กว่า 60 ปี ของ “NIKOYO Rubber Parts” ยืนหยัดในวงการผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ช่วงล่างรถ ด้วยคุณภาพยอดเยี่ยม มาพร้อมบริการรวดเร็ว ทำให้สินค้าเป็นที่ยอมรับ สามารถส่งออกสินค้าไปมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก และปัจจุบัน กำลังยกระดับอีกขั้น เดินหน้าสู่ธุรกิจสีเขียว และสอดรับการเติบโตของรถไฟฟ้า โดยมี SME D Bank ธนาคารเพื่อเอสเอ็มอีไทย ช่วยสนับสนุนสินเชื่อ “SME Green Productivity” เพื่อลงทุนใช้พลังงานสะอาด ช่วยลดต้นทุน และตอบโจทย์คาร์บอนเครดิต ปูทางขยายตลาดใหม่ โดยเฉพาะยุโรป และสร้างความยั่งยืน ดีต่อธุรกิจและดีต่อโลก
คุณโสภณ เลิศรัตนปรีชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส.ที.รับเบอร์ แฟคตอรี่ จำกัด ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์อะไหล่ช่วงล่างสำหรับรถยนต์ ซึ่งผลิตจากยางธรรมชาติ เช่น ลูกหมาก เหล็กแท่น เครื่องยนต์ ฯลฯ ภายใต้แบรนด์ “NIKOYO Rubber Parts” ดำเนินธุรกิจมาแล้วกว่า 60 ปี ตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ ที่เริ่มต้นจากเคยเป็นลูกจ้างร้านอะไหล่รถยนต์ ด้วยความมุ่งมั่นและพยายาม สามารถผลักดันสร้างตัวเองจนเป็นผู้ประกอบการ มีโรงงานเป็นของตัวเอง ขณะที่ส่วนตัวเข้ามาช่วยกิจการคุณพ่อ ตั้งแต่อายุ 19 ปี เรียนรู้งานทุกด้าน ทั้งการวางแผน การผลิต การสั่งวัตถุดิบ นอกจากนั้น ยังนำระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีเข้าใช้ในการผลิต ทำให้กิจการขยายและเติบโตมาตามลำดับ จากคนงานประมาณ 20 กว่าคน ปัจจุบันเพิ่มกว่า 200 คน
“ลูกยางช่วงล่างในยานยนต์ ทั้งรถยนต์ทั่วไป รถยนต์ไฟฟ้า ที่ต้องใช้ลูกยาง เปรียบเหมือนเป็นข้อกระดูกเชื่อมโยงอะไหล่ภายในรถยนต์ ซึ่งเป็นธรรมดา เมื่อรถยนต์ใช้งานมานาน อะไหล่หรือชิ้นส่วนยางต่าง ๆ ต้องเสื่อมสภาพตามกาลเวลา ผลิตภัณฑ์ของเราจึงเข้าไปแก้ปัญหา ซึ่งจากผลิตภัณฑ์มีคุณภาพที่สุด มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่สะสมในการผลิต เมื่อเปลี่ยนอะไหล่ ช่วยให้รถยนต์ กลับมามีศักยภาพขับเคลื่อนได้ดีอีกครั้ง”
ปัจจุบัน ตลาดส่วนใหญ่แบ่งเป็นส่งออกต่างประเทศกว่า 70% ทั้งประเทศในกลุ่มทวีปเอเชีย ตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ และอเมริกากลาง รวมกว่า 40 ประเทศ อีก 30% จำหน่ายภายในประเทศ นอกจากนี้ รับจ้างผลิต (OEM) ให้แก่แบรนด์ต่าง ๆ อีกด้วย
คุณโสภณ ระบุถึงหัวใจสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ สามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง คือ การใช้ลูกค้าเป็นที่ตั้ง แล้วพัฒนาสร้างบริการเพื่อตอบความต้องการของลูกค้าได้ดีและรวดเร็วที่สุด ซึ่งการนำระบบซอฟต์แวร์ หรือเทคโนโลยี มาใช้ ทำให้สามารถเพิ่มผลิตภาพเป็นได้อย่างดี ตัวอย่างชัดเจนช่วงหลังสถานการณ์โควิด-19 เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ลูกค้ามีความต้องการสินค้าเข้ามาพร้อมๆ กันจำนวนมาก การที่ธุรกิจมีความพร้อมที่จะบริการ ทำให้สามารถคว้าโอกาสไว้ได้ ช่วยให้เวลานั้นธุรกิจเติบโตก้าวกระโดด รายได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
“แนวทางการทำธุรกิจ คนทั่วไปมักจะพูดอยู่ 2 อย่าง คือ คุณภาพดี กับเรื่องราคา แต่ผมว่า ต้องมีอีกคำ คือ “บริการ” เราต้องส่งของให้เร็วที่สุด ต่อให้เราถูกหรือดีแค่ไหน ถ้าไม่มีของขายในเวลาที่ลูกค้าต้องการ ทุกอย่างที่ทำมาก็เปล่าประโยชน์ ดังนั้น ด้วยประสบการณ์ที่เรามีมานาน เราจึงทำตัวเองให้พร้อม ให้สินค้าเราตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างแน่นอน ทั้งกระบวนการผลิต คุณภาพ และความรวดเร็ว”
ไม่เท่านั้น แม้จะเป็นธุรกิจที่อยู่มายาวนาน แต่ก็ไม่พลาดจะทำตลาดสมัยใหม่ ด้วยการให้ความสำคัญใช้ตลาดออนไลน์ ทั้งช่องทาง Facebook และ TikTok มาขยายการรับรู้และสร้างตัวตน เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ทันสถานการณ์เสมอ
ที่สำคัญ เนื่องจากธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากรถเครื่องยนต์สันดาปสู่รถไฟฟ้า รวมถึง ทั่วโลกให้ความสำคัญกับความยั่งยืน บจก. เอส.ที.รับเบอร์ฯ พร้อมก้าวทันเทรนด์ ด้วยการเพิ่มไลน์ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อะไหล่ช่วงล่างที่ใช้มากในรถไฟฟ้า เช่น ลูกหมาก นอกจากนั้น ใช้บริการสินเชื่อ “SME Green Productivity” จากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ที่มีอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3%ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก เพื่อติดตามแผงโซล่าเซลล์ นอกจากจะช่วยลดต้นทุนธุรกิจ ในการประหยัดค่าไฟฟ้าลง 25-30% แล้ว ยังเป็นการใช้พลังงานสะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ตลาดยุโรป ที่ให้ความสำคัญเรื่องคาร์บอนเครดิต ช่วยปูทางขยายตลาดใหม่เพื่อความยั่งยืนในอนาคต
“ธนาคารมาแนะนำสินเชื่อ SME Green Productivity ที่จะช่วยลดเรื่องมลพิษ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แล้วยังตอบโจทย์เรื่องคาร์บอนเครดิต ซึ่งตลาดลูกค้าทางยุโรป สนใจเรื่องนี้มาก การที่ธนาคารสนับสนุนเรื่องนี้ ก็เกิดประโยชน์ให้ เอส.ที.รับเบอร์ฯ มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น”
ด้วยประสบการณ์กว่า 6 ทศวรรษ อีกทั้ง พัฒนาและต่อยอดต่อเนื่อง ช่วยสร้างตัวตนในฐานะผู้เชี่ยวชาญงานช่วงล่างรถยนต์ เมื่อนึกถึงอะไหล่ช่วงล่างรถยนต์ ก็ต้องนึกถึง “NIKOYO Rubber Parts” เสมอ
