KBank Private Banking (เคแบงก์ ไพรเวทแบงก์กิ้ง) ร่วมกับพันธมิตร EQT Partners นำเสนอกองทุนหุ้นนอกตลาดกองใหม่ที่ลดข้อจำกัดด้านสภาพคล่อง เพราะเป็นกองทุนหุ้นนอกตลาดแบบกึ่งสภาพคล่องที่ผู้ลงทุนสามารถลงทุนได้ทุกเดือนและขายคืนได้ทุกไตรมาส โดยจะล็อคเงินลงทุนไว้เป็นเวลาเพียง 18 เดือนหลังจากเริ่มลงทุน กองทุนดังกล่าวจะเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 13 – 17 พฤษภาคม 2567 แก่ลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง โดยนักลงทุนจะได้รับประโยชน์จากกลยุทธ์การลงทุนที่ประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับที่ลูกค้ากลุ่มสถาบันของ EQT เคยได้รับตลอดระยะกว่า 30 ปีที่ผ่านมา
ดร.ตรีพล ภูมิวสนะ Senior Managing Director, Private Banking Business Head, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า “KBank Private Banking มุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเปิดโอกาสการลงทุนที่หลากหลาย เพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุน โดยเฉพาะลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงของธนาคาร เพื่อสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีระยะยาวให้กับพอร์ตการลงทุน โดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์ที่ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มีความผันผวนสูง และมีโอกาสในการทำกำไรที่น้อยลง KBank Private Banking ได้นำเสนอการลงทุนทางเลือก (Alternative Investment) เพื่อกระจายความเสี่ยงให้แก่พอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินทรัพย์นอกตลาด (Private Asset) รวมทั้งสิ้น 10 กองทุน ไม่ว่าจะเป็น กองทุนหุ้นนอกตลาด (Private Equity Fund) ทั่วโลก จีน และไทย กองทุนอสังหาริมทรัพย์นอกตลาด (Private Real Estate Fund) ทั่วโลก และไทย และกองทุนหนี้นอกตลาด (Private Credit Fund) ซึ่งกองทุนที่นำเสนอไปสามารถช่วยลดความผันผวนของพอร์ต และสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้ จากสถิติ ย้อนหลัง 10 ปี 5 ปี และ 3 ปี พบว่าการลงทุนในหุ้นนอกตลาดสามารถให้ผลตอบแทนมากกว่าหุ้นในตลาดได้ถึง +5% +7% และ +9% ตามลำดับ”
ล่าสุด KBank Private Banking ร่วมกับ EQT นำเสนอกองทุนหุ้นนอกตลาดกึ่งสภาพคล่องที่มีชื่อว่า K Global Private Equity หรือ K-GPEQ-UI กองทุนเปิดซึ่งเสนอขายให้แก่ลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงเท่านั้น โดยผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงกลยุทธ์การลงทุนที่หลากหลายของ EQT ซึ่งเน้นการลงทุนในหุ้นนอกตลาดที่สร้างผลตอบแทนสูงและโครงสร้างพื้นฐานที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มได้ รวมทั้งการลงทุนในสาขาที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูงในระยะยาว เช่น การดูแลสุขภาพ เทคโนโลยีและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เป็นต้น ซึ่งนักลงทุนสามารถลงทุนเพิ่มได้ทุกเดือน และการขายคืนหน่วยลงทุนจะสามารถทำได้เป็นรายไตรมาส และระยะเวลาการล็อคเงินลงทุนเพียง 18 เดือน สำหรับการลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกกำหนดไว้ที่ 500,000 บาท
EQT ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนหลักของกองทุนนี้ เป็นผู้จัดการกองทุนหุ้นนอกตลาดระดับโลกที่ ก่อตั้งขึ้นในสวีเดนมาเป็นเวลากว่า 30 ปี มีผลงานที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาบริษัททั่วทุกมุมโลก ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม ปัจจุบัน EQT บริหารจัดการสินทรัพย์รวมกว่า 250,000 ล้านดอลลาร์และลงทุนอยู่ในธุรกิจทั่วโลก ด้วยพันธกิจในการสร้างความมั่นคงแข็งแกร่งในอนาคตให้แก่บริษัทต่างๆ พร้อมสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจ และสร้างผลกระทบเชิงบวกกับทุกการดำเนินงาน
นายปีเตอร์ เบสเกอ นีลสัน Partner and Global Head of Private Wealth ของ EQT กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา EQT ได้เติบโตเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำและใหญ่ที่สุดระดับโลกด้านการลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาด โดยมีลูกค้าสถาบันกว่า 1,000 แห่ง ที่มอบความไว้วางใจให้ EQT ดูแลบริหารจัดการเงินทุน ปัจจุบัน นักลงทุนทั่วโลกต่างหันมาสนใจและให้ความสำคัญกับการลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาด เนื่องจากต้องการกระจายพอร์ตการลงทุนและเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายมากขึ้น เช่น สินทรัพย์จากการลงทุนในหุ้นนอกตลาดของลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า ภายในปี 2583 EQT จึงยินดีที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ KBank Private Banking เพื่อสนับสนุนให้นักลงทุนไทยได้รับประโยชน์จากเทรนด์การลงทุนระดับโลกในครั้งนี้”
ดร.ตรีพล กล่าวปิดท้ายว่า ในภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน KBank Private Banking ในฐานะที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำแนะนำการลงทุน ยังหาโอกาสและสร้างทางเลือกการลงทุนให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาด และการได้พาร์ทเนอร์กับผู้จัดการกองทุนระดับโลก อย่าง EQT เป็นอีกพัฒนาการสำคัญที่เราได้นำเสนอให้กับลูกค้าส่วนบุคคลที่เป็นลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงมีโอกาสในการลงทุนได้ และผลิตภัณฑ์อย่างกองทุนหุ้นนอกตลาดกึ่งสภาพคล่องก็ถือเป็นวิวัฒนาการสำคัญของกองทุนหุ้นนอกตลาดที่ช่วยให้การลงทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่เสียโอกาสในการลงทุน เพราะสามารถเข้าลงทุนได้ทันที เพิ่มการลงทุนได้ทุกเดือน ขายทำกำไรได้ทุกไตรมาส และล็อคเงินลงทุนเพียง 18 เดือน KBank Private Banking เชื่อว่าการลงทุนในกองทุน K-GPEQ-UI จะช่วยกระจายความเสี่ยงพอร์ตการลงทุนจากกองทุนหุ้นนอกตลาดแบบดั้งเดิม และเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนระยะยาวให้กับนักลงทุนได้
KBANK PRIVATE BANKING OFFERS NEW OPPORTUNITIES TO INVEST IN SEMI
LIQUID PRIVATE EQUITY FUND VIA EQT PARTNERS, THE THIRD LARGEST PRIVATE EQUITY
FIRM GLOBALLY
KBank Private Banking has partnered with EQT Partners to offer a new private equity fund. The semi-liquid fund allows investment on a monthly basis while redemptions can be requested every quarter, after an initial investment lock-up period of just 18 months. The fund will be made available to clients of KBank Private Banking on 13th May 2024, who will be able to benefit from the proven approach that EQT’s institutional clients have benefited from for over three decades.
Dr. Triphon Phumiwasana, Private Banking Business Head, Private Banking Group, KASIKORNBANK, stated, “KBank Private Banking is committed to unceasingly introducing new products to give clients opportunities to diversify their investment and create sustainable returns for their investment portfolio. Over the past five years, amidst highly volatile stock market conditions and sparse profit-making opportunities, KBank Private Banking recommended alternative assets to mitigate risk in investment portfolios with a focus on private assets. A total of 10 IPOs including global, Thai and Chinese Private Equity Funds, global and Thai Private Real Estate Funds, and Private Credit Funds, help manage fluctuations of portfolios and generate better long-term returns. With 10-, 5- and 3-year records, investment in private equities outperformed listed stocks by 5, 7 and 9 percent, respectively, in terms of return on investment.”
The new semi-liquid fund — titled K Global Private Equity or K-GPEQ-UI — is an open-ended fund, available to ultra-high net worth individuals. Through a single investment, individuals will be able to access EQT’s diversified range of global investment strategies, focused primarily on high performing private equity strategies and value-added infrastructure. EQT’s investment strategies focus on investing behind high-growth, long-term themes such as healthcare, technology and digitalization, the energy transition, and more. Following an initial 18 month lockup period, additional investment is permitted monthly while redemption of investment units is allowed on a quarterly basis. The minimum initial investment is also accessible at 500K Baht
EQT is a purpose-driven global investment organization, which was founded in Sweden three decades ago. With a Nordic heritage and global perspective, rooted in the Wallenberg industrial family’s entrepreneurial mindset and philosophy of long-term ownership, EQT has a proven track record of developing companies across geographies, sectors and strategies. Today, it manages over $250 billion in total assets and invests across the world with the mission to future-proof companies, generate attractive returns and make a positive impact with everything EQT does.
Peter Beske Nielsen, Partner and Global Head of Private Wealth at EQT, added, “As EQT has grown to become one of the world’s leading and largest private markets firms over the past thirty years, over a thousand institutional clients have entrusted us with their capital. Now we are seeing that private investors across the world are also turning to private markets as a way to diversify their portfolios and get exposure to more asset classes — for example, the assets from individual investors in private equity is expected to quadruple by 2040. We are delighted to be partnering with KBank Private Banking to enable Thai investors to also benefit from this global trend.”
Dr. Triphon noted in closing that amid the prevailing economic uncertainties, KBank Private Banking, as an international comprehensive wealth management advisor, continues to seek opportunities and provide investment alternatives for clients. Focus is on increased investment in private assets and with this new partnership with EQT, the IPO of semi-liquid private equity funds K-GPEQ-UI will certainly help diversify investment portfolio risks and increase opportunities to gain long-term returns for investors.