นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 12 ปี ที่ผ่านมา บริษัทได้มุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการเพื่อเป็นผู้นำในการเดินรถไฟฟ้าด้วยมาตรฐานในระดับสากล ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ นับตั้งแต่การให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ มาจนถึงการให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ซึ่งมีการพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ จนสามารถผ่านการรับรองคุณภาพ ISO 9001 : 2015 ขอบเขต : วิศวกรรมและซ่อมบำรุงและขอบเขต : งานปฏิบัติการเดินรถไฟฟ้า ที่ผ่านการรับรองจาก BV (Bureau Veritas)
ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้บริการด้านการตรวจประเมินและออกใบรับรองในด้านคุณภาพ อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในระดับโลก โดยบริษัทได้นำมาตรฐานดังกล่าวเข้ามาใช้พัฒนาในด้านการเดินรถไฟฟ้า และซ่อมบำรุง ได้อย่างมีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งบริษัทยังได้ผ่านการรับรอง ISO/IEC 27001 : 2013 ระบบการจัดการความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ (Information Security Management Systems : ISMS) ขอบเขตระบบบริหาร จัดการ : ระบบการจัดการความปลอดภัยของข้อมูลที่ใช้ในการสนับสนุนการดําเนินงานของ Back office ซึ่งรวมถึง (MIS Server เครือข่ายและระบบสํารองข้อมูล) ซึ่งได้รับการรับรองจาก สถาบันมาตรฐานอังกฤษ (BSI.)
รวมถึง บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ยังได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 50 หน่วยงาน ที่ได้รับรางวัลหน่วยงานรัฐที่สามารถปรับปรุงเว็บไซต์ผ่านเกณฑ์การประกวดเว็บไซต์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ (Web Content Accessibility Guidelines) ภายใต้โครงการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเว็บไซต์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ ประจำปี 2566 ซึ่งบริษัทฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการให้บริการในด้านต่างๆ รวมถึงการให้ข้อมูลที่เกี่ยวกับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงผ่านช่องทางเว็บไซต์ ให้สามารถใช้งานได้ง่าย สะดวก เข้าถึงได้จากคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ หรือผู้พิการ มาตรฐานดังกล่าวจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยส่งเสริมให้เว็บไซต์สามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม
อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้รับมอบรางวัลองค์กรคุณธรรมต้นแบบ ประจำปีงบประมาณ 2565 จากคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งที่ผ่านมาบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ให้ความสำคัญและยึดหลักการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่ดีตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมาโดยตลอด โดยการดำเนินงานที่มีคุณธรรมและธรรมาภิบาล มีการส่งเสริมให้บุคลากรนำคุณธรรมและจริยธรรมมาใช้ในการดำเนินงานจนเกิดความร่วมมือกันภายในองค์กร อันส่งผลให้เกิดความสำเร็จ และประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
นอกจากนั้นบริษัทยังคงให้ความสำคัญในเรื่องของความตรงต่อเวลา ความน่าเชื่อถือ และความพร้อมของขบวนรถไฟฟ้าในการให้บริการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยในปัจจุบันรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง มีสถิติความตรงต่อเวลา ความน่าเชื่อถือ และความพร้อมของขบวนรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงตั้งแต่เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์อยู่ที่ 99.45% , 99.52% และ 100% ตามลำดับ ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดให้บริการ ซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารรวมมากกว่า 8 ล้านคน ซึ่งจะเห็นได้จากผลการสำรวจความพึงพอใจจากผู้ใช้บริการ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2566 ซึ่งลงพื้นที่สำรวจโดยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า)
ซึ่งเป็นสถาบันที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการสำรวจและวิจัย โดยผลปรากฏว่าจากคะแนนเต็ม 5 ผู้โดยสารมีความพึงพอใจด้านการให้บริการ 4.50, ด้านความปลอดภัย 4.47, ด้านความน่าเชื่อถือต่อความตรงต่อเวลา ความถี่ และคุณภาพในการเดินรถไฟฟ้า 4.28, ด้านการประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูล 4.44, ด้านคุณภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกบนสถานี และในขบวนรถ 4.47, ด้านเหรียญโดยสาร/บัตรโดยสาร และกิจกรรมส่งเสริมการตลาด 4.28 ซึ่งจากผลสำรวจดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าผู้โดยสารมีความเชื่อมั่นต่อการให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงในด้านต่างๆเป็นอย่างมาก
และในวันที่ 15 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป บริษัทฯจะปรับเวลาเปิดให้บริการเร็วขึ้น จากเดิมเปิดให้บริการในเวลา 05.30 น. เปลี่ยนเป็นเปิดให้บริการในเวลา 05.00 น. เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้น และสามารถรองรับผู้ที่เดินทางโดยสายการบินต่างๆที่จะเดินทางมาถึงสนามบินดอนเมืองในช่วงเช้ามืด รวมถึงจะปรับเพิ่มความถี่ในการให้บริการเดินรถให้เร็วขึ้น ทั้งสายเหนือ (ธานีรัถยา) ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – รังสิต ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน (Peak) เวลา 07.00 – 09.30 น และเวลา 17.00 – 19.30 น. จะปรับเพิ่มความถี่จากเดิม 12 นาทีต่อขบวน เป็น 10 นาทีต่อขบวน ในช่วงนอกชั่วโมงเร่งด่วน (Off Peak) จะปรับเพิ่มความถี่จากเดิม 20 นาทีต่อขบวน เป็น 15 นาทีต่อขบวน และสายตะวันตก (นครวิถี) ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – ตลิ่งชัน ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน (Peak) ให้บริการความถี่เท่าเดิมที่ 20 นาทีต่อขบวน แต่จะปรับเพิ่มความถี่ในช่วง นอกชั่วโมงเร่งด่วน (Off Peak) จากเดิม 30 นาทีต่อขบวน เป็น 20 นาทีต่อขบวน เพื่อลดเวลาในการรอคอยขบวนรถไฟฟ้า รวมถึงช่วยดึงดูดผู้โดยสารให้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารมาใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดงเฉลี่ยวันละ 2.3 – 2.4 หมื่นคน หากเป็นวันศุกร์ผู้โดยสารจะอยู่ที่ประมาณ 2.5 หมื่นคน ส่วนในปี 67 มีการคาดการณ์ว่าผู้ใช้บริการจะเพิ่มสูงขึ้น 10%
บริษัทฯไม่เพียงแต่มุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการเดินรถไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR ควบคู่ไปด้วย โดยได้ดำเนินการโครงการต่างๆที่สร้างประโยชน์ให้กับชุมชนตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมการมีส่วนร่วมระหว่างพนักงานกับคนในชุมชน รวมถึงรณรงค์ให้พนักงานทุกคนให้มีความตระหนักและเห็นความสำคัญของการทำกิจกรรม CSR ด้วย ซึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้จัดโครงการ “พี่หนูแดงมอบความสุขให้น้องผ่านห้องแห่งการเรียนรู้” ณ โรงเรียนวัดสนามนอก ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสถานีบางบำหรุ โดยจัดให้มีการปรับปรุงพื้นที่ในสถานศึกษา ได้แก่ ห้องพละ และห้องนาฏศิลป์ เพื่อให้โรงเรียนวัดสนามนอก มีห้องนันทนาการเพื่อจัดกิจกรรมต่างๆ และยังสามารถใช้เป็นห้องเพื่อการเรียนรู้ที่มีความเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด สามารถสร้างพัฒนาการที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและสติปัญญาให้กับเด็ก รวมถึงมีการปรับภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบ ให้มีความสวยงาม สะอาดปลอดภัยด้วย
สำหรับแผนการพัฒนารถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงในอนาคต จะมีการต่อยอดการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆภายในระบบรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง อาทิ การบูรณาการความร่วมมือกับท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง เพื่อพัฒนาจุดเชื่อมต่อให้มีความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้น และเตรียมความพร้อมสำหรับทางเดินเชื่อมต่อกับสถานีหลักสี่ ของรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี รวมถึงทางเดินลอยฟ้า(Sky Walk) ที่เชื่อมต่อกับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเก็บรายละเอียดและรอตรวจสอบ คาดว่าจะเปิดให้บริการช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้
ในด้านกิจกรรมส่งเสริมการตลาด บริษัทฯมีการจัดแคมเปญต่างๆเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับประชาชนและผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดแต่ละครั้ง มีผู้ให้ความสนใจและร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก และเร็วๆนี้ บริษัทฯเตรียมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ 2567 ด้วยการเปิดตัวบัตรโดยสารลายใหม่สุดพิเศษ สำหรับนักเรียน/นักศึกษา จำนวน 2 ลาย เนื่องจากผลการสำรวจผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงในปัจจุบัน ชี้ว่า กลุ่มช่วงวัยนักเรียนและนักศึกษา คือกลุ่มที่ใช้บริการรถไฟฟ้ามากเป็นลำดับต้นๆ จากกลุ่มผู้ใช้บริการทั้งหมด
ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าด้วยมาตรฐานในระดับสากลที่บริษัทนำมาใช้ขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติ จะส่งผลให้สามารถยกระดับการให้บริการแก่ผู้โดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงบริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้มีคุณภาพ เพื่อตอบแทนความเชื่อมั่นที่ผู้โดยสารได้ให้ความไว้วางใจรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงด้วยดีเสมอมา และจะมุ่งมั่นพัฒนาระบบขนส่งทางรางเพื่ออยู่เคียงข้างคนไทยต่อไปในอนาคตอย่างมั่นคง
ส่วนบริการลูกค้า 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ www.srtet.co.th
และสามารถติดตามข่าวสารของบริษัทฯ ได้ทั้งช่องทาง Facebook , Twitter , Instagram Youtube , Tiktok ในชื่อ “RED Line SRTET”
รถไฟฟ้าสายสีแดง ยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง