เนื่องในวันสตรีสากล (International Women’s Day) เอเอส วัตสัน ผู้นำร้านค้าปลีกด้านสุขภาพและความงามระดับนานาชาติรายใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศการเป็นร้านค้าปลีกด้านสุขภาพและความงามรายแรกในการลงนามในหลักการ Women’s Empowerment Principles ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวระดับโลก ภายใต้การนำของ UN Women (หน่วยงานสหประชาชาติด้านความเท่าเทียมทางเพศ และการส่งเสริมศักยภาพ) เพื่อพัฒนาด้านความเท่าเทียมทางเพศและเสริมความแข็งแกร่งให้กับผู้หญิง โดย เอเอส วัตสัน ได้เดินหน้าส่งเสริมแนวคิดดังกล่าว ผ่านการพัฒนาสภาพแวดล้อมทั้งในที่ทำงาน ตลาดธุรกิจ และสังคม โดยการส่งเสริมแนวคิดด้านการยอมรับความหลากหลาย และการให้โอกาสทางอาชีพสำหรับผู้หญิง
คุณมาลีนา ไหง ประธานกรรมการบริหาร เอเอส วัตสัน (เอเชียและยุโรป) กล่าวว่า“ที่ เอเอส วัตสัน เรามุ่งมั่นในการสนับสนุนผู้หญิงทุกคนให้มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น โดยกว่า 80% ของจำนวนสมาชิก160 ล้านคน และกว่า 70% ของพนักงานของเราทั้ง 130,000 คนนั้น เป็นผู้หญิง ทำให้เราตระหนักถึงการสร้างแรงบันดาลใจ และสนับสนุนผู้หญิงทุกคนให้เป็นตัวเองในรูปแบบที่ดีที่สุด
นอกจากนั้น เรายังภูมิใจที่ได้สร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ยอมรับซึ่งความแตกต่างระหว่างกัน โดยเฉพาะการให้คุณค่าและโอกาสในการเติบโตในสายอาชีพที่เท่าเทียมสำหรับผู้หญิง เอเอส วัตสัน ปรารถนาที่จะยกระดับและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงทุกคนเปล่งประกายจากภายใน ด้วยแนวคิด The New Beautiful หรือความงามรูปแบบใหม่ที่มีอยู่ในตัวทุกคน”
การดูแลผู้หญิงในวงการแพทย์ และสุขภาพ
ความมุ่งมั่นของ เอเอส วัตสัน ด้านการส่งเสริมศักยภาพของผู้หญิง ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านการทำงานร่วมกันกับมูลนิธิสร้างรอยยิ้ม (Operation Smile) ในโครงการ Women in Medicine ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับผู้หญิงในแวดวงการแพทย์และสุขภาพ ผ่านการให้โอกาสในการเรียนรู้และฝึกฝนเฉพาะทาง เพื่อให้พวกเขาพร้อมก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านการแพทย์และสุขภาพระดับโลก
โครงการนี้ประสบความสำเร็จในการฝึกอบรมศัลยแพทย์พลาสติกหญิง 30 คนผ่านโครงการศัลยกรรมและให้ความรู้สำหรับผู้หญิง และรอยยิ้มนับพันจะถูกสร้างขึ้นใหม่ในทุกปี โดยเอเอส วัตสัน มุ่งมั่นสนับสนุนการผ่าตัดทั้งหมด 10,000 เคสภายในปี 2573
ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่ดีไปทั่วโลก
เอเอส วัตสัน และร้านค้าปลีกทั้ง 12 แบรนด์ ใน 28 ตลาด มีแผนเปิดตัวกิจกรรมเพื่อการสนับสนุนผู้หญิงทั้งภายในองค์กร รวมไปถึงกลุ่มลูกค้า เพื่อสะท้อนแนวคิด ‘Inspire Inclusion’ ของวันสตรีสากลในปีนี้
โดย วัตสัน ได้เตรียมเปิดตัวแคมเปญ ‘Our Time is Now’ สำหรับวันสตรีสากล ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสนับสนุนผู้หญิงให้กล้าที่จะเป็นตัวเองอย่างแท้จริง ซึ่งตลอดทั้งเดือน วัตสัน จะมีกิจกรรมสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนต่างๆ มากมาย
ในเอเชีย วัตสัน ฮ่องกง จะสนับสนุนโครงการ ‘ChariTea’ ขององค์กร YWCA ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยส่งเสริมผู้หญิงที่ต้องพึ่งพาตัวเองที่อาจจะกำลังประสบกับปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาชีวิตสมรส มารดาที่ตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุยังน้อย รวมไปถึงการช่วยเหลือผู้สูงอายุ ในขณะที่ วัตสัน ประเทศไทย มีการจัดตั้งแคมเปญ ‘Green Ribbon’ เพื่อสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ พร้อมบริจาครายได้จากการจำหน่ายโบว์เขียวให้สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ (บ้านพักฉุกเฉิน) เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กที่มีปัญหาทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมไปถึง วัตสัน ฟิลิปปินส์ ที่ได้ร่วมมือกับ Women’s Run Ph ส่งเสริมสุขภาพของผู้หญิงด้วยการมีไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟ โดยการเชิญชวนผู้หญิงกว่า 5,000 คนมาร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสพิเศษนี้ผ่านกิจกรรมวิ่งอีกด้วย
ทางฝั่งของยุโรป ร้าน Superdrug ได้นำเอาสินค้าด้านสุขภาพและความงามจากแบรนด์ที่ถูกก่อตั้งโดยผู้หญิงมารวบรวมไว้ภายในร้านมากมาย และจัดโครงการต่างๆ เพื่อส่งเสริมศักยภาพของเหล่าพนักงานผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็น การแข่งขันถ่ายภาพ รวมไปถึง การจัดทำพอดแคสต์ ส่วนร้าน Drogas จะมีการจัดกิจกรรม ‘Ladies’ School’ ขึ้น เพื่อแบ่งปันเคล็ดลับด้านสกินแคร์ หรือเครื่องสำอาง สำหรับกลุ่มลูกค้าผู้หญิง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาใช้ชีวิตอย่างมั่นใจและงดงาม และร้าน The Perfume Shop จะมีการรวบรวมวิดิโอเกียวกับการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนร่วมงานผู้หญิง เพื่อสนับสนุนให้พวกเขาเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด
การเป็นผู้นำในการส่งเสริมศักยภาพสตรี
ในฐานะผู้นำร้านค้าปลีกด้านสุขภาพและความงาม เอเอส วัตสัน มุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมสร้างผลกระทบเชิงบวก และส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ สนับสนุนความแข็งแกร่งของผู้หญิง และสร้างสังคมที่ยอมรับในความหลากลายให้กับทุกคน โดยคุณมาลีนา ยังได้ย้ำเพิ่มเติมว่า “เราเชื่อว่าการส่งเสริมความศักยภาพให้กับผู้หญิงนั้น ไม่ได้เป็นเพียงความรับผิดชอบของเราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความมุ่งมั่นของเราในการสร้างโลกที่เท่าเทียมและยอมรับซึ่งความหลากหลาย สร้างพื้นที่ที่ทุกคนได้รับการยอมรับ ซึ่งเราไม่สามารถที่จะบรรลุเป้าหมายนี้ได้เพียงลำพัง ดังนั้น เราจะเดินหน้าสนับสนุนผู้หญิงอย่างต่อเนื่อง โดยสร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้า พนักงานของเรา และพันธมิตรของเรา เพื่อร่วมกันเดินหน้าสร้างโลกที่ดีกว่าเดิม”
| เอเอส วัตสัน ยินดีประกาศถึงการลงนามครั้งสำคัญ ‘Women’s Empowerment Principles’ การเคลื่อนไหวระดับโลกด้านความมุ่งมั่นด้านความเท่าเทียมทางเพศ และการส่งเสริมศักยภาพของผู้หญิง โดย UN Women |
| เอเอส วัตสัน สะท้อนความมุ่งมั่นในการส่งเสริมศักยภาพของผู้หญิง ผ่านการร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับโครงการ Smile in the Women in Medicine ของมูลนิธิ Operation Smile |
| วัตสัน เปิดตัวแคมเปญ ‘Our Time is Now’ เนื่องในวันสตรีสากล สานต่อความมุ่งมั่นในการส่งเสริมศักยภาพของผู้หญิงให้เป็นตัวเองโดยแท้จริง |
| Superdrug รวมสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามจากแบรนด์ที่ถูกคิดค้นโดยผู้หญิงไว้ในร้านค้ามากมาย |
เกี่ยวกับ เอเอส วัตสัน
เอเอส วัตสัน ก่อตั้งที่ฮ่องกงในปี พ.ศ 2384 เป็นผู้นำร้านค้าปลีกด้านสุขภาพและความงามระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการดำเนินธุรกิจกว่า 16,400 แห่งภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 12 แบรนด์ ใน 28 ตลาด พร้อมด้วยพนักงานมากกว่า 130,000 คนทั่วโลก สำหรับปีงบประมาณ 2563 เอเอส วัตสันกรุ๊ปมีรายได้รวมที่ 22 ล้านเหรียญสหรัฐ และในทุก ๆ ปี เราให้บริการนักชอปมากกว่า 5.5 พันล้านคน ผ่านประสบการณ์การชอปปิ้งอย่างไร้รอยต่อทั้งในหน้าร้านค้าและบนออนไลน์แพลตฟอร์ม
เอเอส วัตสันกรุ๊ป เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มบริษัทข้ามชาติระดับโลกอย่าง ซี เค ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด ซึ่งมีธุรกิจหลัก 4 ประเภท – ธุรกิจส่งออก, ธุรกิจการค้าปลีก, ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน, และธุรกิจโทรคมนาคมในมากกว่า 50 ประเทศ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.aswatson.com/our-company/o-and-o-strategy/
เกี่ยวกับ วัตสัน ประเทศไทย
วัตสัน ร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทย ที่มอบประสบการณ์ชอปปิงแบบไร้รอยต่อทั้งออนไลน์และออฟไลน์ (O+O) เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2539 วัตสันนำเสนอประสบการณ์ชอปปิ้งแบบไร้รอยต่อด้วยจำนวนสาขามากกว่า 670 สาขาทั่วประเทศ และวัตสัน ออนไลน์ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและครบครันให้แก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม โดยวัตสันมีความมุ่งมั่นต่อเนื่องที่จะส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพ คุ้มค่า คุ้มราคา รวมไปถึงการให้บริการแก่ลูกค้าทุกคนด้วยความใส่ใจ และมีมาตรฐาน รวมไปถึงความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ LOOK GOOD, DO GOOD, FEEL GREAT
