บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC จัดแสดงพาวิลเลียน Everlasting Forest by GC ภายใต้แนวคิด Circular Living เพื่อส่งต่อความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า และการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดมูลค่าและประโยชน์สูงสุดระหว่างวันที่ 1 – 9 กุมภาพันธ์ 2563 ณ เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2563 ณ อาคารไปรษณีย์กลาง บางรัก
นายปฏิภาณ สุคนธมาน ผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า ในปีนี้นับเป็นปีที่ 3 แล้วที่ GC ได้เข้าร่วมจัดแสดงนิทรรศการในงาน Bangkok Design Week อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งต่อความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy โดยในปีนี้ GC ได้จัดแสดงพาวิลเลียน Everlasting Forest by GC ภายใต้แนวคิด Circular Living เพื่อสร้างความเข้าใจ รวมถึงการมีส่วนร่วมในกระบวนการ Recycle และ Upcycle ตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อให้เกิดการนำไปต่อยอดและสร้างเป็นธุรกิจใหม่ และ ทำให้เกิดเป็น ระบบนิเวศทางธุรกิจ (Business Ecosystem) ซึ่งจะผลักดันให้เกิดการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน ระหว่าง “คน” และ “พลาสติก”
ทั้งนี้ พาวิลเลียน Everlasting Forest by GC จะสร้างมุมมองใหม่ ที่แสดงให้ผู้บริโภค นักออกแบบ และ แบรนด์ ต่างๆ เกิดความเข้าใจและตระหนักรู้ว่า หากเลือกใช้งานพลาสติกอย่างถูกต้อง รวมถึงบริหารจัดการขยะอย่างถูกวิธีแล้ว พลาสติกก็ถือเป็นวัสดุที่สามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์และสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน โดยนำเสนอผ่านการใช้วัสดุทางเลือกต่างๆ เช่น พลาสติกชีวภาพ (Bioplastic) และพลาสติกชนิดอื่นๆ ที่มีความแข็งแรงทนทานเป็นทางเลือกที่ดีขึ้น ทั้งในด้านคุณสมบัติ สิ่งแวดล้อม และราคา รวมไปถึงการจัดการขยะอย่างถูกวิธี
ภายในพาวิลเลียนแบ่งออกเป็น 3 โซน ภายใต้ Concept “BCG” หรือ Bio- Circular – Green
โซน 1 : Green Economy นำเสนอ Fiber Rebar หรือ Grass Fiber Reinforced Polymer (GFRP) ใช้เป็นวัสดุก่อสร้างทดแทนเหล็ก มีน้ำหนักเบา แต่มีความแข็งแรงทนทานมากกว่าเหล็กถึง 3 เท่า อีกทั้งยังไม่เป็นสนิมและไม่เกิดการกัดกร่อนทำให้มีอายุการใช้งานที่ยืนยาว และด้วยน้ำหนักที่เบากว่าทำให้สามารถลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ หรือ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมา โดยลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลง 43% ในขบวนการผลิต เมื่อเทียบกับเหล็ก และใช้พลังงานในการผลิตน้อยกว่าเหล็ก 50%
โซน 2 : Circular Economy จากผลิตภัณฑ์สู่ผลิตภัณฑ์ด้วยการอัพไซเคิลเพื่อเปลี่ยนขยะพลาสติกหรือพลาสติกเหลือใช้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าสูงขึ้น
โซน 3 : Bio Economy นำเสนอการใช้พลาสติกชีวภาพ หรือไบโอพลาสติกที่สามารถสลายตัวได้ทางชีวภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นอกจากพาวิลเลี่ยนแล้ว ในปีนี้ GC ยังได้นำเสนอ สถานี Smart Recycling Center ซึ่งเป็นความร่วมมือกับบริษัท Farm D จัดพื้นที่ให้ความรู้ในการคัดแยกและจัดการขยะที่เกิดขึ้นในงาน ต่อยอดความคิดการนำขยะไปสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านกระบวนการอัพไซคลิง (Upcycling) ภายใน Customer Solution Center Shop by GC (CSC Shop by GC) ที่นำผลิตภัณฑ์ Upcycling มาจัดแสดงเพื่อสร้างการตระหนักรู้และให้เห็นว่าขยะจะไม่ใช่ขยะอีกต่อไป โดยผู้เยี่ยมชมนิทรรศการยังสามารถเลือกซื้อและเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ Upcycling และผลิตภัณฑ์ทางเลือกในงานได้อีกด้วย โดยพาวิลเลียน Everlasting Forest by GC จัดแสดงในระหว่างวันที่ 1 – 9 กุมภาพันธ์ 2563 ณ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC กรุงเทพฯ) อาคารไปรษณีย์กลาง บางรัก โดยเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
“GC หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้เข้าชมนิทรรศการจะเกิดความตระหนักรู้และความเข้าใจถึงการเลือกใช้งานพลาสติกแต่ละประเภท ซึ่งมีคุณสมบัติที่หลากหลายและมีคุณประโยชน์ รวมไปถึงการใช้วัสดุทางเลือก เช่น พลาสติกชีวภาพ (Bioplastic) อย่างเหมาะสม ตลอดจนวิธีการการจัดการขยะที่ถูกต้อง เพื่อร่วมกันช่วยลดปริมาณขยะบนโลก ซึ่งเกิดขึ้นได้จริง หากทุกภาคส่วนร่วมมือกัน” นายปฏิภาณ สุคนธมาน กล่าว
Tag : #GCCircularLiving #เคมีที่เข้าถึงทุกความสุข #EverLastingForestbyGC #BangkokDesignWeek2020