สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมจัดการเสวนาวิชาการในหัวข้อ “ทักษะในศตวรรษที่ 21 สำคัญไฉน? ทำไมต้องเท่าทัน” ภายใต้กิจกรรมวันนักประดิษฐ์ ประจำปี 2568 (Thailand Inventors’ Day 2025) ในวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 โดยได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธานกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ได้บรรยายพิเศษในหัวข้อเรื่อง “ทักษะสำคัญในศตวรรษที่ 21 ส่งเสริมเพื่อสร้างโอกาสด้วย ววน.” พร้อมด้วย ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ประธานศูนย์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่ออนาคต ศูนย์ส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษ (Hub of Talents) และศูนย์คลังสมองแห่งชาติ (Hub of Knowledge) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ร่วมเสวนาในหัวข้อดังกล่าว ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร
ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธานกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ได้บรรยายพิเศษในหัวข้อเรื่อง “ทักษะสำคัญในศตวรรษที่ 21 ส่งเสริมเพื่อสร้างโอกาสด้วย ววน.” ว่า ความสำคัญของการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 เพื่อตอบรับความเปลี่ยนแปลงของยุคโลกาภิวัตน์ โดยนำเสนอแนวคิดของ “10 ทักษะจำเป็นแห่งอนาคต” อาทิ ด้าน AI and big data ด้าน Analytical thinking ด้าน Creative thinking ด้าน Networks and cybersecurity และด้าน Empathy and active listening ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเตรียมความพร้อมในยุคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในโลกยุคปัจจุบัน ซึ่งทิศทางการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทยในปี 2568 ได้ชี้ให้เห็นถึงโอกาสและความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมทั้งนำเสนอประเภทงบประมาณจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ที่มีการแบ่งประเภทของทุนสนับสนุนออกเป็นหลายประเภท อาทิ ทุนสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรม (Research and Innovation Fund; RI) ทุนสนับสนุนงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Science and Technology Development Fund; ST) ทุนสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรมระดับพื้นฐาน (Fundamental Fund; FF) และทุนสนับสนุนงานเชิงกลยุทธ์ (Strategic Fund; SF)
โดยในระบบของ ววน. และมีการแบ่งสัดส่วนการใช้จ่ายเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ ยกระดับสังคมและสิ่งแวดล้อม พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าของยุค รวมถึงการพัฒนากำลังคนและสถาบันด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รวมไปถึงการพัฒนาระบบและประเด็น Cross-cutting ในส่วนของเทคโนโลยีที่ควรจับตามองในปี 2568 นั้น มีเทคโนโลยีที่มีความสำคัญและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตในอนาคต ได้แก่ เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุค Digitalization 4.0, Quantum Computing, Electrified Transportation, Advanced Health Technology, Clean & Renewable Energy, Industrial & Service Robotics, เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปรากฏการณ์สภาพอากาศสุดขีด (Climate Change & Extreme Weather Technology), Space Economy, Neuro-Technology และสุดท้ายคือ Artificial Intelligence (AI) ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ถือเป็นแนวโน้มที่สำคัญและจะมีบทบาทต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต
ถัดมาเป็นการเสวนาในหัวข้อ “ทักษะในศตวรรษที่ 21 สำคัญไฉน? ทำไมต้องเท่าทัน” โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งสองท่านได้แก่
ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ประธานศูนย์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่ออนาคต ศูนย์ส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษ (Hub of Talents) และศูนย์คลังสมองแห่งชาติ (Hub of Knowledge) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า การพัฒนาทักษะและความรู้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ทันต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยอาศัยการบูรณาการความรู้สหวิทยาการและทักษะที่หลากหลาย เช่น ทักษะด้านเทคโนโลยี การสื่อสาร การบริหาร และการคิดวิเคราะห์ ซึ่งล้วนต้องทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความสำเร็จ การเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในภาคการแพทย์ เทคโนโลยีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาและความแม่นยำในการผ่าตัด เช่น เลเซอร์ อัลตราซาวด์ และหุ่นยนต์ผ่าตัด นอกจากนี้ ความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ การทำงานเป็นทีม และการตัดสินใจอย่างมีเหตุผลก็เป็นสิ่งสำคัญ ทักษะความเป็นผู้นำและการเป็นผู้ประกอบการช่วยให้สามารถแข่งขันและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้ ความเข้าใจในวัฒนธรรมที่หลากหลายและจริยธรรมเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานร่วมกัน สุดท้ายนี้การบูรณาการความรู้และทักษะอย่างต่อเนื่องคือกุญแจสู่ความสำเร็จในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทักษะที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทั้งด้านเทคนิคและทักษะทั่วไป เช่น การใช้เครื่องมือเฉพาะทาง การวิเคราะห์ การสื่อสาร และภาวะผู้นำ นอกจากนี้ ยังมีการเปรียบเทียบกับทักษะที่จำเป็นต่อบทบาทงานหรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยทักษะ (skills gap) ซึ่งเป็นจุดที่ควรพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน มีการแนะนำแนวทางเสริมสร้างทักษะ เช่น การฝึกอบรม หรือการเรียนรู้ด้วยตนเอง เพื่อให้สามารถเติบโตในสายอาชีพที่ต้องการ โดยรวมแล้ว เอกสารนี้เป็นแนวทางช่วยให้วีรชัยสามารถวางแผนพัฒนาตนเองได้อย่างเป็นระบบ ทั้งในด้านการเสริมจุดแข็งและเติมเต็มช่องว่างทางทักษะ เพื่อเพิ่มโอกาสความก้าวหน้าในอาชีพต่อไป
การเสวนาดังกล่าวมุ่งเน้นให้ความรู้เกี่ยวกับทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 และแนวทางการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ให้สามารถปรับตัวและแข่งขันในยุคแห่งนวัตกรรมและเทคโนโลยี ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์: www.nrct.go.th Facebook: สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ