SB DESIGN SQUARE จับมือ MTEC สวทช. ร่วมวิจัยและพัฒนาโปรเจกต์ The Next Level of Wardrobe ด้วยนวัตกรรม “Smart Wardrobe Purifier” ตู้เสื้อผ้าฟอกอากาศครั้งแรกในไทย

0
20

นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยกับความร่วมมือระหว่าง SB DESIGN SQUARE ผู้นำด้าน Home Design Solutions และศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ที่ได้ทำการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม “Smart Wardrobe Purifier” ตู้เสื้อผ้าฟอกอากาศที่ช่วยลดปัญหาเชื้อรา แบคทีเรีย และยีสต์ ที่ทำลายเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า รวมถึงก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจในระยะยาว

นายพิเดช ชวาลดิฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีนโยบายที่ชัดเจนในการร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อพัฒนานวัตกรรมเฟอร์นิเจอร์ โดยคำนึงถึง ความต้องการของผู้บริโภค และ การตอบโจทย์วิถีชีวิตสมัยใหม่ อย่างรอบด้าน โดยมุ่งหวังที่จะสร้างความแตกต่างและส่งมอบประสบการณ์ใหม่ในตลาดเฟอร์นิเจอร์ ด้วยการขยายความร่วมมือไปยังองค์กรอื่น ๆ ในหลากหลายด้าน อาทิ ด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะ (Smart Technology) เพื่อพัฒนาเฟอร์นิเจอร์ที่เพิ่มความสะดวกสบายและตอบโจทย์การใช้งานยุคดิจิทัล ด้านวัสดุที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Sustainable Materials) เพื่อส่งเสริมการผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้านดีไซน์เพื่อสุขภาพ (Health & Well-being Design) พัฒนาเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นฟังก์ชันการใช้งานที่ช่วยเสริมสุขภาพของผู้ใช้งาน เป็นต้น

ทั้งยังมองเห็นโอกาสในการร่วมมือกับนักออกแบบระดับสากล และนักวิจัยในสถาบันชั้นนำ เพื่อสร้างความเป็นเลิศในด้านการออกแบบและฟังก์ชันการใช้งานที่ ล้ำหน้า โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ทำการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม “Smart Wardrobe Purifier”
“เหตุผลสำคัญของการสร้างความร่วมมือเหล่านี้ คือความมุ่งมั่นที่จะยกระดับมาตรฐานสินค้าให้มีคุณภาพที่เหนือกว่า และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ซึ่งหากเราทำให้เกิดขึ้นจริงได้จะช่วยเพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขัน เพราะความร่วมมือจะช่วยให้เราสามารถนำนวัตกรรมที่ล้ำหน้ามาใช้ได้ก่อนใครในตลาด ที่สำคัญเราต้องเพิ่มคุณค่าและความยั่งยืนด้วยนวัตกรรมควบคู่กันไปเพราะนอกจากต้องสามารถตอบโจทย์การใช้งานแล้ว เฟอร์นิเจอร์ของเราต้องส่งผลดีต่อโลกและสังคมในระยะยาวด้วยเช่นกัน” นายพิเดชกล่าวถึงเป้าหมายในการร่วมมือเพื่อพัฒนาและวิจัยเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่สู่ตลาด

ปัจจุบัน SB Design Square มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเฟอร์นิเจอร์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ พร้อมคำนึงถึงสุขภาพ ความปลอดภัย และความยั่งยืน ด้วยการศึกษาเทรนด์และความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น เฟอร์นิเจอร์อัจฉริยะ (Smart Furniture) ที่ผสานเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย อาทิ ระบบจัดเก็บอัตโนมัติ หรือเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้ นอกจากนี้ยังมีการออกแบบที่เน้นการใช้งานอเนกประสงค์ (Multi-functional Design) เช่น เตียงพร้อมที่เก็บของ หรือโซฟาที่สามารถปรับเป็นเตียงได้ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่มีพื้นที่อยู่อาศัยจำกัด นอกจากการตอบโจทย์การใช้งานแล้ว SB Design Square ยังให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภค

โดยเลือกใช้วัสดุที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น Green & Well-being Furniture ซึ่งใช้วัสดุที่ปลอดสารพิษ อย่างไม้ E1 ที่มีสารฟอมัลด์ไฮด์ต่ำไม่เกิน 0.1 ppm ซึ่งอยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไม่มีกลิ่นฉุน ไม่มีอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ ไม้ E1 ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ต่อผิวหนังกับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ หรือ กับเด็กเล็กภายในบ้าน ไม้ E1 จึงเหมาะสมในการนำมาผลิตเฟอร์นิเจอร์ทุกชนิด นอกจากนี้ยังเพิ่มเทคโนโลยีช่วยลดการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรียด้วยการพัฒนา Smart Wardrobe Purifier ร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) ในด้านความยั่งยืนเราได้ออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้วัสดุรีไซเคิลหรือมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด พร้อมทั้งเน้นความทนทาน เพื่อช่วยลดความจำเป็นในการเปลี่ยนใหม่ ซึ่งไม่เพียงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของผู้บริโภค แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว อีกหนึ่งจุดเด่นของ SB Design Square คือสินค้าในกลุ่ม Customized ที่สามารถปรับแต่งเฟอร์นิเจอร์ ให้ตรงกับความต้องการ ลูกค้าสามารถเลือกวัสดุ สี ขนาด และฟังก์ชันได้ตามใจชอบ เพื่อให้เฟอร์นิเจอร์สะท้อนตัวตนและสไตล์ของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง นอกจากนี้เอสบี ฯ ยังให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์โซลูชันที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น เฟอร์นิเจอร์สำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยง (Pet-Friendly Furniture) ที่ออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานร่วมกับสัตว์เลี้ยง และเฟอร์นิเจอร์สำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก (Furniture for Small Spaces) ที่ตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยในเมือง นวัตกรรมทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ SB Design Square ในการยกระดับมาตรฐานเฟอร์นิเจอร์ให้ครอบคลุม ทุกความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างแท้จริง.

ด้านนายพรพิพัฒน์ อยู่สา หัวหน้าโครงการทีมวิจัยการออกแบบเพื่อการเป็นอยู่ที่ดี ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ ได้กล่าวถึงข้อมูลที่นำมาสู่ความร่วมมือครั้งนี้ว่า จากการได้ศึกษา ถึงปัญหาของผู้บริโภคที่ต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในแง่ของการดูแลเสื้อผ้าและสุขภาพไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาเชื้อราแบคทีเรียและไรฝุ่นในตู้เสื้อผ้า ที่ทำให้เสื้อผ้า กระเป๋า และรองเท้าเกิดความเสียหาย และมีกลิ่นอับ และยังส่งผลต่อสุขภาพของผู้บริโภคทำให้เกิดภูมิแพ้หรือปัญหากับระบบทางเดินหายใจในระยะยาว ทีมนักวิจัยจึงได้คิดค้นนวัตกรรมเทคโนโลยี AutoFlow PuriTech System ระบบเครื่องฟอกอากาศที่นำมาใช้พัฒนาการออกแบบ Smart Wardrobe Purifier ตู้เสื้อผ้าฟอกอากาศที่สะท้อนถึงความใส่ใจต่อผู้บริโภคโดยคำนึงถึงหลัก 3C ประกอบด้วย Ultimate CLEAN ที่ช่วยดูแลและยืดอายุการใช้งานของสิ่งของที่ถูกเก็บอยู่ภายในตู้ เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ให้ผู้บริโภคสามารถใช้งานสิ่งของต่าง ๆ ได้ยาวนานยิ่งขึ้น โดยนำ AutoFlow PuriTech System มาใช้ฟอกอากาศภายในตู้เสื้อผ้าและตู้โชว์ เพื่อลดการเจริญเติบโตของเชื้อรา แบคทีเรีย และฝุ่นละอองโดยได้ผลการทดสอบตามมาตรฐานของ The Index of Microbial Air Contamination (IMA) ระดับดีมากและมีประสิทธิภาพไม่น้อยกว่า 90% ช่วยลดการเกิดความเสียหายได้ในระยะยาว Superior CARE เมื่อนำ AutoFlow PuriTech System มาผสานกับแนวคิดการใช้ไม้มาตรฐาน E1 (European Standard Class 1) ของ SB Design Square พบว่าสามารถช่วยลดการเกิดภูมิแพ้จากเชื้อราและไรฝุ่นที่เกิดจากความอับชื้นของตู้เสื้อผ้าได้อย่างมีประสิทธิผล เพราะนอกจากจะยืดอายุการใช้งานของใช้ภายในตู้แล้วยังช่วยดูแลสุขภาพในะระยะยาวอีกด้วย นวัตกรรมนี้ผ่านการทดสอบในระดับ VERY GOOD (เทียบเท่าความสะอาดในโรงพยาบาล ตามมาตรฐานการควบคุมและกำหนดค่าความสะอาดของ Cleanroom: ISO14644 ) รับรองผลการทดสอบโดยธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติศูนย์วิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติหรือ BIOTECH สุดท้าย CREATE your design

นอกจากเรื่องการรักษาความสะอาดแล้วยังให้ความสำคัญกับความสวยงามของเฟอร์นิเจอร์จึงสามารถออกแบบพื้นที่การจัดเก็บ สร้างห้อง Walk-in Closet ในแบบที่ต้องการได้อย่างเต็มที่กับ Smart Wardrobe Purifier ที่สามารถเลือกฟังก์ชันการใช้งานภายในตู้เสื้อผ้าได้ถึง 12 รูปแบบ สามารถตอบโจทย์การใช้งานตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละคน พร้อมหน้าบานตู้เสื้อผ้ามีให้เลือกมากกว่า 100 ดีไซน์ กับ 6 เฉดสี 6 สไตล์ ตอบรับกับไลฟ์สไตล์เทรนด์ในปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ อาทิ Grey Gallery, Everyday White, Amazing Earth Tone, Beyond Black, Glamorous Glass และ Magic Mirror

Smart Wardrobe Purifier สามารถใช้งานได้สะดวกเนื่องจากควบคุมผ่าน Line OA SB Design Square ของสาขาที่ซื้อสินค้า โดยพนักงานจะทำการลงทะเบียนและติดตั้งให้ เมนู Smart Wardrobe Purifier สามารถเช็คสถานะความชื้น, อุณหภูมิ และปริมาณเชื้อราของตู้เสื้อผ้านั้น ๆ ได้ โดยเมื่อค่าอากาศอยู่ในระดับปกติ ระบบ AutoFlow PuriTech System จะทำงานแบบอัตโนมัติใน Normal mode และเมื่อค่าความชื้นและฝุ่นอยู่ในระดับเกินกว่าค่าที่กำหนด เครื่องจะเข้าสู่การทำงานแบบ Active Mode

นอกจากนั้นยังสามารถควบคุมโหมดการทำงานได้อีก 2 โหมด คือ Boost mode สามารถเร่งการทำงานของเครื่องแบบเร่งด่วน เพื่อให้อากาศภายในตู้ถูกฟอกทั้งหมดในระยะเวลาเพียง 2 นาที และ Sleep mode ระบบจะพักการทำงานเป็นเวลา 8 ชั่วโมง ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่สร้างเพื่อลูกค้าของเราโดยเฉพาะ ทั้งนี้ SB Design Square มีแผนที่จะนำแนวคิด Smart Purifier ไปต่อยอดพัฒนาให้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทในอนาคต เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันเพื่อตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being), สร้างความยั่งยืนในตลาดด้วยการสร้างจุดขายใหม่ในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ที่นอกจากดีไซน์สวยแล้วยังมีฟังก์ชันที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตและขยายกลุ่มลูกค้าไปยังกลุ่มผู้ใช้งานที่กว้างขึ้น โดยแนวคิด Smart Purifier ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการยกระดับการพัฒนาเฟอร์นิเจอร์ยุคใหม่ ที่ให้ทั้งความสะดวกสบายและช่วยส่งเสริมสุขภาพในทุกมิติ” นายพิเดช กล่าวสรุป

สามารถชมนวัตกรรมเทคโนโลยี “Smart Wardrobe Purifier” ตู้เสื้อผ้าฟอกอากาศอัจฉริยะได้แล้ววันนี้ที่ SB Design Square สาขาคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ และเดอะคริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์