“อาเซียรีดอกซ์” (ประเทศไทย) โชว์ยอดขายทรงตัว รับอานิสงส์โควิดดันผลิตภัณฑ์โตตามธุรกิจออนไลน์ เผยแผนครึ่งปีหลัง วางกลยุทธ์รับมือวิกฤตโควิด-19 ชู 3 กลยุทธ์แด็ด 1. ปรับปรุงเว็บไซต์ 2. เพิ่มระบบการชำระ 3. ทุ่มงบอัดโปรโมชั่น ช่วยฟื้นฟูธุรกิจดัดยอดขายเพิ่ม หวังดึงดูดสมาชิกใหม่เข้าเสริมทัพ สร้างอาณาจักรสุดแกร่ง!
สุชาติ ไชยชะนะ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อาเซียรีดอกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (ASEA) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิดระลอกใหม่ ส่งผลกระทบด้านการขยายฐานสมาชิกใหม่ยอดขายทรงตัว เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 5 – 10% แต่ไม่ถึงเป้าที่วางไว้ เชื่อว่าครึ่งปีหลังจะกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้น หลังจากปรับกลยุทธ์เพื่อวางรากฐานให้มั่นคงขึ้น
“สำหรับภาพรวมครึ่งปีที่ผ่านมา หลายบริษัทเจอผลกระทบจากโควิด แม้ยอดขายจะไม่ได้เป็นไปตามเป้า แต่ยังทรงตัว เพราะเรามีโปรดักส์ที่ดี มีคุณภาพ ทำให้มียอดขายเกิดจากการซื้อขายซ้ำเป็นประจำประมาณ 80% จึงยังทรงตัว แต่ก็เพิ่มจากปีที่ผ่านมาประมาณ 5 – 10% แสดงว่าสินค้ามีคุณภาพ คนชอบชุดผลิตภัณฑ์ RENU 28 ซึ่งสินค้าหลัก ตอนนี้มีการปรับเปลี่ยนแพคเกจจิ้งใหม่ด้วย ให้เรียบหรู เพิ่มปริมาณ ราคาเท่าเดิม คาดน่าจะได้รับอานิสงส์จากโควิดดันผลิตภัณฑ์โต จากการโฆษณาผ่านระบบออนไลน์ นับว่าเจาะกลุ่มได้ตรงจุด”
ส่วนกลยุทธ์ในครึ่งปีหลัง อาเซียเน้นปรับ 1. ปรับเว็บไซต์ให้มีความทันสมัยครอบคลุม 2. เพิ่มระบบการชำระเงินซื้อ – ขายสินค้า 3. อัดฉีดงบโปรโมชั่น รีครูทสมาชิกเข้ามาร่วมงานในองค์กรผ่านการแนะนำ และจ่ายโบนัสเพิ่ม จากปกติ 20% เพิ่มให้เป็น 2 เท่า โดยบริษัทจ่ายส่วนกำไรให้สมาชิก 100% เนื่องจากช่วงนี้ อยู่ระหว่างนโยบายการเพิ่มจำนวนสมาชิก ปัจจุบันยอดสมาชิกแอคทีฟกว่า 2,000 รหัส ตั้งเป้าเพิ่มสมาชิกนักธุรกิจใหม่ 2 เท่าจากทุกเดือน ภายใน 1 ปี คาดเพิ่มสูงถึงหลักหมื่นคน
“นโยบายตอนนี้คือ การเพิ่มคน หากคนเพิ่ม ยอดขายก็เพิ่มตามมาเป็นโดมิโน จากการซื้อกินซื้อใช้ ดังนั้นในปีนี้บริษัทจึงมุ่งเน้นส่วนนี้มากที่สุด ส่วน ฝั่งโกลบอล จะมีโปรเจคใหญ่เร็วๆ นี้ รองลงมาคือ เพิ่มฐานสมาชิก และปรับปรุงเครื่องมือสนับสนุนให้ทันสมัย รับมือ สถาการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ เช่น โควิดตอนนี้ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป หันมาซื้อขายผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น บริษัทจึงเน้นปรับเพื่อให้สมาชิกทำงานง่าย จ่ายโบนัสง่าย จะได้มีกำลังใจในการทำงาน”
ในอนาคตบริษัทฝั่งโกลบอลตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปี จะสามารถทะยานสู่เครือข่ายอันดับ 40 ของโลก ซึ่งตอนนี้อยู่ในลำดับที่ 86 ของโลก หากจะทำตามเป้าได้ ต้องสร้างยอดขาย 500 ล้าน USD ขึ้นไป ส่วนเมืองไทยจะเน้นการขยายผู้นำ ปั้นนักธุรกิจเงินล้าน เงินแสนหน้าใหม่ เนื่องจากระบบเดิมผู้นำเน้นการทำงานออฟไลน์ เมื่อเจอวิกฤติทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก แต่ก็มีนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่เน้นทำตลาดออนไลน์ในเบื้องต้น ที่สามารถทำยอดขายได้เติบโตตต่อเนื่อง คาดจะสามารถไต่ระดับสู่ตำแหน่งไดมอนด์ อีกประมาณ 4 – 5 รหัส
“อย่างไรก็ดี ใครที่กำลังมองหาธุรกิจที่มั่นคง หรือหารายได้เสริมก็สามารถเข้ามาศึกษาเรียนรู้แผนการตลาด สินค้า และระบบก่อนได้ เรายินดีช่วยเหลือสมาชิกทุกท่าน เรามีแผนที่ดี โปรโมชั่นที่น่าสนใจ ซึ่งจะปล่อยออกมาเร็วๆ นี้ และค่อนข้างมั่นใจว่า แผนนี้คนจะมีรายได้ขั้นต่ำเดือนละ 5 หมื่นบาท แค่ขยันแนะนำคน ทำไม่เป็นเราพร้อมสอนให้ เครื่องมือทุกอย่างพร้อม” สุชาติ ไชยชะนะ กล่าวปิดท้าย
