ก้าวใหม่ในวัย 35 ปี 28 โครงการ ภายใต้แบรนด์ต่างๆ วันนี้ THANA Turn Around พร้อมพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นความยั่งยืนในทุกกระบวนการ (Total Green Real Estate Development-Service Model) จัดทัพใหม่รองรับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและดูแลลูกค้าตลอดชีวิตเพื่อความสุขในการอยู่อาศัยที่แท้จริง
นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THANA กล่าวถึงการกลับมาเติบโต (Turn Around) ในเชิงตัวเลข โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ บริษัทย่อย และบริษัทร่วมทุน เติบโตแบบก้าวกระโดดทั้งด้านยอดขาย ยอดรับรู้รายได้ และกำไรสุทธิ และใน Q1/65 มียอดขายที่เติบโตเช่นกันที่ 243 ล้านบาท และมียอดรับรู้รายได้ 222 ล้านบาท โดยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เติบโต 75% และ 149% ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังเผยถึงแนวทางการดำเนินงานในปี 2565 ที่มุ่งเสริมคุณภาพชีวิตของลูกค้าที่ไม่ใช่เพียงการพัฒนาบ้านที่มีคุณค่า แต่ให้ความสำคัญในมิติของคุณภาพชีวิตที่ดีตลอดระยะเวลาการเป็นลูกค้า ภายใต้พันธกิจ THANASIRI “Lifetime Total Living Solution” รวมถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม สังคม และสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) ที่สร้างสมดุลของผลประกอบการในเชิงตัวเลข บนหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเติบโตไปพร้อมกับลูกค้า เพื่อนบ้านข้างเคียง และสังคม ร่วมลดผลกระทบและพัฒนาสิ่งแวดล้อมในทุกด้าน
แผนการพัฒนาโครงการในปี 2565 นี้ บริษัทยังคงเปิดตัวโครงการใหม่ในทุกไตรมาส โดยไม่เน้นในด้านปริมาณหรือจำนวนหน่วยเปิดตัวใหม่ แต่ให้ความสำคัญกับการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกค้า รวมถึงการพัฒนาบริการในด้านต่างๆ โดยมี “อนาบูกิ โคซัน” ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต หรือ Health & Well – Being มาร่วมแชร์ประสบการณ์และองค์ความรู้ นอกเหนือจากการร่วมลงทุน เพื่อพัฒนารูปแบบโครงการที่รองรับการใช้ชีวิตของคนทุกวัย ให้มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนตามไลฟ์สไตล์ หรืออายุลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ในทุกพื้นที่และทุก Function การใช้งาน
นอกจากนี้ ยังจัดตั้งทีมงานใหม่ด้านงานบริการเพื่อเข้าไปดูแลบริหารจัดการ ทั้งชุมชนเดิมที่ THANA ได้พัฒนาไว้และโครงการใหม่ที่เป็นโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง จำนวน 6 โครงการ รวมถึงโครงการในอนาคต ให้เป็นสังคมที่น่าอยู่ นำทีมโดยผู้บริหารระดับสูง คือ นายจรัญ เกษร ที่มีประสบการณ์ทั้งด้านการพัฒนาโครงการแนวราบและแนวสูง การบริหารงานขายและการตลาด การก่อสร้าง รวมถึงการบริหารจัดการในหลายชุมชน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ (COO) พร้อมทั้ง ทีมสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูงที่ผ่านประสบการณ์การบริหารจัดการในโครงการใหญ่ๆ มานับไม่ถ้วน
ด้านนายจรัญ เกษร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ ได้กล่าวถึง แผนการพัฒนาโครงการใหม่ในปีนี้ อย่างน้อย 3 โครงการ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮาส์ รวมมูลค่ากว่า 2,300 ล้านบาท และโครงการเดิมที่ดำเนินการอยู่อีก 6 โครงการ มูลค่ารวม กว่า1,200 ล้านบาท จะดำเนินการในแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในความสำคัญของทุกกระบวนการ ภายใต้ Model Total Green ดังกล่าว คือ
- แนวคิดการพัฒนารูปแบบ “Green” ที่เริ่มคิด ดำเนินการ และกำกับดูแล ผลักดัน ให้บรรลุผล
- การจัดหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ ที่โปร่งใสและลดผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของชุมชนดั้งเดิม
3) การออกแบบ ตามหลัก Green & Universal Design และการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
4) การทำการตลาดและงานขาย ที่เป็นธรรม ทั้งต่อลูกค้าและคู่แข่งขัน
5) การก่อสร้าง ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเพื่อนบ้านข้างเคียง และการใช้วัสดุให้ไม่เหลือเศษ ตามหลัก “Circular Economy”
6) การส่งมอบให้แก่ลูกค้าตามพันธะสัญญาที่ได้ให้ไว้ และ
7) การบริหารจัดการชุมชน ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญที่สุด ในแนวทาง “ธนาสิริ…เราดูแล” เพื่อสร้างสังคมน่าอยู่ คุณภาพชีวิตและการอยู่อาศัยร่วมกันอย่างมีความสุข อบอุ่น ปลอดภัย ไว้ใจได้ เชื่อมโยงแนวคิดความยั่งยืนในการอยู่อาศัย Green Clean Lean
ทั้งนี้ในปัจจุบัน จะเห็นการรวมกลุ่มในลูกค้าทุก Gen ที่มีความสนใจในสิ่งเดียวกัน เช่น ผู้อยู่อาศัยที่รักสุนัข ผู้ที่ชอบกีฬาประเภทเดียวกัน ผู้คนที่นิยมการออกกำลังกาย รวมถึงกลุ่มงานอาสาจิตสาธารณะต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นโดยธรรมชาติของการอยู่อาศัยร่วมกัน ทางบริษัทจะเข้าไปร่วมให้การสนับสนุนเพื่อให้เกิดสังคมที่แข็งแกร่ง มีคุณภาพชีวิตที่ดี เปี่ยมด้วยความสุข ด้วยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการปรับการบริหารให้ทันต่อสถานการณ์ในยุค New Normal จากการถอดบทเรียนการบริหารจัดการในภาวะวิกฤติต่างๆ เช่น การแพร่เชื้อของไวรัสโคโรนา เป็นต้น
“ตลอดปีนี้และตลอดไป THANA จะมุ่งสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้า เพื่อบรรลุเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัท “THANASIRI WELL – BEING” คือ การสร้างคุณภาพชีวิตครอบครัวที่ดี การใส่ใจสิ่งแวดล้อม และการสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันให้เกิดขึ้นในประชาคมธนาสิริและขยายวงกว้างไปยังสังคมรอบๆ บ้านเราต่อไป” นายจรัญ กล่าวสรุป
เกี่ยวกับบริษัท
บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายใต้ชื่อ THANA เมื่อปลายปี 2552 ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านจัดสรรพร้อมที่ดินเพื่อขาย ประเภททาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว ประกอบธุรกิจมามากกว่า 35 ปี รวม 28 โครงการ มากกว่า 2,800 ครอบครัว ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดนนทบุรี รวมถึงต่างจังหวัด อาทิ ภูเก็ต อุดรธานี และสกลนคร รวมมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้าน ภายใต้แบรนด์ต่างๆ อาทิ ธนาฮาบิแทต ธนาวิลเลจ ธนาคลัสเตอร์ ธนาซิโอ สิริวิลเลจ ธนาสิริ คลัสเตอร์วิลล์ และ ไพร์มเพลส เป็นต้น
ผลประกอบการ ปี 2564 :
ในปี 2564 ที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย มียอดขายทั้งสิ้น 843 ล้านบาท โตขึ้น 148% (YoY) ยอดรับรู้รายได้ 581 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 210 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 57% (YoY) กำไรขั้นต้น 29.5% โดยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 23.0 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงิน 44.5 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 207.0 ส่วนภายใน Q1/65 มียอดขายที่เติบโตแบบก้าวกระโดดที่ 150.3 ล้านบาทสามารถทำกำไรเติบโตขึ้นเกือบ 30% มียอดรับรู้รายได้ 581 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (QoQ)
แผนการพัฒนาโครงการใหม่ ในปี 2565
- โครงการร่วมทุน “อนาบูกิ ธนาฮาบิแทต ราชพฤกษ์” บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 167 ยูนิต บนพื้นที่ 30 ไร่เศษ มูลค่า 1,070 ล้าน ราคาขายเฉลี่ย 6.4 ล้าน เปิดขาย Q2/65
- “ธนาเรสซิเดนท์ บรมราชชนนี-ปิ่นเกล้า” บ้านเดี่ยวหรู 47 ยูนิต บนพื้นที่ 21 ไร่เศษ มูลค่า 800 ล้าน ราคาขายเฉลี่ย 17 ล้าน เปิดขาย Q3/65
- “ธนาวิลเลจ” บ้านแฝด 115 ยูนิต บนพื้นที่ 19 ไร่ มูลค่า 500 ล้าน ราคาขายเฉลี่ย 4.3 ล้าน เปิดขาย Q4/65
โครงการระหว่างการขาย
บริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการขายทั้งหมด 6 โครงการ มูลค่า 1,200 ล้านบาท หรือ 255 ยูนิต โดยมียอดขายไปแล้วเฉลี่ย 60% และมียอด Backlog 350 ล้านบาท โดยรอโอนในไตรมาส 1 ของปีนี้ ประมาณ 50% เป็นโครงการอยู่ใน จังหวัดนนทบุรี 5 โครงการ และ จังหวัดอุดรธานี 1 โครงการ ได้แก่
- ธนาฮาบิแแทต กรู๊ฟ ปิ่นเกล้า-สิรินธร โครงการบ้านเดี่ยว-บ้านแฝด จำนวน 125 ยูนิต บนพื้นที่ 23 ไร่เศษ มูลค่าโครงการ 720 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ย 5.8 ล้านบาท
- อนาบูกิ ธนาฮาบิแทต สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ-ราชพฤกษ์ บ้านแฝดและทาวน์โฮม สไตล์ L-Home ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับกลุ่มอนาบูกิ
- ธนาฮาบิแทต ปิ่นเกล้า-สิรินธร บ้านเดี่ยวหรู 4 นอน
- ธนาคลัสเตอร์ ราชพฤกษ์ ทาวน์โฮม 3 ชั้น ราคาเริ่ม 3.49 ล้านบาท
- ธนาคลัสเตอร์ เวสต์เกต บ้านแฝดและทาวน์โฮม 3 ชั้น ราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท และ
- สิริวิลเลจ อุดรธานี-แอร์พอร์ต บ้านเดี่ยว ชั้นเดียว และ 2 ชั้น ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
เกี่ยวกับบริษัทร่วมทุน
บริษัท อนาบูกิ ธนาสิริ (ประเทศไทย) จำกัด (ATT)
ATT เป็นบริษัทย่อยของบริษัท จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 ด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย โดยเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท อนาบูกิ โคชัน จำกัด และ บริษัท ไทยโคโนอิเกะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ 50%, 49% และ 1% ตามลำดับ
บริษัท อนาบูกิ โคซัน จำกัด ก่อตั้งปี พ.ศ.2507 เป็นกลุ่มบริษัทภายใต้ชื่อ “Anabuki Kosan Group” บริหารงานโดย นายทาดะสึงุ อะนาบูกิ ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในจังหวัด คากาวะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีประสบการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่นกว่า 50 ปี
บริษัท ไทยโคโนอิเกะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ก่อตั้งปี พ.ศ. 2525 โดย บริษัท โคโนอิเกะ คอนสตรั๊คชั่น จำกัด ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทยกว่า 30 ปี ที่บริษัทฯ ได้มีบทบาทที่สำคัญในการพัฒนาประเทศไทย ด้วยการส่งมอบผลงานกว่า 370 โครงการ อันได้แก่ อาคารโรงงาน คลังสินค้า ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล
ANABUKI GROUP ผู้ร่วมทุนจากญี่ปุ่น เป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ประกอบด้วยบริษัทต่างๆ กว่า 35 บริษัท จัดเป็นผู้เซี่ยวชาญด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ในฝั่งตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น มูลค่าผลประกอบการในปีที่ผ่านมามากกว่า 30,000 ล้านบาท โดยอนาบูกิมีความโดดเด่นในด้าน Medical Care (Assisted living Management & Nursing Care Insurances) ภายใต้แนวคิด “We support individual freedom” ที่ให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยที่สะดวกสบาย มีบริการ Nursing Care และ Medical Care ครบวงจร มีเจ้าหน้าที่กว่า 5,000-6,000 คน เพื่อทำธุรกิจบริการที่ดูแลมากกว่า 200,000 ครอบครัว ทั่วประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้รับบริการอีกด้วย อาทิ โรงเรียน ธุรกิจบันเทิงต่างๆ (Entertainment) Medical Care ผลิตไฟฟ้า และ Supermarket เป็นต้น