EXIM BANK ประกาศจุดยืนใหม่ “กล้า พัฒนาเพื่อคนไทย” เดินเกมรุกปั้นผู้ส่งออกและนักลงทุนในอุตสาหกรรม BCG เชื่อมโยง Supply Chain โลก

0
722

EXIM BANK ประกาศจุดยืนและบทบาทใหม่ เป็นธนาคารที่กล้า พัฒนาธุรกิจไทยและประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในเวทีโลก ด้วย 3 เครื่องมือใหม่เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมต้นน้ำถึงปลายน้ำ เริ่มต้นจากบริการสร้างตัวตนแบบครบวงจรให้ SMEs ไทยในเวทีโลก บริการสร้างโอกาสการลงทุนในต่างแดน โดยเฉพาะ New Frontiers รวมถึง CLMV ต่อด้วยบริการยกระดับธุรกิจไทยสู่ BCG Model มุ่งสร้างเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำตามนโยบายรัฐบาล โดยตั้งเป้าหมายขยายสินเชื่อคงค้างเป็น 300,000 ล้านบาทภายในปี 2570

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดงานประกาศจุดยืนและบทบาทใหม่ “EXIM BANK รวมพลคนกล้า พัฒนาเพื่อคนไทย” และปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ถอดรหัสความกล้า พลิกโฉมประเทศไทยในเวทีโลก” โดยมี ดร.ดามพ์ สุคนธทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยอดีตกรรมการและอดีตผู้บริหาร EXIM BANK ผู้บริหารธนาคาร ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ลูกค้า ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน ณ สามย่านมิตรทาวน์ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในปีนี้เศรษฐกิจไทยเริ่มมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา คาดว่าเศรษฐกิจและการส่งออกขยายตัว 3.4% และ 8.1% ตามลำดับ ในส่วนของภาคการส่งออกยังคงมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดยอาศัยบทบาทของหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งการขยายบทบาทของ EXIM BANK ในการผลักดันให้เกิดมูลค่าการค้าและการลงทุนที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ต้องอาศัยการพัฒนารากฐานภายในประเทศ ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน กฎระเบียบที่เอื้อต่อการสร้างระบบนิเวศการค้าการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ บรรยากาศส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทยสู่อนาคต สอดรับกับเมกะเทรนด์โลก ประกอบกับการเร่งสร้าง Entrepreneurship DNA ให้คนไทยก้าวขึ้นมาเป็นผู้ประกอบการ โดยเฉพาะการเติมความกล้าที่จะไม่จำกัดอยู่แค่ตลาดภายในประเทศ กล้าบุกตลาดโลกที่มีโอกาสใหม่ ๆ อีกมาก และใช้จุดแข็งของกิจการต่อยอดและสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐอย่าง EXIM BANK เพื่อพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทยตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำตลอด Supply Chain ให้เติบโตได้มั่นคงและยั่งยืน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Economy) ได้ ต้องใช้ “ความกล้า” เป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดมิติใหม่ขององค์ความรู้ โอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน เครือข่ายธุรกิจ การถ่ายทอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะคนตัวเล็ก ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา วิสาหกิจชุมชน และ SMEs ให้สามารถปรับตัวให้ก้าวทันโลก ทั้งการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว กระแสรักษ์โลก และความยั่งยืน และผู้ประกอบการไทยต้องกล้าเปลี่ยนกรอบความคิด (Mindset) ตัวตน (Identity) และโมเดลธุรกิจ (Business Model)

ดร.ดามพ์ สุคนธทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร EXIM BANK กล่าวว่า โลกหลังโควิด-19 ได้เปลี่ยนไปอย่างพลิกโฉม ทั้งสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้โมเดลธุรกิจและแผนธุรกิจขององค์กรต้องปรับเปลี่ยนตามไปด้วย เพื่อแก้ไขเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นในมิติต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คนตัวเล็กอย่างเศรษฐกิจฐานรากและ SMEs ต้องล้มหายไปเป็นจำนวนมาก เมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ได้เกิดความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนขึ้นซ้ำเติมให้วิกฤตเงินเฟ้อลุกลามไปทั่วโลก หลายประเทศ รวมทั้งไทย ต้องเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า จนอาจลืมปัญหาเชิงโครงสร้างหรือปัญหาระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นข้างหน้า โดยเฉพาะวิกฤตโลกร้อน ความเหลื่อมล้ำในสังคม และปัญหาคุณภาพชีวิตต่าง ๆ จึงถึงเวลาแล้วที่ทุกภาคส่วน รวมทั้ง EXIM BANK ต้องร่วมมือกัน ขยายบทบาทให้สามารถเป็นหนึ่งในกลไกของภาครัฐที่จะขับเคลื่อนประเทศให้เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า จากปัญหาในเชิงโครงสร้างของประเทศไทยที่พึ่งพาอุตสาหกรรมเก่า อาทิ รถยนต์สันดาป คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของการส่งออกรวม การส่งออกสินค้าไฮเทคมีเพียง 27% และอยู่ระหว่างการพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรม BCG ขณะเดียวกันประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และ 90% ของประชากรทั้งประเทศมีเงินออมอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ผู้ประกอบการภายในประเทศส่วนใหญ่ยังไม่กล้าออกไปค้าขายหรือลงทุนในตลาดต่างประเทศ จำกัดอยู่ในธุรกิจเดิม ๆ มีเพียงส่วนน้อยที่สามารถสร้างแบรนด์ไทยให้ติดตลาดโลกได้ EXIM BANK จึงขานรับนโยบายของกระทรวงการคลัง เดินหน้าขยายบทบาทการเป็นผู้นำ (Lead Bank) ที่ “กล้า พัฒนาเพื่อคนไทย (One Step Ahead for All Development)” สร้างนักรบเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในเวทีโลก โดยใช้ 3 เครื่องมือใหม่ ได้แก่
1. บริการสร้างตัวตนแบบครบวงจรให้ SMEs ไทยในเวทีโลก ด้วยเครื่องมือทั้งทางการเงินและไม่ใช่การเงิน ตั้งแต่การให้ข้อมูล บ่มเพาะ อบรมสัมมนา และให้บริการทางการเงินที่ครบถ้วน เพื่อช่วยให้เกษตรกรรุ่นใหม่ วิสาหกิจชุมชนที่มีศักยภาพ และผู้ประกอบการรายย่อย สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองจาก Nobody เป็น Somebody ในตลาดโลกได้
2. บริการสร้างโอกาสการลงทุนในต่างแดน มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ประกอบการขนาดกลางที่มีศักยภาพ (Amazing M) ในการออกไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อสร้างฐานการผลิตและขยายเครือข่ายทางการค้า
3. บริการยกระดับธุรกิจไทยสู่ BCG Model มุ่งสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำตามนโยบายรัฐบาล สนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยตั้งแต่รายย่อย รายกลาง ไปจนถึงรายใหญ่ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ร่วมขับเคลื่อนโมเดลธุรกิจ BCG ในประเทศไทย เชื่อมโยงกับ Supply Chain ของโลก โดย EXIM BANK พร้อมสนับสนุนด้านเงินทุนและพัฒนาเครื่องมือทางการเงินเพื่อระดมทุนไปใช้สนับสนุนธุรกิจ BCG ของไทย

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า เกือบ 2 ปีที่ผ่านมา EXIM BANK ได้ดำเนินบทบาท “ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย” โดยสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งองค์กรในปี 2536 และเปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการในปี 2537 เมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา EXIM BANK ได้มีบทบาทชัดเจนขึ้นในการ “รับความเสี่ยง” “ให้กำเนิดอุตสาหกรรมใหม่” และ “หนุนทุนไทยไปต่างแดน” ด้วยปณิธานของความ “กล้า” ที่จะสนับสนุนความฝันของคนไทยและประเทศไทยให้เป็นจริง

ความกล้าปรับเปลี่ยนองค์กร (Transformation) ของ EXIM BANK อาทิ การใช้มาตรฐานทางการเงินใหม่อย่าง IFRS9 ซึ่งนับเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFI) แห่งแรกที่นำหลักเกณฑ์มาตรฐานทางบัญชี IFRS9 มาใช้ การปรับ Portfolio ให้มีความสมดุล รองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งการขยายบทบาทสนับสนุนอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับ BCG อย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม และอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มสูง การสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้รุกไปยังตลาดใหม่ (New Frontiers) เพื่อสร้างสมดุลระหว่างตลาดหลักและตลาดใหม่ การสนับสนุนผู้ประกอบการทุกขนาดธุรกิจ รวมทั้ง “บุคคลธรรมดา” ให้เข้าสู่ Supply Chain การส่งออกได้ ด้วยนวัตกรรม “สินเชื่อเอ็กซิมสร้างธุรกิจเพื่อบุคคลธรรมดา” โครงการ Top Executive Program เพื่อพัฒนาและต่อยอดให้ธุรกิจไทยเติบโตบนเวทีโลก โดยความร่วมมือกับวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล และ 3 สภาธุรกิจสำคัญของประเทศ ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย โครงการ EXIM Thailand Pavilion ร้านค้าออนไลน์ของ EXIM BANK บน E-Commerce ชั้นนำของโลก เพื่อเป็นทางลัดให้ SMEs ไทยเข้าสู่การค้าโลกได้อย่างรวดเร็ว นวัตกรรมทางการเงินใหม่ ๆ ตอบโจทย์เทรนด์ธุรกิจที่เปลี่ยนไป อาทิ EXIM Solar Orchestra เงินทุนติดตั้ง Solar Rooftop ในโรงงาน พร้อมเชื่อมโยง Ecosystem ตลาดคาร์บอนครบวงจร EXIM Green Bond ซึ่งเป็น SFI แห่งแรกที่ออกพันธบัตรระยะยาวอ้างอิง THOR (Thai Overnight Repurchase Rate) EXIM Biz Transformation Loan เงินทุนช่วยยกระดับธุรกิจ ดอกเบี้ยต่ำสุด 2% ต่อปี EXIM Shield Financing เงินทุนครบวงจร จ่ายทีเดียวได้ทั้งเงินทุนและความคุ้มครองทางการค้า และอยู่ระหว่างพัฒนาสินเชื่อ E-Commerce Financing สนับสนุนผู้ประกอบการที่ค้าขายออนไลน์ ระบบ Credit Scoring ใช้ในการพิจารณาสินเชื่อ เพื่อช่วยให้การอำนวยสินเชื่อของ EXIM BANK รวดเร็วขึ้น การจัดทำ EXIM Index เครื่องมือชี้วัดทิศทางการส่งออกของไทยในช่วง 3 เดือนข้างหน้า เพื่อเป็นเข็มทิศให้ผู้ส่งออกใช้วางแผนและปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้เหมาะสม

ดร.รักษ์ กล่าวว่า EXIM BANK กล้าเปลี่ยนโมเดลธุรกิจสู่ความยั่งยืนด้วยสมการ 4P โดยให้ความสำคัญกับคน (People) เป็นอันดับแรก เริ่มต้นจากพนักงาน มุ่งสร้าง Empathic Workplace ให้สะท้อนผลการให้บริการที่ดีไปสู่ลูกค้าแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะคนตัวเล็กในโลกธุรกิจ ตลอดจนผู้คนในชุมชนและสังคม ควบคู่ไปกับการคำนึงถึงโลก (Planet) โดยการสนับสนุนธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดมลภาวะ สร้างโลกที่ดีขึ้น บวกกับความมุ่งมั่นให้บริการที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงสุด (Productivity) ไม่ว่าจะเป็นบริการที่รวดเร็ว เข้าถึงง่าย ไม่ซับซ้อน และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า (Value Proposition) ซึ่งการขับเคลื่อนด้วยโมเดลธุรกิจดังกล่าวจะช่วยสร้างกำไร (Profit) และการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่องค์กร พร้อมกับสนับสนุนให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเติบโตไปด้วยกัน (Inclusive Growth) โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

สำหรับผลการดำเนินงานเดือนมกราคม-กันยายน 2565 EXIM BANK สามารถสนับสนุนผู้ประกอบการไทยด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินและไม่ใช่การเงินได้อย่างครบวงจร ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนในหลายมิติ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 EXIM BANK มีวงเงินอนุมัติสินเชื่อใหม่ 51,243 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.84% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นวงเงินของผู้ประกอบการ SMEs จำนวน 12,961 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีสินเชื่อคงค้าง 159,816 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12,137 ล้านบาท หรือ 8.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ณ 20 ตุลาคม 2565 สินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 162,513 ล้านบาท คาดว่าภายในปี 2565 จะทะลุ 165,000 ล้านบาท สูงที่สุดตั้งแต่เปิดดำเนินงาน โดย EXIM BANK ตั้งเป้าหมายขยายสินเชื่อคงค้างเป็น 300,000 ล้านบาทภายในปี 2570

“EXIM BANK กล้า พัฒนาเพื่อคนไทย เป็นจุดยืนของ EXIM BANK ที่ก้าวไปสู่โลกยุค Next Normal ร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนไทย ทำหน้าที่สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐโดยตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของลูกค้า ผู้ประกอบการ และประชาชน เริ่มตั้งแต่ความกล้าสร้างตัวตนผู้ประกอบการต้นน้ำ ผลักดันผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพให้บุกตลาดต่างแดนมากขึ้น และส่งเสริมผู้ประกอบการไทยทุกระดับให้มุ่งสู่โมเดลธุรกิจ BCG เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน บรรเทาปัญหาความเหลื่อมล้ำและความยากจน แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมโลก โดยใช้ความเชี่ยวชาญและความพร้อมของบุคลากรในการพัฒนาเครื่องมือและรูปแบบการดำเนินธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะก้าวให้ทันการเปลี่ยนแปลงของโลกและเดินไปด้วยกันกับลูกค้า ผู้ประกอบการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน” ดร.รักษ์ กล่าว

EXIM Thailand Announces Brand Repositioning “One Step Ahead for All Development” with Game Plan to Build Exporters and Investors in
BCG Industries in Linkage with Global Supply Chains

EXIM Thailand has announced its new role and tagline as a lead bank taking one step ahead for development of Thai businesses and Thailand to grow sustainably in the global arena. The Bank aims to develop Thai entrepreneurs from upstream to downstream with three new tools, namely, SME global identity shaping service, overseas investment promotion service for marketing penetration into new frontiers including CLMV, BCG business promotion service in response to Thailand’s national policy to become a low-carbon society. The Bank’s outstanding loans are targeted to increase to 300,000 million baht by 2027.

Mr. Arkhom Termpittayapaisith, Minister of Finance of Thailand, presided over the opening ceremony of “EXIM Thailand Synergizing toward Development for All Thais” event to announce the new role and tagline of Export-Import Bank of Thailand (EXIM Thailand) with a special talk titled “Decode Courage, Transform Thailand on the Global Front,” and was welcomed by Dr. Darmp Sukontasap, EXIM Thailand Chairman of the Board of Executive Directors and Dr. Rak Vorrakitpokatorn, EXIM Thailand President, together with EXIM Thailand’s former directors and executives, executives, executives of government agencies and private entities, customers, entrepreneurs and mass media and the general public at Samyan Mitrtown on November 3, 2022.

The Minister of Finance said that Thai economy this year has signaled a recovery from the past 1-2 years with economic growth and export growth predicted at 3.4% and 8.1%, respectively. Export is still a key economic engine, and the expanded role of EXIM Thailand should help drive continued growth of export. However, export growth still relies on development of certain fundamentals in the country, e.g. development of infrastructures, rationalization of rules and regulations contributing to efficient trade and investment ecosystem, creation of environment conducive to research and development to uplift Thai industries toward future business world in line with global megatrends, and accelerated cultivation of entrepreneurship DNA for Thais to step up as entrepreneurs, mustering up their courage to penetrate not only domestic markets, but also global markets with ample fresh opportunities ahead using their strengths to enhance their brands

According to the Minister of Finance, both public and private sectors including state-owned specialized financial institutions (SFI) like EXIM Thailand need to join hands to lay a solid foundation for development of Thai industrial sectors from upstream to downstream throughout the supply chains to ensure firm and sustainable growth, and driving Bio-Circular-Green (BCG) economy taking the “courage” to establish knowledge base and collaboration in accessing financial sources, business networks and transfer of innovation and advanced technology, particularly among little people like individuals, community enterprises and SMEs, so that they would be able to catch up with the rapidly changing world of technology and the global environmental conservation and sustainability trends. Under such circumstances, Thai entrepreneurs should dare to change their mindset, identity and business models.

Dr. Darmp Sukontasap, EXIM Thailand’s Chairman of the Board of Executive Directors, said that the changing face of the world post COVID-19 in respect of whether the environment and the consumer behaviors has necessitated organizations’ rethinking of their business models and business plans to relieve the inevitably intertwined damage incurred in multiple dimensions. Meanwhile, a large number of little players from those in the grassroots economy to SMEs have disappeared. Although the pandemic has later eased, the subsequent eruption of Russia-Ukraine tension has provoked inflation crisis across the world. Several countries including Thailand have been busy with remedying immediate problems so much that they may have forgot to address structural problems or long-term problems ahead, particularly those regarding global warming, social inequality and quality of life. It is thus the time for all sectors including EXIM Thailand to collaborate in expanding the role as part of the government mechanism to drive the country to move forward with stability, prosperity and sustainability in economic, social and environmental dimensions.

Dr. Rak Vorrakitpokatorn, EXIM Thailand President, revealed that the country’s structural problems with reliance on such conventional industries as combustion automobile, computer and accessories, and oil-related products, which combinedly represent one-third of total export, while hi-tech products account for only 27% of total export and development of BCG industries is underway. As Thailand is moving toward an aged society and 90% of the population have a low level of savings, domestic entrepreneurs still dare not take an outbound step toward the global markets in terms of both export and investment, and also firmly engage in their existing businesses like foods, agriculture and tourism. Only a few have managed to build and bring their own Thai brands to attract the global markets. In view of this, EXIM Thailand has responded to the Ministry of Finance policy in expanding its role of a lead bank to take “One Step Ahead for All Development” with commitment to build Thai economic warriors to fight powerfully and sustainably in the global arena by using three new tools below:
1. SME Global identity shaping service using both financial and non-financial tools, i.e. provision of information, incubation, training and seminar, and financial facilities on a full-fledged basis, to enable changeover of new generation farmers, potential community enterprises and retail entrepreneurs from nobody to somebody on the global front.
2. Overseas investment promotion service targeting at amazing M entrepreneurs so that they would be able to invest beyond Thailand to build production bases and expand trade networks.
3. BCG business promotion service in response to Thailand’s national policy to become a low-carbon society aiming to support small, medium and large entrepreneurs from upstream to downstream in jointly driving BCG business model in Thailand in linkage with global supply chains in conjunction with provision of credit facilities and development of financial instruments in support for Thai BCG businesses.

EXIM Thailand President said that, for almost the past 2 years, EXIM Thailand has pursued its role as “Thailand Development Bank” in response to the objectives of its establishment in 1993 and official commencement of operation in 1994. Throughout the almost 3 decades of operation up to the eruption of COVID-19, the Bank has played its increasingly prominent role of “taking risks,” “giving birth to new industries” and “supporting Thai investment overseas” with the firm determination to take “courage” to make dreams come true for Thai people and Thailand.

The organization transformation carried out by EXIM Thailand has got started with adoption of such new financial reporting standard as IFRS9 being the first state-owned specialized financial institution (SFI) to do so, portfolio rebalancing to serve sustainable growth covering expanded role in supporting eco-friendly industries, particularly those related to BCG economy in a more concrete and vigorous manner, and innovation-driven and value-added industries, support of Thai entrepreneurs’ penetration of new frontiers for the balance between existing markets and new markets and enabling entrepreneurs of all sizes including “individuals” to apply for “EXIM Business Building Credit for Individuals” for their export-related business start-up, Top X Executive Program in collaboration with the College of Management of Mahidol University and three key business institutions of the country, namely the Federation of Thai Industries, the Thai Chamber of Commerce and Board of Trade of Thailand and Thai National Shippers’ Council aiming for development and enhancement of Thai businesses to grow in the global markets, EXIM Thailand Pavilion online trade platform in collaboration with world leading online trade platforms to serve as a fast track for Thai SMEs in access to global trade arena, new financial innovations responsive to the changing business trends, i.e. EXIM Solar Orchestra to finance installation of solar rooftop systems for factories alongside linking with carbon market ecosystem, EXIM Green Bond with EXIM Thailand being the first state-owned SFI to issue such a long-term bond using THOR (Thai Overnight Repurchase Rate) as the reference rate, EXIM Biz Transformation Loan to finance business uplifting with lowest interest rate of 2% per annum, EXIM Shield Financing as an end-to-end financing in lump sum serving both capital and trade insurance coverage, and E-Commerce Financing new under development aiming to support online trade entrepreneurs, Credit Scoring for use in credit underwriting process for shorter turnaround time in credit operation, and innovation of EXIM Index as a forward-looking tool to indicate Thai export directions in the next 3 months to help exporters appropriately plan and realign their business strategies.

Dr. Rak further said that the Bank has braved challenges with business remodeling toward sustainability using the 4P equation, starting with People with creation of empathic workplace for the employees so that good services would be delivered to each group of customers, particularly little players in the business world and people in the community and society, along with caring for the Planet by supporting eco-friendly businesses to mitigate pollution and build a better world for all, in conjunction with determination to deliver services of quality and Productivity, i.e. quick, accessible and simple services of value proposition, and with such business model, leading to generation of Profit and growth in a sustainable manner to the organization which will contribute to inclusive growth of all stakeholders with no one left behind.

Regarding the operating results during January-September 2022, EXIM Thailand rendered fully integrated financial and non-financial supports for Thai entrepreneurs amid multi-faceted uncertainties. As of the end of the third quarter of 2022, new loan approvals amounted to 51,243 million baht, a year-on-year increase of 32.84%, of which 12,961 million baht was for SMEs, up by 20.16% year-on-year. EXIM Thailand recorded total outstanding loans of 159,816 million baht, a 12,137 million baht or 8.22% year-on-year growth. Its total outstanding loans stood at 162,513 million baht as of October 20, 2022 and are expected to reach the level beyond 165,000 million baht by the end of 2022, a record high since its start of business operation. The Bank has targeted to expand its total outstanding loans to 300,000 million baht by 2027.

“EXIM Thailand One Step Ahead for All Development is our tagline committing us to move toward the Next Normal world alongside Thai public and private sectors. With our missions as a state-owned SFI, we seek to respond to and fulfil the needs and expectations of customers, entrepreneurs and the general public and be part of the driving force to grow Thai economy, reduce inequality and poverty, and join the global community in solutions of global environmental issues, leveraging on the expertise and preparedness of our personnel who keep developing new tools and business models responsive to the ever-changing world and empowering us to step ahead side by side with our stakeholders from all sectors,” added Dr. Rak.