กรุงศรีเผยผลกำไรสุทธิเก้าเดือนแรกปี 2566 จำนวน 25.2 พันล้านบาท จากผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและผนวกกลยุทธ์บริหารความเสี่ยงเชิงรุก

0
660

กรุงเทพฯ (19 ตุลาคม 2566) – กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) รายงานผลประกอบการเก้าเดือนแรกของปี 2566 มีกำไรสุทธิจำนวน 25.2 พันล้านบาท เติบโต 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของรายได้จากการดำเนินงาน ทั้งในส่วนของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย อันเป็นผลมาจากการเติบโตของเงินให้สินเชื่อในประเทศและการควบรวมกิจการพอร์ตสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในต่างประเทศ

ผลประกอบการที่แข็งแกร่งสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของเงินให้สินเชื่อรวมที่ 3.5% และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่เร่งตัวขึ้นมาอยู่ที่ 3.70% ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2566 แม้ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงภาระการตั้งสำรองสำหรับธุรกิจในต่างประเทศตามนโยบายบริหารจัดการความเสี่ยงที่เข้มงวดระมัดระวัง

สรุปผลประกอบการและฐานะการเงินที่สำคัญสำหรับช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2566
• กำไรสุทธิในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2566 จำนวน 25,198 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.0% หรือ 1,876 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2565 โดยมีปัจจัยหลักมาจากผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย
• เงินให้สินเชื่อรวม เพิ่มขึ้น 3.5% หรือจำนวน 67,428 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2565 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และสินเชื่อเพื่อรายย่อย ซึ่งครอบคลุมบริษัทลูกต่างประเทศแห่งใหม่ในไตรมาสสองของปี 2566
• เงินรับฝาก ลดลง 1.8% หรือจำนวน 32,464 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักมาจากการลดลงของเงินฝากออมทรัพย์ สุทธิด้วยการเพิ่มขึ้นของเงินรับฝากประจำ
• ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) เร่งตัวขึ้นมาอยู่ที่ 3.70% จาก 3.44% ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2565 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนอัตราดอกเบี้ยและต้นทุนทางการเงินที่ปรับเพิ่มขึ้น
• รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 9.6% หรือจำนวน 2,386 ล้านบาท จากช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2565 โดยเป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยอื่นๆ
• อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ อยู่ที่ 44.2% เมื่อเทียบกับ 43.4% ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2565 สะท้อนค่าใช้จ่ายทางการตลาด สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการควบรวมธุรกิจในไตรมาส 2/2566
• อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) อยู่ที่ 2.48% เมื่อเทียบกับ 2.32% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 โดยมีปัจจัยหลักมาจากนโยบายการบริหารความเสี่ยงด้วยความรอบคอบระมัดระวังของธนาคาร ขณะที่สัดส่วนการตั้งสำรองต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 149 เบสิสพอยท์
• อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 155.1%
• อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (ของธนาคาร) ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 18.38% เทียบกับ 17.97% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565

นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของธนาคารได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ทั้งจากธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ โดยยังคงรักษาความเข้มงวดระมัดระวังในการบริหารจัดการความเสี่ยงอยู่เสมอ”

“เศรษฐกิจไทยโดยรวมยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2566 แม้ว่าจะเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลงกว่าที่คาดการณ์อันเนื่องมาจากอุปสงค์ในต่างประเทศที่อ่อนตัวลง ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้ในไตรมาสที่สี่ของปีนี้ โดยได้รับแรงขับเคลื่อนของการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวและผลจากฐานที่ต่ำในไตรมาสที่สี่ของปีก่อนหน้า กรุงศรียังคงเป้าหมายการเติบโตของเงินให้สินเชื่อปี 2566 ไว้ที่ 3-5%”

ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 กรุงศรี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าในระบบเศรษฐกิจไทยจากมูลค่าสินทรัพย์ สินเชื่อและเงินรับฝาก และเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) มีสินเชื่อรวม 2.02 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.77 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 2.76 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 309.12 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 18.38% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 13.66%

Krungsri delivers nine-month 2023 net profit of 25.2 billion baht, underlining sustainable growth in operating performance and proactive
risk management rigor

Bangkok (19 October 2023) – Krungsri (Bank of Ayudhya PCL and its business units) reports 25.2 billion baht in net profit for the first nine months of 2023, an increase of 8% over-year, mainly driven by continuous growth in operating income from both net interest income and non-interest income, owing to organic domestic loan expansion together with overseas consumer finance portfolio acquisitions.

The solid earnings were in line with healthy loan growth at 3.5% and improved net interest margin (NIM) to 3.70% in 9M/23, notwithstanding higher operating expenses corresponding to increased business volume and activities, as well as expected credit loss as a prudential safeguard for overseas subsidiaries.

Highlights of Krungsri’s consolidated nine-month 2023 performance:
• Net profit: Recorded at 25,198 million baht for 9M/23, representing an increase of 8.0%, or 1,876 million baht from 9M/22, due mainly to a strong growth in operating performance from both net interest income and non-interest income.
• Loans: Increased by 3.5%, or 67,428 million baht, from the end of December 2022, mainly driven by SME and retail loans from new overseas subsidiaries in 2Q/23.
• Deposits: Decreased by 1.8%, or 32,464 million baht, primarily due to a decline in savings deposits, offset by an increase in time deposits.
• Net interest margin (NIM): Markedly increased to 3.70% from 3.44% in 9M/22, driven by an improvement in the yield on earning assets, in alignment with rising interest rates and funding cost.
• Non-interest income: Notably increased by 9.6%, or 2,386 million baht, from 9M/22, largely due to net fees and service income and other non-interest income.
• Cost to income ratio: Recorded at 44.2%, compared with 43.4% in 9M/22, underscoring the marketing and promotion expenses corresponding to business volume growth and the employee expenses, mainly resulting from the acquisitions of new business entities in 2Q/23.
• Non-performing loan (NPL) ratio: Moderated to 2.48%, compared with 2.32% at the end of December 2022, primarily reflecting the Bank’s rigorous risk management practices. Meanwhile, credit cost stood at 149 basis points.
• Coverage ratio: Remained healthy at 155.1%.
• Capital adequacy ratio (Bank only): Improved to 18.38%, compared with 17.97% at the end of December 2022.

Krungsri President and Chief Executive Officer Mr. Kenichi Yamato, said “Our continually growing top-line performance was preliminarily driven by higher net interest income and
non-interest income, underscoring both domestic and overseas contributions, while maintaining a prudential safeguard and rigorous risk management conduct.”

“The Thai economy overall continued to grow in 9M/23, albeit at a slower pace than expected due to soft external demand. Growth should pick up in 4Q/23, mainly attributable to the favorable expansion of private consumption, a steady tourism recovery, and the low base effect in the fourth quarter of the prior year. The Bank maintains our 2023 loan growth outlook at the target range of 3 – 5%.”

As of 30 September 2023, Krungsri, Thailand’s fifth largest bank in terms of assets, loans and deposits, and one of Thailand’s Domestic Systemically Important Banks (D-SIBs), reported 2.02 trillion baht in loans, 1.77 trillion baht in deposits, and 2.76 trillion baht in total assets. Krungsri’s capital (Bank only) was strong at 309.12 billion baht, equivalent to 18.38% of risk-weighted assets, with 13.66% in common equity tier 1 capital.