การเคหะแห่งชาติ เปิดทำสัญญาเช่า “บ้านเคหะสุขประชา” สำหรับผู้ได้สิทธิ์ ในพื้นที่ “ร่มเกล้า-ฉลองกรุง” เริ่ม 16 ธ.ค. นี้

0
628

จากวิสัยทัศน์ “สร้างบ้าน สร้างสุข เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี” การเคหะแห่งชาติ เดินหน้าสานต่อภารกิจสำคัญ ในการจัดหาที่อยู่อาศัยให้คนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและครัวเรือนเปราะบาง เพื่อส่งต่อความสุขอย่างยั่งยืนให้กับคนที่ต้องการมีบ้าน หนึ่งในโครงการสำคัญที่มีการขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 คือ โครงการบ้านเคหะสุขประชา การจัดสร้างที่อยู่อาศัยประเภทเช่าให้กับผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง ด้วยค่าเช่าถูกประมาณ 1,500 – 3,000 บาทต่อเดือน พร้อมส่งเสริม “เศรษฐกิจสุขประชา” โดยนำร่องใน 2 พื้นที่ คือ ฉลองกรุง และร่มเกล้า รวม 572 หน่วย

ความคืบหน้าล่าสุด การเคหะแห่งชาติได้เปิดให้ผู้มีสิทธิ์เช่าได้เข้ามาทำสัญญาเช่าที่โครงการ โดยกำหนดวันทำสัญญา โครงการบ้านเคหะสุขประชา พื้นที่ร่มเกล้า ตั้งแต่วันที่ 16 – 19 ธันวาคม 2565 เวลา 9.00 – 17.00 น. และโครงการบ้านเคหะสุขประชา พื้นที่ฉลองกรุง ตั้งแต่วันที่ 22 -25 ธันวาคม 2565 เวลา 9.00 – 17.00 น. ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติ เชิญผู้ได้สิทธิ์ (ตัวจริง) เข้ามาทำสัญญาในวันและเวลาที่กำหนดไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ www.nha.co.th

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้ได้สิทธิ์เช่าในโครงการนี้มุ่งเป้าไปที่ครัวเรือนเปราะบาง ได้แก่ แม่เลี้ยงเดี่ยว พ่อเลี้ยงเดี่ยว คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ตลอดจนข้าราชการเกษียณ ข้าราชการชั้นผู้น้อย พนักงานรัฐวิสาหกิจ ลูกจ้างของรัฐ และประชาชนที่มีรายได้น้อย โดยให้สิทธิ์อยู่อาศัยโครงการบ้านสุขประชาครอบครัวละ 1 หน่วย โดยไม่สามารถโอนสิทธิ์การจองและสิทธิ์การเช่าให้กับผู้อื่น รวมถึงไม่อนุญาตให้เช่าช่วง
“สิ่งสำคัญคือผู้มีสิทธิ์เช่าโครงการบ้านเคหะสุขประชา ต้องเข้าร่วมฝึกอบรมอาชีพเศรษฐกิจสุขประชา กรณีไม่สามารถเข้าร่วมฝึกอบรมได้ และไม่มีบุคคลในครอบครัวที่ว่างงานที่สามารถเข้าร่วมฝึกอบรมได้ จะถือว่าสละสิทธิ์ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของโครงการที่ต้องการสร้างบ้านพร้อมอาชีพ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยอย่างยั่งยืนในระยะยาว” นายทวีพงษ์ กล่าว

สำหรับรูปแบบอาคารและพื้นที่ใช้สอยของโครงการบ้านเคหะสุขประชา แบ่งเป็น 4 แบบ โดยมีค่าเช่าและค่าบริหารชุมชนแตกต่างกันไป ประกอบด้วย บ้านสำหรับผู้สูงอายุ/ผู้พิการ ขนาดพื้นที่ 30 ตร.ม. อัตราค่าเช่า 1,500 บาทต่อเดือน ค่าบริหารชุมชน 450 บาทต่อเดือน รวมค่าเช่า 1,950 บาทต่อเดือน, บ้านสำหรับกลุ่มคนโสด 1 คน ขนาดพื้นที่ 30 ตร.ม. อัตราค่าเช่า 2,000 บาทต่อเดือน ค่าบริหารชุมชน 450 บาทต่อเดือน รวมค่าเช่า 2,450 บาทต่อเดือน, บ้านสำหรับกลุ่มคนทำงาน 2 คน ขนาดพื้นที่ 40 ตร.ม. อัตราค่าเช่า 2,500 บาทต่อเดือน ค่าบริหารชุมชน 600 คนต่อเดือน รวมค่าเช่า 3,100 บาทต่อเดือน และบ้านสำหรับกลุ่มครอบครัว ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ขนาดพื้นที่ 50 ตร.ม. อัตราค่าเช่า 3,000 บาทต่อเดือน ค่าบริหารชุมชน 750 บาทต่อเดือน รวมค่าเช่า 3,750 บาทต่อเดือน
ทั้งนี้ ในวันทำสัญญาเช่า ให้ผู้มีสิทธิ์เช่าเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ 1. เอกสารหรือหลักฐานที่ใช้ในการทำสัญญาประกอบด้วย บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง) ใบเดียว ไม่ต้องใช้สำเนาเอกสารใดๆ สะดวกรวดเร็ว เพื่อใช้ยืนยันตัวบุคคล และใช้เป็นข้อมูลในการทำสัญญา ตามข้อมูลทะเบียนราษฎร์ 2. หลักฐานแสดงรายได้ (ต้องไม่เกิน 30,000 บาทอต่อครัวเรือน) 3. หนังสือมอบอำนาจ สำเนาบัตรประชาชนพร้อมรับรองสำเนาของผู้มีอำนาจ และบัตรประชาชน (ตัวจริง) ของผู้รับมอบอำนาจ เนื่องจากผู้ได้สิทธิ์ไม่ได้มาแสดงตัวตนในวันจัดทำสัญญา และ 4. สำเนาเปลี่ยนชื่อ-สกุล (กรณีชื่อที่ใช้ลงทะเบียนในระบบไม่ตรงกับชื่อที่ใช้ปัจจุบัน)
“โครงการบ้านเคหะสุขประชา เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการช่วยลดภาระกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และครัวเรือนเปราะบาง ยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนมีรายได้ลดลง โอกาสที่จะมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง หรือซื้อบ้านยากขึ้น โครงการนี้จึงเข้ามาตอบโจทย์ดังกล่าว กับคอนเซ็ปต์บ้านเช่าราคาถูก เริ่มต้นเพียง 1,500 บาทต่อเดือน สำหรับผู้มีรายได้น้อยและครัวเรือนเปราะบาง ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของการเคหะแห่งชาติ ได้อย่างแท้จริง” นายทวีพงษ์ กล่าว