กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) ขับเคลื่อนสู่เป้าหมายในการเป็น “ธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน” (The Leading Sustainable and Regional Bank) ด้วยแนวคิด “GO Sustainable with krungsri” ให้ความสำคัญทั้งเรื่องการเติบโตอย่างยั่งยืนและรักษาความเป็นผู้นำทางธุรกิจ พร้อมทั้งเคียงข้างให้การสนับสนุนลูกค้าเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน สร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับเศรษฐกิจและสังคม
นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ภายใต้กลยุทธ์ในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย “ธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน” ตามแผนธุรกิจระยะกลางฉบับปัจจุบัน กรุงศรีให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเพื่อความยั่งยืนใน 2 ด้านหลัก ด้านแรก คือ การเติบโตอย่างยั่งยืนและรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจหลัก (Sustainable Core Business) ซึ่งมุ่งนำดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ พร้อมทั้งให้ความสำคัญด้านความร่วมมือกับพันธมิตรและการสร้างอีโคซิสเต็มส์ให้กับธุรกิจทั้งในประเทศและอาเซียน และด้านที่สอง คือ การขับเคลื่อนเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมและเศรษฐกิจที่ยั่งยืน (Sustainable Society) โดยให้การสนับสนุนลูกค้าเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน และให้ความสำคัญกับการสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศไทยในภาพรวม ซึ่งทั้งหมดนี้ กรุงศรีจะดำเนินการภายใต้แนวคิด “GO Sustainable with krungsri” เพื่อเดินหน้าสู่เส้นทางของความยั่งยืนร่วมกัน”
ทั้งนี้ ในการขับเคลื่อนเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมและเศรษฐกิจที่ยั่งยืน (Sustainable Society) มีหลากหลายโครงการที่กรุงศรีได้ดำเนินการมาแล้วอย่างต่อเนื่องและยังคงเดินหน้าต่อไป รวมถึงพัฒนาโครงการใหม่ๆ โดยเฉพาะในมิติด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเรื่องหลักที่ทั่วโลกให้ความสำคัญและกำลังเร่งดำเนินการ เพื่อรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้น โดยในปี 2564 กรุงศรีได้มีการกำหนดวิสัยทัศน์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Krungsri Net Zero Vision) ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการทางธุรกิจของธนาคารภายในปี 2573 และจากการให้บริการทางการเงินทั้งหมดภายในปี 2593 เพื่อบรรลุสู่เป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งกรุงศรีให้ความสำคัญกับ 2 เรื่อง ดังนี้
เรื่องแรก คือ การให้ความสำคัญกับการดำเนินการภายในกรุงศรี (Own Operations) โดยมุ่งดูแลลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการดำเนินธุรกิจ ปลูกฝัง Krungsri Sustainability DNA ให้เกิดขึ้นภายในองค์กร เพื่อให้ทุกคนในองค์กรตั้งแต่ระดับผู้บริหารและพนักงานได้มีส่วนร่วม ปรับเปลี่ยนและเรียนรู้เรื่องการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าและมีประสิทธิภาพ การลดขยะอาหารที่ต้องฝังกลบให้เป็นศูนย์ เพื่อบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการทางธุรกิจของธนาคารภายในปี 2573 และเดินหน้าสู่การเป็น Net-Zero Organization ในส่วนนี้กรุงศรีได้ริเริ่มและดำเนินการในหลายโครงการอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่สำนักงานใหญ่ อาคารสำนักงานอื่นๆ ของกรุงศรี และสาขาของธนาคาร อาทิ การเปลี่ยนระบบเครื่องทำความเย็น (Chiller Plant) การติดตั้งแผงโซลาเซลล์ การเปลี่ยนรถยนต์ ส่วนกลางและจักรยานยนต์ที่ใช้ในการรับส่งเอกสารเป็นยานยนต์ไฟฟ้า การกำจัดขยะ
เรื่องที่สอง คือ การเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance) กรุงศรีมุ่งสนับสนุนลูกค้าสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน โดยกรุงศรีได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ MUFG สถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ เพื่อพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล และเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าในประเทศไทยออกสู่ตลาด ปัจจุบันกรุงศรีอยู่ในตำแหน่งผู้นำในตลาดทุนและตลาดสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนในประเทศไทย เป็นผู้ออกตราสารเพื่อความยั่งยืน (ESG Bond Underwriting) โดยมีส่วนแบ่งตลาดราว 20% และเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยรายแรกที่ออกผลิตภัณฑ์ด้านความยั่งยืนใหม่ๆ สู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ สินเชื่อเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน และเงินฝากเพื่อความยั่งยืน
ทั้งนี้ กรุงศรีมุ่งลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการให้บริการทางการเงินทั้งหมดภายในปี 2593 โดยธนาคารได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินให้แก่โครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืน (Social and Sustainable Finance) จำนวน 100,000 ล้านบาท ภายในปี 2573 (จากปีฐาน 2564) และข้อมูล ณ สิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กรุงศรีได้ให้เงินสนับสนุนแก่โครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืนเพิ่มขึ้น 76,000 ล้านบาท (จากปีฐาน 2564) ซึ่งใกล้ถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 100,000 ล้านบาท ทำให้กรุงศรีกำลังพิจารณาปรับเพิ่มเป้าหมายให้เหมาะสมกับศักยภาพและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น
“กรุงศรีตระหนักดีว่า การที่เราจะเป็นผู้นำในการเป็นธนาคารที่ยั่งยืนได้นั้น ไม่เพียงต้องปรับตัวสร้างการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร และการสนับสนุนลูกค้าด้านการเงินเพื่อความยั่งยืนเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญที่จะทำให้เราเป็นธนาคารที่ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง คือ การสร้างรากฐานด้านความยั่งยืนให้แข็งแกร่ง โดยปัจจุบันกรุงศรีอยู่ในระหว่างการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานให้มีมาตรฐานสากล TCFD (Task Force on Climate-related Financial Disclosures: TCFD) ผ่านคณะทำงานด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IECC) ของธนาคาร และจัดทำแผน Transition Plan เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของประเทศสู่เป้าหมาย Net Zero รวมทั้งเรายังเป็นหนึ่งในธนาคารหลักที่ทำงานภายใต้สมาคมธนาคารไทย เพื่อช่วยภาคธนาคารไทยเร่งพัฒนาแผน Transition Plan สำหรับภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกด้วย”
นายไพโรจน์ กล่าวปิดท้ายว่า “ด้วยแนวคิด GO Sustainable with krungsri กรุงศรีมีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะเป็น Market Shaper ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งภาคการเงินและขับเคลื่อนประเทศสู่ความยั่งยืน ด้วยความรู้ ความเชี่ยวชาญ และนวัตกรรมโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการ เราพร้อมให้การสนับสนุนลูกค้า พันธมิตร และทุกภาคส่วนของสังคมในการเดินหน้าสู่ความยั่งยืนไปด้วยกัน เพื่อเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่สำคัญที่จะช่วยเศรษฐกิจไทยให้ก้าวหน้า สร้างสังคมไทยให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นต่อไป”
เกี่ยวกับกรุงศรี
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทย ด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และเป็นหนึ่งในหกสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) โดยดำเนินธุรกิจมานานถึง 79 ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อรายย่อย การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า 576 สาขา (เป็นสาขาที่ให้บริการทางการเงินในรูปแบบปกติ 536 สาขาและสาขาที่ให้บริการเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 40 สาขา) และช่องทางการขายกว่า 32,827 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า 10.5 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย (บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน)) อีกด้วย
กรุงศรีมีพันธสัญญาในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด ธนาคารและบริษัทในเครือได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของ “แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต” โดยมุ่งร่วมมือกับองค์กรชั้นนำในไทยและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคาร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น
เกี่ยวกับมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG)
มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานในการดำเนินธุรกิจกว่า 360 ปี MUFG มีเครือข่ายสำนักงานราว 2,000 แห่ง ในกว่า 40 ประเทศทั่วโลกและมีพนักงานกว่า 120,000 คน MUFG นำเสนอบริการทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมทั้งธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ทรัสต์แบงก์กิ้ง ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ MUFG มีเป้าหมายที่จะเป็น “กลุ่มสถาบันทางการเงินที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในโลก” ด้วยการผสานศักยภาพในการดำเนินธุรกิจเพื่อตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้าโดยคำนึงถึงสังคมและการแบ่งปันสู่ความเติบโตอย่างยั่งยืน MUFG จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตลาดหลักทรัพย์นาโกยา และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MUFG กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.mufg.jp/english
Krungsri announces “GO Sustainable with krungsri” theme, reaffirming its leadership in driving Thailand’s financial sector towards sustainability
Bangkok (13 November 2024) – Krungsri (Bank of Ayudhya PCL and its business units) propels towards the aspiration to be “The Leading Sustainable and Regional Bank” under the theme of “GO Sustainable with krungsri”, prioritizing sustainable growth and upholding the leading position in its core business as well as staying by customers’ side to support them on their sustainability journey and creating a positive impact on the economy and society.
Mr. Pairote Cheunkrut, Krungsri Chief Strategy Officer, said “Under the strategy for driving towards the aspiration to be “The Leading Sustainable and Regional Bank” according to the current Medium-Term Business Plan (MTBP), Krungsri puts priorities on driving for sustainability in two main areas. The first area is Sustainable Core Business which focuses on bringing in digital technology to enhance operational efficiency, while emphasizing cooperation with strategic partners and building an ecosystem for businesses within the country and across ASEAN. The second area is Sustainable Society by supporting customers in navigating the transition towards a sustainable future and placing importance on creating positive outcomes for Thailand’s society and economy as a whole. Krungsri will pursue all these efforts under the theme of
“GO Sustainable with krungsri” in order to move forward on the path of sustainability together.”
In driving for sustainable society, a variety of projects have been continuously implemented by Krungsri and are currently in progress. A number of new initiatives have also been launched especially in the environmental dimension which is the main issue gaining global attention and urgently addressed by relevant parties to cope with the impacts of climate change. At Krungsri, we have declared “Krungsri Net Zero Vision” in 2021 committing to decarbonizing our own operations by 2030 and financial services by 2050. Krungsri has prioritized the following two main focuses to achieve such vision.
The first focus is our own operations. We have endeavored to reduce carbon dioxide emissions in our own business processes, embed “Krungsri Sustainability DNA” in our organization to ensure engagement of everyone in the workplace from management to employees, change and learn about use of energy in a wise and efficient manner, and encourage waste reduction, aiming at achieving the target of decarbonization of own operations by 2030 and moving towards becoming a net-zero organization eventually. In this connection, Krungsri has initiated and implemented various projects on a continual basis at its headquarters and other office buildings including branch offices, such as change of chiller plants, installation of solar panels, replacement of bank cars and the motorcycles used for messenger service with electric vehicles, waste management, and so on.
The second focus is sustainable finance. Krungsri aims to support customers in their transition to sustainability by working closely with MUFG, a global leading financial institution with extensive experience and expertise, to develop and launch sustainability-linked financial solutions that are recognized by international standards and cater for the needs of domestic customers. Krungsri is currently a leader of Thailand’s sustainable capital and loan markets.
It captures about 20% share of ESG bond underwriting and is the first Thai commercial bank that continuously releases new sustainable financial products to the market such as sustainable loans, sustainability-linked bonds and sustainable deposits.
Krungsri commits to growing the Social and Sustainable Finance (SSF) portfolio to 100,000 million baht by 2023. As of 30 June 2024, Krungsri’s SSF, accumulated since 2021, amounted to over 76,000 million baht which is close to the target increase of 100,000 million baht. Accordingly, Krungsri is considering raising the target proportional to its capability and in line with the rising market demand.
“Krungsri is well aware that, to be a leading sustainable bank, the ability to adapt and create changes within the organization and support customers in the aspect of sustainable finance is not sufficient. The key to becoming a truly sustainable bank is building a strong foundation for sustainability. Currently, Krungsri is undergoing a change in operational process to align with the international standards of TCFD (Task Force on Climate-related Financial Disclosures) through the working group on environment and climate change (IECC) of the Bank and formulates the Transition Plan to support Thailand’s transition towards the net zero goal. Furthermore, Krungsri is one of the major banks that work under the Thai Bankers Association (TBA) to help the banking sector accelerate the development of Transition Plan for other industrial sectors.”
“With the theme of “GO Sustainable with krungsri”, we are firmly committed to becoming a Market Shaper that creates change in the financial sector and drives the country towards sustainability. Our knowledge, expertise and innovative financial solutions empower us to provide support to customers, strategic partners and all stakeholders in the society in moving towards sustainability together in order that they will become the major cogs that push the economic machine forward and create a better Thai society,” Mr. Pairote concluded.
About Krungsri
Krungsri (Bank of Ayudhya PCL and its business units) is the fifth largest financial group in Thailand in terms of assets, loans, and deposits, and one of Thailand’s six Domestic Systemically Important Banks
(D-SIBs) with 79 years of history in the country. Krungsri is a strategic member of the Mitsubishi UFJ Financial Group (MUFG), Japan’s largest financial group and one of the world’s largest financial organizations. Krungsri provides a comprehensive range of banking, consumer finance, investment, asset management, and other financial products and services to individual consumers, SMEs, and large corporations through 576 domestic branches (536 Banking Branches and 40 Auto Business Branches) and over 32,827 service outlets nationwide. The Krungsri Group is the largest card issuer in Thailand with 10.5 million credit cards, sales finance, and personal loan accounts in its portfolio; a major automobile financing service provider (Krungsri Auto); one of the fastest growing asset management companies (Krungsri Asset Management); and a pioneer in microfinance (Ngern Tid Lor).
Krungsri is strongly committed to the highest level of integrity in conducting its business. All Krungsri Group companies have been awarded accreditation from the Private Sector Collective Action Coalition Against Corruption (CAC) in collaboration with industry peers and stakeholders on a zero tolerance approach to corruption.
About MUFG
Mitsubishi UFJ Financial Group, Inc. (MUFG) is one of the world’s leading financial groups. Headquartered in Tokyo and with over 360 years of history, MUFG has a global network with approximately 2,000 locations in more than 40 markets. The Group has about 120,000 employees and offers services including commercial banking, trust banking, securities, credit cards, consumer finance, asset management, and leasing. The Group aims to “be the world’s most trusted financial group” through close collaboration among our operating companies and flexibly respond to all of the financial needs of our customers, serving society, and fostering shared and sustainable growth for a better world. MUFG’s shares trade on the Tokyo, Nagoya, and New York stock exchanges. For more information, visit https://www.mufg.jp/english.