กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เดินหน้ารุกสินเชื่อ SME และสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืน ด้านสิ่งแวดล้อม (Green Transition Loan)

0
126

 เดินหน้ารุกสินเชื่อ SME และสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืน   ด้านสิ่งแวดล้อม (Green Transition Loan)  

นายฉี ชิง-ฟู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ขยายตัวต่อเนื่องเพียงเล็กน้อยจากการบริโภคภายในประเทศและการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี การลงทุนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนชะลอลงตามการอนุมัติงบประมาณของภาครัฐที่มีความล่าช้าและการส่งออกที่ฟื้นตัวช้า สำหรับเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งหลังของปีคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรกจากการใช้จ่ายของภาครัฐที่มีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น การลงทุนภายในประเทศและการลงทุนจากต่างประเทศที่ขยายตัวดีขึ้น

กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ยังคงให้ความสำคัญกับ Sustainable Banking เพื่อมุ่งสู่ การเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืน มุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) จากการดำเนินงานของธุรกิจธนาคาร รวมถึงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อมและการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการปรับตัว สำหรับธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของธนาคารแห่งประเทศไทย และปี 2567 บริษัทได้รับการคัดเลือกให้เป็นบริษัทที่มีการดำเนินงาน  โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมมาภิบาล (ESG100) เป็นปีที่ 9 รวมทั้งได้รับการคัดเลือกให้อยู่ใน Universe ของกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 โดยสถาบันไทยพัฒน์

ผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2567 กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีกำไรสุทธิ 891 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 25.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรจากการดำเนินงานก่อนผลขาดทุนด้านเครดิต  ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและภาษีเงินได้จำนวน 1,990 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 19.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหลักๆ เป็นผลจากเงินปันผลที่ลดลงเนื่องจากกลุ่มธุรกิจทางการเงินยังคงลดพอร์ตการลงทุน

รายได้ดอกเบี้ยสุทธิของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ครึ่งแรกของปี 2567 เติบโตได้ดีผ่านการขยายฐานสินเชื่อลูกค้าทั้งลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ ทั้งช่องทางดิจิทัลและพันธมิตรทางธุรกิจ ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 846 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 10.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นผลจากเงินปันผลที่ลดลง สินเชื่อเติบโตร้อยละ 8.7 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 หลักๆ เป็นการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อธุรกิจและกลุ่มลูกค้าไต้หวัน และสินเชื่อกลุ่มลูกค้าไต้หวันเพิ่มขึ้นร้อยละ 31 ผ่านเครือข่ายของ CTBC Bank ธนาคารเอกชนอันดับ 1 ของไต้หวัน ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มธุรกิจ และ Trade Finance เติบโตร้อยละ 19 ทั้งนี้ ธนาคารคุม NPL ให้อยู่ที่ร้อยละ 3 รวมทั้งได้ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญอย่างระมัดระวังโดย NPL Coverage อยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 188 สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม  

ด้านเงินฝาก ธนาคารได้ขยายฐานลูกค้าเงินฝากรายย่อยเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผ่านช่องทาง Digital Banking และออกผลิตภัณฑ์เงินฝากต่างๆ เช่น เงินฝากบัญชีออมทรัพย์ดิจิทัล B-You Wealth ดอกเบี้ยสูงสุด 5.55% แคมเปญผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ดิจิทัล รับฟรี บัตรแรบบิท LH Bank Success Infinite Prestige Collection  แคมเปญผลิตภัณฑ์เงินฝากเงินตราต่างประเทศ (FCD) และผลิตภัณฑ์ LH Bank Health Care Saving รวมถึงบัญชีออมทรัพย์เพื่อธุรกิจอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได

ทิศทางธุรกิจครึ่งหลังของปี 2567 ธนาคารยังคงเน้นขยายตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยและขับเคลื่อน            การเติบโตกลุ่มลูกค้า SMEs ธนาคารได้พัฒนาระบบ Corporate E-Banking และ Mobile Banking เพื่อให้บริการ  มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการปรับกระบวนการพิจารณาสินเชื่อให้รวดเร็ว และเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน (Sustainable Banking) ที่ดำเนินธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล การบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม และล่าสุดธนาคารได้จับมือเป็นพันธมิตรกับสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ “EEI” และอุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ “MASCI” รวมถึงบริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด “ABEAM”  บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจชั้นนำระดับโลก เพื่อดำเนินโครงการเพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับผู้ประกอบการ (Green Transition Advisory Loan) เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรม SMEs ไทยให้สามารถปรับตัวอย่างยั่งยืน

นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ LH Fund กล่าวว่า ช่วงครึ่งแรกของปี 2567 บริษัทได้ปรับลักษณะการดำเนินการในการบริหารกองทุน โดยเน้นการวิเคราะห์ข้อมูลและปรับเปลี่ยนกองทุนหลัก ( Master Fund ) เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดและ   เพิ่มโอกาสในการสร้างผลการดำเนินงานที่ดีกว่าเดิม ส่วนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่องโดยเฉพาะ REIT ประเภทโรงแรมและพื้นที่ค้าปลีก ได้แก่ LHHOTEL, LHSC และ QHHRREIT ที่ได้รับอานิสงค์จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว

             กลยุทธ์ครึ่งหลังของปี 2567 บริษัทยังคงขยายฐานลูกค้ากองทุนส่วนบุคคล รวมทั้งขยายฐานลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การจัดการ รวมถึงให้ความสำคัญในด้าน ESG เพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนให้กับกองทุนรวมและนักลงทุน สำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องส่งผลธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทได้ พัฒนาระบบ Life Path เพื่อรองรับการขยายฐานลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสามารถเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนได้แบบอัตโนมัติ

             นายกานต์ อรรถธรรมสุนทร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Securities) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) 6 เดือนแรกของปี 2567 ปรับตัวลดลง 8.1% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566 มาอยู่ที่ 1,300.96 จุด โดยนักลงทุนต่างชาติยังขายต่อเนื่อง มียอดขายสุทธิ 115,983 ล้านบาท โดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 45,238 ล้านบาท ลดลง 22.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยลบที่กดดันดัชนี เช่น ปัจจัยด้านการเมืองในประเทศและต่างประเทศ และท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่จะคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ระดับสูงเป็นเวลานานขึ้น

                ผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 158.8 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 หลักๆ มาจากรายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ลดลงอย่างมากตามปริมาณ  การซื้อขายของตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลงถึง 22.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาสที่ 3 บริษัทจะเปิดให้บริการธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor : FA) เพื่อต่อยอดการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างครบวงจร รวมทั้งได้พัฒนาบริการด้านระบบเทคโนโลยีผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อสร้าง Engagement ของลูกค้า รวมทั้ง การบริหารต้นทุนอย่างเหมาะสมท่ามกลางภาวะตลาดหุ้นที่มีความผันผวนและมีปริมาณการซื้อขายที่ลดลง

Land and Houses Financial Business Group

1H/2024 performance posts the net profit of Baht 891 million

Moving forward to penetrate SME and promote green transition loan

Mr. Shih, Jiing-Fuh, president of LH Financial Group Public Company Limited or LHFG, said “In the first half of 2024, Thai economy continues to grow mildly from the domestic consumption and strong tourism. Yet, both public investment and private investment are slow due to the delay in the fiscal budget approval of government and sluggish exports. Thai economy in the second half of 2024 is expected to improve from the first half in view of the gearing up of public spending, investment and growing FDI.

Land and Houses Financial Business Group will continue to emphasize sustainable banking, focusing on reducing greenhouse gas (GHG) emissions from both its own business operations as well as supporting our customers’ green or transformation projects. In 2024, the company was selected as a company with outstanding performance in environmental, social and governance (ESG100) for the 9th year and included in the ESG100 universe by Thaipat Institute.

The performance for the first half of 2024, Land and Houses Financial Group reported the net profit of Baht 890.7million, a decline of 25.9 percent YoY and net operating profit before expected credit losses in the amount of Baht 1,990.0 million, a decrease of 19.6 percent YoY, mainly as a result of reduced investment dividends as the Group continues to divest securities investment and re-deploy all capital into core business.

In the first half of 2024, LH Bank’s net interest income grew well through expanding the loan portfolio customer base in both retail and juristic customers. The bank posted the profit of Baht 846 million, a decrease of 10.3 percent YoY mainly due to reduced dividends income for the same re-focus initiative of LHFG. Loan grew by 8.7 percent YoY compared to the same period in 2023 due mainly to the increase in retail loan, corporate loans and Taiwanese customers. Taiwanese customers surged to 31 percent through cooperation with CTBC Bank, number 1 private bank in Taiwan and major shareholder of the group. In addition, trade finance also grew by 19 percent. The bank controlled NPL at 3.0 percent, with conservative provision for doubtful accounts. NPL Coverage stood at a high level of 188 percent, higher that the industry average.

As for deposit, the bank enlarged its customer base by 22 percent YoY through digital banking channel and introduction of various new deposit products such as digital savings B-You Wealth with maximum interest rate of 5.55 percent, digital savings product campaign with free rabbit card, LH Bank Success Infinite Prestige Collection, retail foreign currency deposit (FCD), LH Bank Health Care Saving and tiered rates business savings.

For business direction for the second half of 2024, the bank aims to continue growing mortgage loan market and driving growth of SMEs sectors. The bank is re-building Corporate E-Banking and mobile banking for more efficient services, streamline credit underwriting processes and be sustainable banking that conducts the business with accountability for environmental, social and governance and effective risk management. The bank also offers the financial products that meet environmentally-friendly needs. Recently, the bank has partnered with the Electrical and Electronics Institute, “EEI” and the Industry Development Foundation, Management System Certification Institute (Thailand), “MASCI”, and ABeam Consulting (Thailand) Co., Ltd., “ABEAM”, a leading global business consulting company, to carry out the “Green Transition Advisory Loan Project”. It is a collaboration to help transform Thai SMEs to be able to adapt and sustain amid increasing global ESG compliance needs.

Mr. Monrat Phadungsit, president of Land and Houses Fund Management Company Limited or LH Fund, said “In the first half of the year, the company adjusted the fund management operations by putting the emphasis on data analytics and master fund switching to be in line with current market conditions as well as increase the opportunity to create better performance than ever. Real estate investment trusts (REITs) continued to have sound performance, especially the REIT, hotel and retail space, namely LHHOTEL, LHSC and QHHRREIT, which gained benefits from tourism sector’s rebound.

In the second half of 2024, the company continues to grow private funds, provident funds, conversion of REITs under management and puts the focus on ESG to generate sustainable returns for mutual funds and REITs investors. For provident fund, the company has consistently won mandates from corporate customers resulting in constant growth of provident funds, The company has also developed the Life Path system to support and allow investors to automatically rebalance portfolios.

Mr. Kant Athatamsunthorn, president of Land and Houses Securities Public Company Limited or LH Securities, mentioned that the Thai Stock Market Index (SET Index) for the first 6 months of 2024 declined by 8.1% to 1,300.96 points when compared to the end of 2023 and foreign investors continued to be a net seller with total net sales of Baht 115,983 million, with the average daily turnover of Baht 45,238 million, a decrease of 22.5 percent YoY. The factors that put pressure on the index included domestic and overseas politics, stance of the US Federal Reserve to keep interest rates high for a longer period of time.

                 In the first half of 2024, the company had total income of Baht 158.8 million, down from the same period of 2023, mainly from securities brokerage income that shrank significantly following the Thai stock market trading volumes, down by 22.5% YoY. In the 3rd quarter, the company will launch a financial advisory (FA) business to further its integrated services to customers well as enhanced technology services through a digital platform as to build customers’ engagement and effective cost management amidst the volatile bourse market with weak trading volume.