บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP ประกาศผลการดำเนินงานปี 2562 มีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมอยู่ที่ 16,760 ล้านบาท +6% จากปีก่อน โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนของบริษัทฯ จำนวน 10,807 ล้านบาท +38% จากปีก่อน พร้อมทั้งเปิดแผนการลงทุนในปี 2563 ซึ่งจะส่งผลให้ ROE อยู่ในระดับที่ไม่น้อยกว่า 12%
นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP กล่าวว่า “TCAP และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับปี 2562 จำนวน 16,760 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6% ในขณะที่กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯ มีจำนวน 10,807 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 38% โดยมีสาเหตุหลักมาจากผลการดำเนินงานของ TBANK และบริษัทย่อยที่เติบโตขึ้น รวมถึงกำไรจากการขาย TBANK ให้แก่ TMB ซึ่ง TCAP เข้าไปถือหุ้นใน TMB 20.11% โดย TMB ถือเป็นเงินลงทุนในบริษัทร่วม และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย
นายสมเจตน์ กล่าวว่า ”การย้ายไปถือหุ้นใน TMB ที่รวม TBANK เข้าไปเป็นธนาคารที่ใหญ่ขึ้นเท่าตัว เป็นการปรับยุทธศาสตร์ของเรา ซึ่งธนาคารที่ใหญ่ขึ้นจะมีความสามารถในการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้น แข็งแกร่งขึ้น ส่งผลดีต่อ TCAP ในอนาคต ประกอบกับการ ถือหุ้นในบริษัทลูกๆ โดยตรง เป็นการกระจายตัวของแหล่งรายได้ที่ดีขึ้นของ TCAP นอกจากนี้ ธุรกิจเช่าซื้อยังคงเป็นธุรกิจที่ TCAP ให้ความสำคัญ ด้วยการถือหุ้นโดยอ้อมใน TBANK ที่เป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ผ่าน TMB และถือหุ้นโดยตรงใน THANI ที่มีความเชี่ยวชาญอย่างมากในสินเชื่อรถบรรทุก ซึ่งครอบคลุมทุกมิติของธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ”
“จากการปรับยุทธศาสตร์ดังกล่าว ส่งผลให้ TCAP มีเงินสดคงเหลือประมาณ 14,000 ล้านบาท คณะกรรมการจึงได้อนุมัติวิธีการบริหารเงินสดส่วนเกินดังกล่าว โดยจะจัดสรรไปซื้อหุ้นคืน ในวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาท และจ่ายเงินปันผลพิเศษให้แก่ผู้ถือหุ้น TCAP ในอัตราหุ้นละ 4.00 บาท ซึ่งได้จ่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา นอกจากนี้เรายังมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจที่เรามีความเชี่ยวชาญ อาทิ ธุรกิจการเงิน และธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดที่กล่าวมาคาดว่าจะส่งผลให้ในปี 2563 นี้ อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท (ROE) ของ TCAP ยังจะอยู่ในระดับที่น่าพอใจและไม่น้อยกว่า 12%” นายสมเจตน์ กล่าว