Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย

0
43

Dow ขนขบวนนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ Personal Care จัดแสดงในงาน in-cosmetics Asia 2024 ที่กรุงเทพฯ โดยมุ่งเน้นนำเสนอผลิตภัณฑ์หลากหลายที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการผลิตเครื่องสำอาง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการเดินหน้าสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืน
ไฮไลท์สำคัญในงานนี้คือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Dow เป็นครั้งแรกในโลก ได้แก่ ฟิล์มฟอร์มเมอร์รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง DOWSIL™ MQ-1610 ID Resin และ DOWSIL™ MQ-1650 ID Resin และผลิตภัณฑ์คอลเลกชันใหม่ Rebalancing Beauty 3.0 ซึ่งเป็นนวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการด้านประสิทธิภาพและฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค


จากรายงานตลาดผู้บริโภคระดับโลกล่าสุดของ Mintel พบว่าผู้บริโภคมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและฟังก์ชันการใช้งานที่ตรงตามความต้องการ เนื่องจากต้นทุนการครองชีพที่สูงขึ้น ผู้คนจึงมุ่งเน้นการซื้อสินค้าที่มีคุณประโยชน์และตรงตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริงมากขึ้น รายงานดังกล่าวเปิดเผยว่า 93% ของผู้หญิงชาวอินโดนีเซียคิดว่าการใช้เวลาเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์เพื่อค้นหาดีลที่ดีที่สุดนั้นคุ้มค่า ในขณะที่ 72% ของผู้หญิงชาวจีนกล่าวว่าแบรนด์ความงามควรนำเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมเพื่อยืนยันการกล่าวอ้างต่างๆ ถึงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ออกจำหน่าย และ 45% ของผู้บริโภคชาวออสเตรเลียกล่าวว่าส่วนผสมของเครื่องสำอางที่มีคุณภาพสูงจะกระตุ้นให้พวกเขายินดีซื้อผลิตภัณฑ์ความงามในราคาเต็มจำนวน


“ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเรื่องประสิทธิภาพของสินค้าและมีความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงและให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมเพิ่มขึ้นในตลาดความงาม เราจึงพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการนี้ของผู้บริโภค โดยตั้งใจที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ ในขณะเดียวกันก็ยังคงดำเนินการเพื่อตอบสนองเป้าหมายด้านความยั่งยืนด้วย” เซดริก โทห์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและดูแลร่างกาย ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ของ Dow กล่าว


จากการสำรวจโดย KPMG พบว่า 74% ของผู้บริโภคระบุว่าคุณภาพของผลิตภัณฑ์เป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Royalty) ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวเห็นได้ชัดเจนในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเพื่อแต่งเติมสีสัน (Color Cosmetics) โดยวัดประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์จากความสามารถในการมอบสีที่เข้มข้น ให้สีสันติดทนนาน และสร้างรูปลักษณ์ที่น่าพึงพอใจบนผิว


นายเซดริกกล่าวว่า ฟิล์มฟอร์มเมอร์ซิลิโคนประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ DOWSIL™ MQ-1610 ID Resin และ DOWSIL™ MQ-1650 ID Resin มีประสิทธิภาพดังกล่าวครบถ้วน โดยเทคโนโลยีใหม่ของฟิล์มฟอร์มเมอร์เรซินซิลิโคนทั้งสองรุ่น ที่อยู่ในรูป Isododecane มีประสิทธิภาพสูงและมีคุณสมบัติคงทนยาวนาน ทนน้ำและความมัน โดยสำหรับ DOWSIL™ MQ-1650 ID Resin นั้น เมื่อเติมลงในผลิตภัณฑ์กันแดดและเครื่องสำอางสำหรับแต่งเติมสีสัน จะให้ความรู้สึกสบายผิว ซึ่งตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก
“ฟิล์มฟอร์มเมอร์เรซินซิลิโคนใหม่ทั้งสองชนิดนี้ที่เพิ่มเข้ามาในพอร์ตโฟลิโอของเรา จะช่วยให้ผู้คิดค้นสูตรเครื่องสำอางสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเติมสีสันและผลิตภัณฑ์กันแดดใหม่ ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ครบทุกด้าน ทั้งด้านประสิทธิภาพ ความติดทนนาน และความเบาสบายผิว”


สำหรับคอลเลกชันภายใต้แนวคิด Rebalancing Beauty 3.0 ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกพร้อมกันที่งาน in-cosmetics Asia 2024 ที่กรุงเทพฯ นั้น ประกอบด้วยสูตรผลิตภัณฑ์ 8 สูตร ที่นำไปใช้ได้กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับความงาน ทั้งการดูแลเส้นผม ผิวหนัง และเครื่องสำอางแต่งสีสัน โดยผลิตภัณฑ์ภายใต้แนวคิดดังกล่าว ได้รับการพัฒนานวัตกรรมเพื่อให้มีประสิทธิภาพและประโยชน์การใช้งานหลากหลายตรงตามความต้องการของผู้บริโภค ในขณะเดียวกันก็มีคุณลักษณะด้านความยั่งยืนที่ความสมดุลกัน ตัวอย่างเช่น SilkSmooth Leave-on Conditioner ซึ่งเป็นครีมนวดผมแบบไม่ต้องล้างออก จึงเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนกว่าครีมนวดผมแบบดั้งเดิม เนื่องจากประหยัดน้ำเพราะไม่จำเป็นต้องล้างออกหลังการใช้ นอกจากนั้น ผลิตภัณฑ์นี้ยังมีประโยชน์ช่วยลดแรงเสียดทานของเส้นผมและทำให้หวีง่าย ส่วนผสมสำคัญอย่างหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ EcoSense™ APP-1000 Surfactant ซึ่งเป็นสารลดแรงตึงผิวที่มาจากธรรมชาติ 100% สามารถใช้เพียงเล็กน้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสารลดแรงตึงผิวชีวภาพอื่นๆ

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ครื่องสำอางที่เปิดตัวคือ RubOffGuard Jelly Brush ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ที่นิยม โดยเป็นบลัชออนเนื้อเจลี่ที่มีสูตรผสมกับฟิล์มฟอร์มเมอร์ชีวภาพที่ย่อยสลายได้ง่ายอย่าง MaizeCare™ Clarity Polymer บลัชออนเจลลี่นี้จึงใช้ทาลงบนผิวได้ง่าย ให้สีชมพูระเรื่อแบบธรรมชาติ ติดทนนาน และไม่หลุดลอกง่าย
นอกจากผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวใหม่แล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เน้นสุขภาพผิวและเดอร์โมคอสเมติกส์ จัดแสดงที่บูธของ Dow ในงาน in-cosmetic Asia 2024 ด้วย เช่น คอลเลกชัน Dermocosmetics Concepts ของ Dow ที่นำเสนอเทคโนโลยีซิลิโคนไมโครไบโอมที่ได้รับการรับรองทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าส่วนผสมเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายต่อแบคทีเรียที่มีประโยชน์บนผิว และรักษาความสมดุลและความหลากหลายของจุลินทรีย์บนผิว คอลเลกชันนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาผิวและหนังศีรษะโดยเฉพาะ เพื่อสร้างสุขภาพผิวที่ดี
นายเซดริกกล่าวว่า อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชียจะยังคงเติบโตด้วยความต้องการที่หลากหลาย ผู้บริโภคมีความรู้มากขึ้นและมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ มีคุณภาพสูง และมีความปลอดภัย ดังนั้น Dow ในฐานะบริษัทวิทยาศาสตร์วัสดุ จึงจะยังคงขยายพอร์ตโฟลิโอของผลิตภัณฑ์ที่เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลส่วนบุคคลและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อเดินหน้าตามพันธกิจของ Dow ในด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน ในขณะเดียวกันก็ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคด้านประสิทธิภาพและผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนด้วย

เกี่ยวกับ ‘ดาว’
Dow (NYSE: DOW) เป็นหนึ่งในบริษัทวัสดุศาสตร์ชั้นนำของโลกที่ให้บริการลูกค้าในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง อาทิ บรรจุภัณฑ์ โครงสร้างพื้นฐาน ยานยนต์ และสินค้าอุปโภคบริโภค ความเป็นบริษัทระดับโลกที่มีโรงงานขนาดใหญ่และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ พร้อมด้วยความเป็นผู้นำทางธุกิจและความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืน ช่วยให้เราบรรลุการเติบโตอย่างมีผลกำไรและสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืน ปัจจุบัน Dow มีฐานการผลิตใน 31 ประเทศและมีพนักงานประมาณ 35,900 คน โดยมียอดขายประมาณ 45,000 ล้านดอลลาห์สหรัฐในปี 2566

ทั้งนี้ การอ้างอิงถึง Dow หรือบริษัทฯ นั้นจะหมายความถึง Dow Inc. และบริษัทในเครือ โดยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเราและความมุ่งมั่นในการเป็นบริษัทวัสดุศาสตร์ชั้นนำของโลกในด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน ด้วยการทำงานที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และให้การยอมรับบุคคลากรที่มีความหลากหลายได้ที่ www.dow.com

เกี่ยวกับ ‘กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย’
กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow Thailand Group) เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 และได้ร่วมกับบริษัท เอสซีจี ก่อตั้งกลุ่มบริษัทร่วมทุนเอสซีจี-ดาว ในปี พ.ศ. 2530 (ในปี 2565 เอสซีจี เคมิคอลส์ ได้รีแบรนด์เป็น เอสซีจีซี) โดยในปัจจุบัน กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ประกอบด้วยบริษัทซึ่ง Dow เป็นเจ้าของเพียงผู้เดียว และกลุ่มบริษัทร่วมทุนเอสซีจีซี-ดาว นอกจากนี้ ยังมีบริษัทร่วมทุนระหว่าง Dow และ โซลเวย์ ปัจจุบันประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของ ดาว ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โดยมีโรงงานหลายแห่งตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง ตลาดหลักของกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทยได้แก่ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ การก่อสร้าง และยานยนต์ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้ที่ https://www.dowfamilythailand.com/th/about_us.php หรือติดตามเฟซบุ๊ก www.facebook.com/DowThailandGroup/