นต้องมีการประชุมในรอบเวลาที่แน่นอน เช่นการประชุมรายสัปดาห์หรือรายเดือน เพื่อทบทวนผลงาน การค้นหาปัญหาและแนวทางแก้ไข เมื่อมีการประชุมอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ทีมงานมีรอบการเรียนรู้และมีการปรับปรุงจนได้แนวทางแก้ปัญหาที่ตรงกว่า
8.การพัฒนาความสามารถผู้เล่นรายคนและยกระดับการทำงานเป็นทีมให้ดีขึ้น
ผู้นำต้องมองให้ออกว่า ผู้เล่นในทีมแต่ละคนมีจุดอ่อน จุดแข็งด้านไหนบ้าง และต้องมีแผนการในการพัฒนาผู้เล่นให้มีความสามารถในด้านที่จำเป็นของแต่ละบทบาท เพื่อให้สามารถดูแลรับผิดชอบงานของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิผล อีกทั้งต้องพัฒนาทัศนคติและปรับปรุงคุณลักษณะประจำตัวให้สามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมได้
หากผู้นำท่านใดใช้หลักการ 8 ประการนี้ ก็จะสามารถสร้างความร่วมแรงร่วมใจจากทีมงานได้ดีขึ้น และเป็นที่มาของการยกระดับผลงานของทีมให้ประสบความสำเร็จในระดับสูงขึ้นได้อย่างแน่นอน