สำนักงานศาลยุติธรรมร่วมกับธนาคารกรุงไทย พัฒนาระบบ e-Filing Version 3 เพื่อยื่น-ส่งและรับคำคู่ความผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในส่วนคดีแพ่ง ได้รับการตอบรับที่ดี มีการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในแวดวงนักกฎหมาย พร้อมเตรียมต่อยอดพัฒนาระบบให้ครอบคลุมถึงคดีอาญา และคดีในศาลชำนาญพิเศษ รวมถึงการเชื่อมโยงข้อมูลไปยังกรมบังคับคดี หลังจากศาลมีคำพิพากษาเพื่อรองรับการให้บริการแก่ประชาชนได้ครอบคลุมและรวดเร็วยิ่งขึ้นในทุกขั้นตอน
นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า หลังจากที่สำนักงานศาลยุติธรรม เปิดให้บริการระบบการยื่น-ส่งและรับคำคู่ความทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filling Version 3 )ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีอัตราการใช้ระบบโดยการยื่นฟ้องเพิ่มขึ้นมากกว่า 892 % จากเดิมในเดือนมกราคม มีการยื่นฟ้องผ่านระบบเพียง 3,799 คดี แต่ในเดือนที่ผ่านมา (เดือนกรกฎาคม) มีคดีฟ้องผ่านระบบมากถึง 33,887 คดี มีคดียื่นฟ้องผ่านระบบแล้วกว่า 151,144 คดี และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีทนายความทั่วประเทศขึ้นทะเบียนในระบบแล้วเกือบ 10,000 ราย
ระบบ e-Filing Version 3 เป็นทางเลือกใหม่ที่ให้ทนายความสามารถยื่นคำฟ้อง คำร้องขอ ได้โดยไม่ต้องเดินทางมาที่ศาล ผ่านช่องทาง https://efiling3.coj.go.th/eFiling/ ทั้งจำเลยยังสามารถยื่นคำให้การ ขอคัดถ่าย และดูเอกสารสำนวนคดีต่างๆได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ศาลก็สามารถตรวจสอบเอกสารยื่นคำฟ้อง คำร้องพร้อมให้ความเห็นในระบบ รวมถึงผู้พิพากษาก็สามารถพิจารณาสั่งคำฟ้อง คำร้อง ผ่านระบบได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ คู่ความยังสามารถติดตามคดีได้ตลอด 24 ชั่วโมง สนับสนุนให้ระบบยุติธรรมของประเทศมีความทันสมัยและเป็นสากล สอดคล้องกับวิถีชีวิตและพฤติกรรมของประชาชนในปัจจุบัน
นายสราวุธ กล่าวต่อไปอีกว่า ระบบ e-Filling Version 3 เป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งได้รับความร่วมมือที่ดีจากธนาคารกรุงไทย ในการพัฒนา Platform การให้บริการด้านการเงิน ด้วยการนำ Digital Banking มาอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการระบบงาน e-Filling Version 3 ในการชำระค่าธรรมเนียมศาลต่าง ๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง