กรุงศรีเผยผลกำไรสุทธิไตรมาสแรก 2566 จำนวน 8.68 พันล้านบาท ตอกย้ำความแข็งแกร่งทางการเงิน พร้อมเร่งขับเคลื่อนการฟื้นตัวภาคธุรกิจ

0
569

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2566 มีกำไรสุทธิจำนวน 8,676 ล้านบาท เติบโต 17.0% จากไตรมาสแรกของปี 2565 โดยได้รับแรงสนับสนุนหลักจากการเพิ่มขึ้นของทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ตลอดจนการลดลงของภาระตั้งสำรอง โดยกรุงศรีมุ่งมั่นเสริมสร้างความแข็งแกร่งเพื่อขับเคลื่อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและภาคธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

กรุงศรียังคงรักษาเสถียรภาพด้านการเงินที่แข็งแกร่งพร้อมสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) เติบโตอย่างครอบคลุมและทั่วถึงที่ 5.4% และเงินรับฝากเพิ่มสูงขึ้นถึง 3.0% นอกจากนี้ อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ยังคงอยู่ในระดับต่ำเพียง 2.26% ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2566 จากการดำเนินนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รอบคอบรัดกุม

สรุปผลประกอบการและฐานะการเงินที่สำคัญสำหรับไตรมาสแรกของปี 2566:
• กำไรสุทธิ จำนวน 8,676 ล้านบาท ในไตรมาสแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้นจำนวน 1,258 ล้านบาท หรือ 17.0% จากไตรมาสแรกของปี 2565 โดยได้รับแรงสนับสนุนหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย รวมถึงภาระการตั้งสำรองที่ลดลง
• เงินให้สินเชื่อรวม เพิ่มขึ้น 0.3% หรือจำนวน 5,145 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2565 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและสินเชื่อเพื่อรายย่อย สุทธิกับการลดลงของสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่
• เงินรับฝาก เพิ่มขึ้น 3.0% หรือจำนวน 53,964 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2565
• ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 3.35% เทียบกับ 3.28% ในไตรมาสแรกของปี 2565
• รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 6.1% หรือ 506 ล้านบาท จากไตรมาสแรกของปี 2565
• อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ ปรับสู่ 44.4% เพิ่มขึ้นจาก 42.7% ในไตรมาสแรกของปี 2565 สะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เร่งตัวขึ้นและจากฐานที่ต่ำในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของสายพันธุ์
โอมิครอน
• อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) ปรับตัวดีขึ้นที่ 2.26% จาก 2.32% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 จากแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจและการบริหารความเสี่ยงที่รอบคอบระมัดระวัง ส่งผลให้สัดส่วนการตั้งสำรองต่อสินเชื่อรวมปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับที่ 116 เบสิสพอยท์ ในไตรมาสแรกของปี 2566
• อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 167.1%
• อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (ของธนาคาร) อยู่ที่ 17.95% เทียบกับ 17.97% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565

นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มมากขึ้น โดยส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินในประเทศกลุ่มเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว เศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในไตรมาสแรกของปี 2566 โดยได้รับแรงสนับสนุนหลักจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน โดยกรุงศรีคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตในระดับ 3.3% ในปี 2566”

“กรุงศรียังคงรักษาเสถียรภาพด้านการเงินที่แข็งแกร่งมั่นคง ด้วยระดับเงินกองทุน ระดับการตั้งสำรอง และสภาพคล่องทางการเงินที่สูง และพร้อมเดินหน้าสนับสนุนแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจและภาคธุรกิจ ทั้งในกลุ่มลูกค้าธุรกิจและลูกค้ารายย่อย โดยธนาคารกำหนดเป้าหมายการเติบโตของเงินให้สินเชื่อในปี 2566 ไว้ที่ 3-5%”

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 กรุงศรี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าในระบบเศรษฐกิจไทยจากมูลค่าสินทรัพย์ สินเชื่อและเงินรับฝาก และเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) มีสินเชื่อรวม 1.95 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.86 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 2.68 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 300.17 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 17.95% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 13.21%

เกี่ยวกับกรุงศรี

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และเป็นหนึ่งในหกสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) โดยดำเนินธุรกิจมานานถึง 78 ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อรายย่อย การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า 605 สาขา (เป็นสาขาที่ให้บริการทางการเงินในรูปแบบปกติ 565 สาขาและสาขาที่ให้บริการเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 40 สาขา) และช่องทางการขายกว่า 33,579 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า 10 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย (บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน)) อีกด้วย

กรุงศรีมีพันธสัญญาในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด ธนาคารและบริษัทในเครือได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของ “แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต” โดยมุ่งร่วมมือกับองค์กรชั้นนำในไทยและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคาร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น

เกี่ยวกับมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG)
มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานในการดำเนินธุรกิจกว่า 360 ปี MUFG มีเครือข่ายสำนักงานราว 2,400 แห่ง ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลกและมีพนักงานกว่า 170,000 คน MUFG นำเสนอบริการทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมทั้งธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ทรัสต์แบงก์กิ้ง ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ MUFG มีเป้าหมายที่จะเป็น “กลุ่มสถาบันทางการเงินที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในโลก” ด้วยการผสานศักยภาพในการดำเนินธุรกิจเพื่อตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้าโดยคำนึงถึงสังคมและการแบ่งปันสู่ความเติบโตอย่างยั่งยืน MUFG จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตลาดหลักทรัพย์นาโกยา และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MUFG กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.mufg.jp/english

Krungsri reports first-quarter 2023 earnings of 8.68 billion baht, underscoring solid financial strength and support in building business growth momentum

Bangkok (20 April 2023) – Krungsri (Bank of Ayudhya PCL and its business units) posts 8,676 million baht in robust net profit for the first quarter of 2023, growing 17.0% over-year, mainly driven by positive growth in net interest income and non-interest income, as well as lower provisions, while sustaining priority in supporting economic and business growth momentum.

Krungsri’s overall financial stability remains highly resilient to support economic expansion with broad-based SME loan growth across sectors of 5.4% and strong deposit growth at 3.0%. The non-performing loan (NPL) ratio remained as low as 2.26% at the end of 1Q/23, owing to the Bank’s vigilant credit risk management practices.

Highlights of Krungsri’s consolidated first-quarter 2023 performance:
• Net profit: Recorded at 8,676 million baht for 1Q/23, representing an increase of 1,258 million baht, or 17.0% over-year, mainly driven by positive growth in net interest income and
non-interest income, as well as lower provisions.
• Loans: Increased by 0.3%, or 5,145 million baht from the end of December 2022, largely driven by increased loans to the SME and retail segments, offset by a contraction in loans to the corporate segment.
• Deposits: Increased by 3.0%, or 53,964 million baht from the end of December 2022
• Net interest margin (NIM): Recorded at 3.35%, compared with 3.28% in 1Q/22.
• Non-interest income: Increased 6.1%, or 506 million baht from 1Q/22.
• Cost to income ratio: Normalized to 44.4%, corresponding to the acceleration in economic activity and the low base effect due to the Omicron outbreak of 42.7% in 1Q/22.
• Non-performing loan (NPL) ratio: Improved to 2.26% from 2.32% at the end of December 2022. On account of the economic growth momentum and risk management rigor, credit cost in 1Q/23 improved to 116 basis points.
• Coverage ratio: Remained healthy at 167.1%.
• Capital adequacy ratio (Bank only): Recorded at 17.95%, compared with 17.97% at the end of December 2022.
Krungsri President and Chief Executive Officer Mr. Seiichiro Akita, said “Amidst the heightened global economic uncertainty, driven in part by the recent episodes of banking stress in advanced economies, the Thai economy continued to expand in the first quarter of 2023, benefiting from vigorous tourism and private consumption rebounds, and is forecast to reach 3.3% for the entire year.”

“Thanks to our overall financial stability which is highly resilient with strong levels of capital, coverage ratio and liquidity, Krungsri will continue to proactively play our role in sustaining economic and business growth momentum in both the commercial and retail customer segments, with the Bank’s loan growth target at 3-5% for 2023.”

As of 31 March 2023, Krungsri, Thailand’s fifth largest bank in terms of assets, loans and deposits, and one of Thailand’s Domestic Systemically Important Banks (D-SIBs), reported 1.95 trillion baht in loans, 1.86 trillion baht in deposits, and 2.68 trillion baht in total assets. Krungsri’s capital (Bank only) was strong at 300.17 billion baht, equivalent to 17.95% of risk-weighted assets, with 13.21% in common equity tier 1 capital.

About Krungsri
Krungsri (Bank of Ayudhya PCL and its group companies) is the fifth largest financial group in Thailand in terms of assets, loans, and deposits, and one of Thailand’s six Domestic Systemically Important Banks (D-SIBs) with 78 years of history in the country. Krungsri is a strategic member of the Mitsubishi UFJ Financial Group (MUFG), Japan’s largest financial group and one of the world’s largest financial organizations. Krungsri provides a comprehensive range of banking, consumer finance, investment, asset management, and other financial products and services to individual consumers, SMEs, and large corporations through 605 domestic branches (565 Banking Branches and 40 Auto Business Branches) and over 33,579 service outlets nationwide. The Krungsri Group is the largest card issuer in Thailand with 10 million credit cards, sales finance, and personal loan accounts in its portfolio; a major automobile financing service provider (Krungsri Auto); one of the fastest growing asset management companies (Krungsri Asset Management); and a pioneer in microfinance (Ngern Tid Lor).

Krungsri is strongly committed to the highest level of integrity in conducting its business. All Krungsri Group companies have been awarded accreditation from the Private Sector Collective Action Coalition Against Corruption (CAC) in collaboration with industry peers and stakeholders on a zero tolerance approach to corruption.

About MUFG
Mitsubishi UFJ Financial Group, Inc. (MUFG) is one of the world’s leading financial groups. Headquartered in Tokyo and with over 360 years of history, MUFG has a global network with approximately 2,400 locations in more than 50 countries. The Group has about 170,000 employees and offers services including commercial banking, trust banking, securities, credit cards, consumer finance, asset management, and leasing. The Group aims to “be the world’s most trusted financial group” through close collaboration among our operating companies and flexibly respond to all of the financial needs of our customers, serving society, and fostering shared and sustainable growth for a better world. MUFG’s shares trade on the Tokyo, Nagoya, and New York stock exchanges. For more information, visit https://www.mufg.jp/english.