ถอดกลยุทธ์ “วิโว่” วางเป้าหมาย 5 ปี ขึ้นแท่นผู้นำเทคโนโลยีชั้นนำเครือข่ายระดับโลก

0
4249

วิโว่ ยืนหนึ่งโชว์ความโดดเด่นแพลตฟอร์มธุรกิจที่ล้ำสมัย เผยผลประกอบการครึ่งปี 2563 ยอดขายทะลุเป้าหมายที่วางไว้  ลั่น! กระแสตอบรับดีต่างประเทศ กัมพูชา ลาว พม่า กำลังเติบโตอย่างยอดเยี่ยม  เตรียมเปิดสำนักงานอย่างยิ่งใหญ่รองรับการเติบโตในเร็วๆ นี้ พร้อมวางเป้าหมายในปี 2563 พร้อมเป็นศูนย์กลางของ วิโว่ ในภูมิภาค และต้องการเป็น Long-Term Business ธุรกิจที่เติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว  เปิดแผน 5 ปี ต้องการเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ และเป็นเครือข่ายชั้นแนวหน้าติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศไทย​และ​       ทั่วโลก  

คุณนิธิศรินทร์  ดำสุข ผู้จัดการทั่วไป บริษัท วิโว่ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า “การทำธุรกิจของ วิโว่ ประเทศไทย ที่ผ่านมา อยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องชัดเจน เพื่อให้นักธุรกิจที่ร่วมธุรกิจกับเราได้มีความมั่นใจ อีกทั้งประเทศไทยเป็นศูนย์กลางที่จะขยายธุรกิจไปในภูมิภาคอาเซียน ด้วยความเป็นมืออาชีพของทีมผู้บริหารที่ได้เตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน ส่งผลให้ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ยอดเยี่ยม มีสมาชิก จากทั้งใน และต่างประเทศ ให้ความสนใจและเข้าร่วมธุรกิจเป็นจำนวนมาก ปัจจุบัน วิโว่ ใน กัมพูชา ลาว พม่า และอีกหลายประเทศก็กำลังเติบโตอย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน”

สำหรับปัจจัยที่ผลักดันให้ วิโว่ เติบโตอย่างมั่นคง เกิดจากองค์ประกอบที่ครบด้าน ด้วยภาพลักษณ์บริษัทที่มั่นคง ได้รับการจัดเรทติ้งให้เป็น AAA+ มีความมั่นคงทางการเงินสูงสุด และด้วยความโดดเด่นของแพลตฟอร์มสินค้าเพื่อดูแลสุขภาพ ที่ได้นำเอานวัตกรรมทางเทคโนโลยีมาใช้ในการปกป้องดูแลสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ก็คือร่างกายของทุกคน จึงทำให้สินค้ามีความโดดเด่นเป็นที่สนใจของทุกคน 

“ด้วยแพลตฟอร์มธุรกิจที่เปิดโอกาสให้คนได้เข้ามาเริ่มต้นได้ง่ายๆ ผ่านระบบออนไลน์ฟรี ตลอด 24 ชม. อีกทั้งบริษัทยังได้จัดเตรียมเครื่องมือสื่อเอกสาร วีดีโอสื่อการสอนต่างๆ และงานฟังก์ชั่นทั้งออนไลน์และออฟไลน์ที่ครบถ้วน จึงทำให้วิโว่ประเทศไทยได้รับความไว้วางใจจากนักธุรกิจ ให้ความสนใจกันมากมาย และมีอัตราการเติบโตตามเป้าหมายที่บริษัทได้วางไว้”

คุณนิธิศรินทร์  กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน วิโว่ มีแพลนที่ชัดเจนแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ  ระยะที่หนึ่ง บริษัทจะค้นหาผู้นำฟาวเดอร์ ผู้ร่วมบุกเบิกเป็นแม่ทัพของวิโว่ให้มากที่สุด ซึ่งในช่วงนี้บริษัทได้จัดโปรโมชั่นที่น่าสนใจหลายหลายโปรโมชั่น เพื่อสนับให้นักธุรกิจทุกท่านทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้น  ระยะที่สอง ทางบริษัทจะทำการเปิดออฟฟิศอย่างเป็นทางการของวิโว่ ประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดตัวล่วงหน้า เพื่อประกาศความพร้อมในทุกๆด้านของวิโว่ประเทศไทย และระยะที่สาม ทางบริษัทจะเตรียมกำหนดการ เพื่อจัดงานใหญ่คืองาน VYVO Thailand Grand Opening ซึ่งจะเป็นงานใหญ่ประจำปีที่ผู้บริหารวิโว่และผู้นำวิโว่จากทั่วโลกจะเดินทางเพื่อร่วมแสดงความยินดีในงานนั้น ซึ่งทั้งสามแนวทางบริษัทฯ ได้เตรียมกลยุทธ์และวางแผนแต่ละสเตปไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้บริษัทวิโว่ประเทศไทยเติบโตอย่างมั่นคง

    “วิโว่ วางกลยุทธ์ในการพัฒนาผู้นำให้มีความเป็นมืออาชีพและดำเนินธุรกิจ อยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องชัดเจน จึงได้สร้างระบบ VYVO SMART ACADEMY ขึ้นมา เพื่อเป็นโรงเรียนสอนธุรกิจ โดยได้เตรียม เครื่องมือ สื่อเอกสาร งานฟังก์ชั่น ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ไว้อย่างครบถ้วน และได้เชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ที่มากด้วยความรู้ความสามารถหลายท่าน ที่จะช่วยพัฒนาความรู้ให้กับนักธุรกิจเพื่อเติมเต็มศักยภาพให้ทุกคนเป็นมืออาชีพ และสามารถสร้างธุรกิจอย่างมั่นคงในระยะยาว ซึ่งระบบการเรียนรู้เป็นสิ่งที่วิโว่ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ในการพัฒนาธุรกิจของเราให้เติบโตทั้งในปัจจุบันและในอนาคต”

    อย่างไรก็ดี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา วิโว่ มีการจัดกิจกรรมขึ้นในส่วนกลาง ทั้งระบบออนไลน์และออฟไลน์  โดยระบบออนไลน์ ทางบริษัทได้จัดประชุมผ่านโปรแกรม ZOOM ทุกๆ วันเสาร์  ในข้อหัว  VBO (Vyvo Business Opportunity) เป็นงานเปิดโอกาสธุรกิจวิโว่ค้นพบคำตอบของการสร้างแพลตฟอร์มธุรกิจบนโลกเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และทุกๆ วันพุธ ในหัวข้อ  VBT (Vyvo Business Training) เติมเต็มความเป็นมืออาชีพในการทำธุรกิจของคุณ จากวิทยากรชั้นนำที่ได้เตรียมเรื่องราวที่น่าสนใจมาแบ่งปัน  อีกทั้งบริษัทยังได้จัดกิจกรรมรายเดือนเป็นงาน SUPER VBO (Super Vyvo Business Opportunity) งานเปิดโอกาสทางธุรกิจกับ วิโว่ บริษัทชั้นนำทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับโลก ที่จัดขึ้นทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด เพื่อเป็นการยกระดับความเชื่อมั่น สร้างกำลังใจ และให้นักธุรกิจได้เห็นภาพใหญ่ในวิโว่มากยิ่งขึ้น

คุณนิธิศรินทร์  กล่าวต่อไปว่า  วิโว่ ประเทศไทย มีฝ่ายบริการลูกค้า CS (Customer Service) ที่คอยให้คำแนะนำ ตอบคำถาม และช่วยแก้ปัญหาให้ สมาชิกทุกคน โดยสามารถติดต่อผ่าน ไลน์ออฟฟิเชียล @vyvothailand มีการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร และ  Facebook Fanpage (เฟซบุ๊คแฟนเพจ) VYVO Thailand ซึ่ง และตอบคำถามลูกค้าที่ Inbox เข้ามาอีกด้วย และยังมี  YouTube (ยูทูป) VYVO Thailand ให้สมาชิกเรียนรู้ข้อมูลด้วยตนเอง ได้เช่นกัน ซึ่งช่องทางการติดต่อ หรือช่องทางการเรียนรู้เหล่านี้ คือความมุ่งมั่นตั้งใจของบริษัท วิโว่ ในการเตรียมความพร้อมเพื่อดูแลสมาชิกวิโว่ทุกคน

ส่วนทางด้านผลิตภัณฑ์บริษัทฯ มีสัดส่วนยอดขายในกลุ่ม VYVO TECH คิดเป็น 70% ของยอดขายรวม และผลิตภัณฑ์กลุ่ม VYVO HEALTH คิดเป็น 30%  ปัจจุบัน วิโว่ ได้เปิดตัว สมาร์ทวอทช์รุ่นล่าสุด วิโว่ วอทช์ไลท์ เอสอี ซึ่งถือว่าเป็น Life Watch คือนาฬิกาเพื่อชีวิตอย่างแท้จริง  และ  “เลกจิร่า” เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเทคโนโลยีของ วิโว่ เป็นเครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะ ที่สามารถตรวจเช็คองค์ประกอบในร่างกายได้หลายระบบ  อีกทั้ง ยังมีผลิตภัณฑ์ NutraPak™ คือผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบเฉพาะส่วนบุคคล  และผลิตภัณฑ์Sugar Buster™ ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวช่วยในการกำจัดน้ำตาล สลายไขมันได้เป็นอย่างดี  ล่าสุดบริษัทฯ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 2 รายการ คือ 1.นูทราแพ็ค ซันพาวเวอร์ มีส่วนช่วยในการ เพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย เสริมความแข็งแรงให้กระดูก กล้ามเนื้อ บำรุงสายตาและอวัยวะภายในร่างกาย 2. นูทราแพ็ค เอ็นเนอร์จี้ มีส่วนช่วย ในการเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย บำรุงระบบประสาท และสมอง ลดความเครียด เพิ่มสมาธิ และความจำ

เป้าหมายของ วิโว่ ในปี 2563 เตรียมความพร้อมเพื่อเป็นศูนย์กลางของ วิโว่ ในภูมิภาคอาเซียน ดังนั้น ภาพความสำเร็จที่เกิดขึ้นในประเทศไทยต้องเป็นภาพที่ชัดเจน โดยปีนี้บริษัทฯ จะเปิดตัวสำนักงานอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการประกาศความมั่งคง ยกระดับความมั่นใจให้นักธุรกิจวิโว่ทุกคนที่ตัดสินใจเข้ามาร่วมธุรกิจกับเรา และสร้างนักธุรกิจวิโว่ประเทศไทยให้ประสบความสำเร็จ เพื่อเป็นต้นแบบให้กับอีกหลายๆประเทศ โดย วิโว่ต้องการเป็น Long-Term Business ธุรกิจที่เติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว  พร้อมวางเป้าหมาย วิโว่จะเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ และเป็นเครือข่ายชั้นแนวหน้า ที่ติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศไทยและทั่วโลก 

“เชื่อว่าด้วยแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่โดดเด่นของวิโว่  ทำให้ธุรกิจของวิโว่ อยู่ในตลาด Blue Ocean (บลูโอเชี่ยน) ที่ไร้คู่แข่งและสามารถขยายธุรกิจได้แบบไร้ขีดจำกัด เนื่องจากเรามอบโอกาสในการดูแลสุขภาพที่ครบด้าน และมอบโอกาสในการสร้างรายได้ที่ไร้ความเสี่ยงให้กับผู้คนกว่า 4 พันล้านคน จาก 120 ประเทศทั่วโลก ผ่านระบบออนไลน์  เราจึงมั่นใจว่าปีนี้จะเป็นการเติบโตที่มั่นคง และอยู่บนรากฐานที่ทุกคนสามารถไว้วางใจได้”  คุณนิธิศรินทร์  กล่าวทิ้งท้าย