กระทรวงพลังงาน สมาคมยานยนต์ไฟฟ้า และ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ นำทัพภาครัฐ – เอกชน จัดงาน ASEAN Sustainable Energy Week และ Electric Vehicle Asia 2023 ผลักดันการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

0
619

อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ สานต่อความร่วมมือ กระทรวงพลังงาน สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ร่วมนำทัพภาครัฐ – เอกชน เดินหน้าจัดงาน ASEAN Sustainable Energy Week และ Electric Vehicle Asia 2023 งานมหกรรมเทคโนโลยีและการประชุมนานาชาติด้านพลังงานทดแทน สิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่ครบครันที่สุดของภูมิภาค พร้อมผลักดันภาคอุตสาหกรรมด้วยการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างยั่งยืน

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เป็นปัญหาหลักที่ส่งผลกระทบต่อทุกภูมิภาคทั่วโลก การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก ภาวะโลกร้อน ภัยแล้ง อุทกภัย ล้วนเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญ การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน ประเทศไทยวางเป้าหมายเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ จากความสำคัญดังกล่าวผนวกกับการขานรับนโยบายพลังงานสะอาดของไทย อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ในฐานะผู้นำธุรกิจด้านการจัดงานแสดงสินค้า และกิจกรรมทางธุรกิจระดับภูมิภาค ได้ร่วมมือกับทุกภาคส่วน นำโดย กระทรวงพลังงาน สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย และเครือข่ายพันธมิตรด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมชั้นนำจากทั่วโลก จัดงาน ASEAN Sustainable Energy Week (ASEW) และ ELECTRIC VEHICLE ASIA 2023 (EVA) เพื่อผนึกพลังร่วมผลักดันสร้างการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดให้กับภาคธุรกิจ และขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

นายวรนล จันทร์ศิริ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านยุทธศาสตร์พลังงาน สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การพัฒนาพลังงานสะอาดถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการผลักดันการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานให้กับทุก ๆ ภาคส่วน โดยกระทรวงพลังงานมีพันธกิจที่สำคัญในการส่งเสริมการลดการปล่อยคาร์บอนจากภาคพลังงาน เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทยในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2065

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการจัดทำแผนพลังงานชาติ (National Energy Plan: NEP) ที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและพลังงานที่มีความยั่งยืน อาทิ การเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานสะอาดสำหรับการผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าใหม่ไม่น้อยกว่า 50% ภายในปี 2050 และส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้มีสัดส่วนร้อยละ 30 ภายในปี ค.ศ.2030 เป็นต้น

ผศ.ดร. อุเทน สุปัตติ อุปนายกฝ่ายวิชาการและผู้แทนนายกสมาคม สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย กล่าวว่า ปัจจุบันยานยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความสนใจในวงกว้างไม่เพียงแค่ภาคครัวเรือน แต่ยังรวมถึงภาคอุตสาหกรรม เห็นได้ชัดจากการเปิดตัวสถานีชาร์จที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 4,600 แห่ง จากข้อมูลเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ภาครัฐได้ออกมาตรการสนับสนุน อาทิ ลดภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 2% สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงเงินอุดหนุน 18,000 บาทต่อคันสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่เข้าร่วมมาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ เป็นต้น ซึ่งบทบาทสำคัญของสมาคมฯ เรามีความตั้งใจที่จะพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ ด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า เป็นแกนกลางในการส่งเสริมและสนับสนุน ผู้ใช้งาน รวมทั้งผู้ประกอบการ ตลอดจนผู้ผลิตในอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาเราทำงานกับหลากหลายภาคส่วน เพื่อเชื่อมต่อองค์ความรู้ และสำหรับในปีนี้ทางสมาคมฯ ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงาน EVA 2023 จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 และสัมมนาวิชาการ iEVTech 2023 เพื่ออัปเดตเทรนด์ โอกาส ความได้เปรียบของไทย ตลอดจนเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้เข้าร่วมและสร้างการรับรู้ถึงยานยนต์พลังงานสะอาดนี้ เราเชื่อมั่นว่าเวทีนี้จะเชื่อมโอกาสและยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาคอย่างแน่นอน

นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า การจัดงาน ASEAN Sustainable Energy Week 2023 (ASEW) งานแสดงนิทรรศการเทคโนโลยีและการประชุมนานาชาติด้านพลังงานทดแทน สิ่งแวดล้อมและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นเวทีระดับภูมิภาคที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากทุกภาคส่วน ในทุกๆปีเราทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อกำหนดแนวคิดให้สอดรับกับเป้าหมายนโยบายด้านพลังงานของประเทศ โดยการจัดงานปีนี้ เราจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 33 โดยชูแนวคิด “Powering the Clean Energy Transition Toward Carbon Neutrality Goal” หรือ ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยได้ขนทัพเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อขานรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมโลก อาทิ พื้นที่จัดแสดงเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมพลังงาน สิ่งแวดล้อม แบบครบวงจร จัดเต็มพื้นที่กว่า 20,000 ตร.ม. รวบรวมจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกกว่า 1,500 แบรนด์ อาทิ ABB, Delta, Anest Iwata, Oriental Copper, Siemens, Clenergy, Solar PPM, AMR Asia, Charge24, Trumpf และ Hexagon

พร้อมกันนี้ยังได้พบกับพาวิเลียนนานาชาติกว่า 8 ประเทศ ทั้ง เยอรมนี ญี่ปุ่น เกาหลี จีน สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และไต้หวัน เป็นโอกาสสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายทางธุรกิจจากทั่วโลก แลกเปลี่ยนความรู้เชิงลึกผ่านการประชุมและสัมมนาระดับนานาชาติกว่า 200 หัวข้อ ครอบคลุมหัวข้อด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมในอนาคต นอกจากนี้ยังจัดร่วมกับงาน Electric Vehicle Asia 2023 (EVA) อีกหนึ่งเวทีสำคัญด้านยานยนต์ไฟฟ้า จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 รวบรวมผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และผู้ที่เกี่ยวข้องใน EV Eco System และ Value Chain ทั้งหมด ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมกันนี้ยังมีการประชุมนานาชาติด้านยานยนต์ไฟฟ้า iEVTech 2023 รวบรวมกูรูจากทั่วโลก อัพเดทเทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน แบตเตอรี่ และการเงิน รวมไปถึงยานยนต์ไร้คนขับ โดยการจัดงานในปีนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 25,000 คน จากทั่วภูมิภาคครอบคลุมทุกอุตสาหกรรมหลัก ซึ่งทุกภาคส่วนเชื่อมั่นตรงกันว่า เวทีนี้จะพลิกโฉมภาคอุตสาหกรรมด้วยพลังงานสะอาดที่ยั่งยืนในอนาคตให้กับประเทศไทย” นายสรรชาย กล่าวเสริม
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งสู่การสร้างการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปกับงาน ASEAN Sustainable Energy Week 2023 และ งาน Electric Vehicle Asia 2023 งานแสดงนิทรรศการเทคโนโลยีและการประชุมนานาชาติด้านพลังงานทดแทน สิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่ครบครันที่สุดในภูมิภาค ระหว่างวันที่ 30 ส.ค. – 1 ก.ย. 2566 ที่ ฮอลล์ 1-4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ www.asew-expo.com