การแพร่ระบาดของโควิด-19 รุนแรงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ภาคธุรกิจทั้งขนาดเล็กและใหญ่ต้องดิ้นรนปรับตัวฝ่าความท้าทาย เพื่อให้อยู่รอดและสามารถกลับมายืนได้อย่างแข็งแกร่ง นับเป็นอีกหนึ่งคลื่นลูกใหญ่ที่ท้าทายอย่าง “วีไซ” โดยผู้นำองค์กร “ศุภพงศ์ จันทรวีรกุล” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท วีไซ (ประเทศไทย) จำกัด ได้นำทัพ แม่ทีมก้าวข้ามวิกฤตด้วยการปรับตัวให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ พร้อมเปิดแผนชูกลยุทธ์ออนไลน์ หลังผู้นำย้ายค่าย รับไม่กระทบต่อองค์กรโดยรวม พร้อมปั้นทีม Back-office ดูแลสื่อโฆษณาทุกระบบ หวังโปรโมทแบรนด์สินค้าเจาะกลุ่มสร้างยอดขายกู้วิกฤตโควิด
“องค์กรพร้อมปรับกลยุทธ์การทำงานตลอด โดยเริ่มมาได้สักระยะแล้ว ด้านการวางระบบออนไลน์ให้ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น หลังจากทีมเก่าออกไป ก็มีทีมใหม่ซึ่งเป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดีเข้ามาทำงานร่วมกัน เป็นคนที่มีความรู้ด้านเครือข่าย กลับเข้ามา เรียกได้ว่าเป็นผู้นำทีมเก่าที่เคยทำธุรกิจมาแล้ว เมื่อเกิดวิกฤตอีกครั้งจึงไม่ได้เร่งขับเคลื่อนธุรกิจอย่างรีบร้อน ผนวกกับโควิดกลับมาอีกรอบที่3 ครั้งนี้เราก็มีการปรับตัว 360 องศา ทั้งโปรดักส์ กลุ่มสินค้า แผนการตลาด และการสอนการทำธุรกิจผ่านระบบออนไลน์แก่ผู้นำ ตั้งแต่เริ่มต้นวางระบบ การโฆษณาออนไลน์ ขณะเดียวกันเรามีทีมที่จะเข้ามาช่วยดูแลทั้งหมด ไม่ใช่แค่สอน แต่ยังลงลึกถึงการลงมือปฏิบัติด้วย เพื่อ ซัพพอร์ตการขยายตลาดและองค์กร เช่น ถ้าขายไม่ได้ เดี๋ยวเรามีทีมเข้าไปช่วย เป็นต้น”
ชูกลยุทธ์ปั้น Back-office ทีมใหม่ ดูแลระบบออนไลน์ทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มต้น เสมือนสตาร์ฟหรือผู้ช่วยประจำตัว โดยจะเริ่มเดินหน้าอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 เดือนมิถุนายน นี้ หลังจากบริษัทวีไซย้ายไปออฟฟิศใหม่ ตั้งอยู่โซนรัชดาใกล้อาคารเดิม มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง พร้อมที่จอดรถฟรีตลอด 24 ชั่วโมงอีกกว่า 40 คัน
ศุภพงศ์ จันทรวีรกุล ผู้จัดการทั่วไป กล่าวต่อว่า ส่วนกลุ่มโปรดักส์ ปัจจุบันบริษัทเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ กลุ่มเกษตร อาหารเสริมพืชเข้ามาในช่วงเดือนเมษายน ผลตอบรับดีมากจนน่าแปลกใจ ทั้งที่บริษัททำการตลาดผ่านระบบออนไลน์ แต่กระแสดีมากในกลุ่มสินค้าใหม่ ทำยอดขายอันดับ 1 ในประเทศไทย โดยมีกลุ่มสินค้าที่ทำยอดขายเป็นอันดับ 1 คือ เครื่องสำอาง รองลงมาคือ วิตามิน C
“สำหรับ ภาพรวม วีไซ ยังมีแนวโน้มดี ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยกว่า 3 ปี มีสมาชิกรวม 3,000 คน ปัจจุบันยังมีผู้นำระดับสูง ในระดับเอมเมอรัลกว่า 5 รหัส อยู่กับเรา โดยเฉลี่ยแต่ละรหัสต้องมียอดขายประมาณ 4 – 5 ล้านบาท แม้ตอนนี้บางท่านจะนิ่ง เนื่องจากต้องปรับตัวในวิกฤตช่วงนี้ รวมถึงการปรับเปลี่ยนแผนการทำงานผ่านระบบออนไลน์ 100% เชื่อว่า ครึ่งปีหลังหากหมดโควิด เนื่องจากผู้นำที่อยู่กับเรามีความเป็นทีมเวิร์ค มีแนวคิดที่ไปในทิศทางเดียวกัน เราจะไปต่ออย่างแข็งแกร่ง คงเน้นสร้างงานพื้นฐาน พร้อมกำหนดทิศทางการทำงานให้เป็นทิศทางเดียวกันมากขึ้น”
นอกจากนี้ วีไซ เชื่อว่า การสร้างวัฒนธรรมองค์กรจะสามารถทำให้บริษัทแข็งแรง พร้อมวางกลยุทธ์ปั้นทีมออนไลน์เข้ามาซัพพอร์ตผู้นำ คาดจะเพิ่ม Back-office ประมาณ 20 คน ภายใน 2 เดือนที่จะถึง ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปี 64 ประมาณ 150 – 200 ล้านบาท ก็พอใจแล้วในสถานการณ์แบบนี้
