“อมตะ” มั่นใจยอดขายที่ดินปี 67 เป็นไปตามเป้า 2,000 ไร่ เดินหน้าพัฒนาที่ดิน ระบบสาธารณูปโภค รองรับลงทุน และขยายโรงงานอย่างต่อเนื่อง เชื่อมั่นผลประกอบการเติบโตครึ่งปีหลัง สะท้อนจากสัญญาณ
การย้ายฐานการผลิตเข้าไทยและเวียดนาม ปลื้มยอดขายที่ดินสะสมเติบโต

นายโอซามู ซูโด รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยว่า ทิศทางยอดขายที่ดินในนิคมฯ ในช่วงครึ่งปีหลัง ปี 2567 มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากขณะนี้ยังมีการจองที่ดิน ของนักลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งในไทยและเวียดนาม จากการย้ายฐานการผลิตและขยายโรงงาน ดังนั้นเชื่อว่ายอดรับรู้รายได้จากการโอนที่ดินจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เห็นได้จากไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ยอดโอนที่ดินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันที่มียอดรอการรับรู้รายได้จากการโอน หรือแบ็คล็อค อยู่ที่ 16,939 ล้านบาท คาดว่า ปี 2567 จะทยอยรับรู้รายได้ประมาณ 50% และในปี 2568 อีก 50%

ดังนั้นรายได้ ของบริษัทฯ มีการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมาย โดยคาดว่าสิ้นปีจะมียอดจองประมาณ 2,000 ไร่ เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน จากครึ่งปีแรกมียอดขาย 1,060 ไร่ เนื่องจากนักลงทุนมั่นใจในทำเลที่ตั้งของนิคมฯอมตะซิตี้ ทั้งชลบุรี ระยอง และเวียดนาม ที่สามารถให้บริการด้านอำนวยความสะดวก และระบบสาธารณูปโภคที่พร้อม ประกอบกับการย้ายฐานการผลิตจากต่างประเทศมาภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งไทย และเวียดนาม

สำหรับแผนการพัฒนานิคมฯ ในปี 2567 เพื่อรองรับการลงทุนที่เกิดขึ้น บริษัทฯ ยังเดินหน้าพัฒนาที่ดินในนิคมฯ และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้านสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่จะเข้ามาตั้งสถานประกอบการ และให้สอดรับกับทิศทางอุตสาหกรรมแห่งอนาคต