DITP และ RX Tradex เดินหน้ายกระดับผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทยพร้อมเชื่อมโยงธุรกิจโลจิสติกส์ในอนาคต ในงาน TILOG – LOGISTIX 2024

0
137

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (DITP) ร่วมกับ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ (RX Tradex) กำหนดจัดงาน TILOG – LOGISTIX 2024 ระหว่างวันที่ 15 – 17 สิงหาคมนี้ ที่ไบเทค ฮอลล์ 98 พร้อมดึงผู้ประกอบการกว่า 150 บริษัท นำเสนอสินค้าและบริการกว่า 415 แบรนด์จาก 25 ประเทศ เข้าจัดแสดงนวัตกรรม เทคโนโลยีและบริการด้านโลจิสติกส์ พร้อมกิจกรรมเสริมองค์ความรู้ สัมมนาวิชาการ คาดผู้เข้าชมงาน 9,000 ราย

          นางสาวณัฐิยา สุจินดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า “อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยปี 2566 มีทิศทางเติบโตดี สมาคมการจัดการระบบคลังสินค้าไทยคาดการณ์อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในปี 2567 จะขยายตัวร้อยละ 15 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและปัจจุบันไทยมีผู้ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์เป็นนิติบุคคลรวม 35,593 ราย (ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เดือนมิถุนายน 2567) มีมูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศ ณ เดือนพฤษภาคม 2567 ที่ 5,808.76 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16.36 ของการลงทุนในกลุ่มโลจิสติกส์ในไทย โดยจีนเป็นสัญชาติที่ลงทุนมากที่สุด นอกจากนี้จากการจัดอันดับดัชนีวัดประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ (International Logistics Performance Index : LPI) ของธนาคารโลก ปี พ.ศ. 2566 พบว่า ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 34 จาก 139 ประเทศทั่วโลก และเป็นอันดับที่ 3 รองจากสิงคโปร์และมาเลเซียสำหรับภูมิภาคอาเซียน”

ดร. ชัยชาญ เจริญสุข ประธาน สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เผยว่า “ปัจจุบันผู้ส่งออกต้องเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจทั้งจากภายในประเทศ และนอกประเทศ อาทิ การขาดแคลนแรงงาน ภาวะต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้นทุกรายการ มาตรการทางการค้าจากหลายประเทศ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) EUDR (EU Deforestation-free Regulations) หรือกฎหมายที่เกี่ยวกับการลดการผลิตและการบริโภคสินค้าโภคภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการตัดไม้ทำลายป่าและทำให้เกิดความเสื่อมโทรมของป่า ของสหภาพยุโรปและคาดว่าประเทศคู่ค้าสำคัญอื่นจะกำหนดนโยบายออกมาบังคับใช้ในลักษณะเดียวกันในไม่ช้า ซึ่งผู้ประกอบการไทยที่ต้องการส่งออกสินค้าไปยังประเทศเหล่านั้นต้องปรับตัว วางแผนและดำเนินการตามนโยบายเหล่านี้ ขณะเดียวกันก็เป็นทั้งโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่สามารถปรับตัวได้ ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้า ปรับปรุงกระบวนการผลิต ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์และการขนส่งสินค้า และเลือกใช้พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่มีจุดมุ่งหมายร่วมกัน ซึ่งผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ถือเป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์สำคัญสำหรับผู้ส่งออก ดังนั้น การคัดเลือกผู้ให้บริการที่เข้าใจในความต้องการทางธุรกิจและช่วยผู้ส่งออกวางแผน เสนอทางเลือกในการพัฒนา ตลอดจนช่วยแก้ปัญหา จึงสำคัญอย่างยิ่งและเป็นกุญแจสู่ความยั่งยืนในการค้าระหว่างประเทศ”

นายเฉลิมศักดิ์ กาญจนวรินทร์ นายกสมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ พูดถึงอนาคตของวงการโลจิสติกส์ว่า “การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยผู้ให้บริการสามารถควบคุมการทำงานของทั้งซัพพลายเชน ได้ข้อมูลมาใช้ตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงเวลา มีประสิทธิภาพ และควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น เทคโนโลยีที่กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญกับบริการโลจิสติกส์ เช่น หุ่นยนต์จัดการคลังสินค้าและการขนลำเลียงสินค้า AI ช่วยควบคุมการขับขี่และเส้นทางของผู้ขนส่งสินค้า ซอฟต์แวร์ช่วยจัดการวางแผนเส้นทางการส่งสินค้า รวมไปถึง Blockchain ช่วยให้สามารถเก็บรวบรวมและบริหารจัดการข้อมูลของสินค้าหลายประเภทจำนวนมาก ๆ  และเชื่อมต่อกับ Stakeholder ทั้งซัพพลายเชนได้ ซึ่งการพัฒนาด้านนี้ ต้องขับเคลื่อนด้วยความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชน และทำกันอย่างจริงจัง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาดโลก”

ด้วยเล็งเห็นความสำคัญของโลจิสติกส์ที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศ DITP จึงร่วมกับ RX Tradex  จัดงาน TILOG – LOGISTIX 2024 โดยนางสาวณัฐิยากล่าวถึงแนวคิดการจัดงานว่า “งานปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘Connecting the Logistics Future’ หรือ เชื่อมโยงโลกของธุรกิจโลจิสติกส์ในอนาคต เพื่อแสดงถึงศักยภาพ ความพร้อม และความร่วมมือของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยในการปรับตัวให้เข้ากับธุรกิจโลจิสติกส์ในอนาคตที่มุ่งเน้นนวัตกรรมด้านโลจิสติกส์ เทคโนโลยีดิจิทัล และความยั่งยืน”

นางวราภรณ์ ธรรมจรีย์ กรรมการผู้จัดการ RX Tradex กล่าวว่า “ภายในงานจะมีการแสดงสินค้าจากนานาชาติ จากไทย จีน ญี่ปุ่น นอร์เวย์ มาเลเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย รวมทั้งพาวิลเลี่ยนจากจีน โดยนวัตกรรมเด่นที่นำมาแสดง ได้แก่ ระบบช่วยเหลือและตรวจจับพฤติกรรมผู้ขับขี่รถขนส่งด้วย AI, ระบบการจัดการคลังสินค้าที่ใช้หุ่นยนต์ช่วยลำเลียงกระบะบรรจุสินค้า, ถุงลมกันกระแทกในตู้คอนเทนเนอร์ชนิดหน้าเรียบ, ระบบบริหารจัดการคลังสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีคิดคำนวณแทนมนุษย์, บริการขนส่งทางรางที่ครบวงจร และอีกมาก ทั้งนี้ คาดว่าจำนวนผู้เข้าชมงานในปีนี้ไม่น้อยกว่า 9,000 ราย และตั้งเป้ามูลค่าการซื้อขายในงานไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท”

นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมพิเศษ อาทิ นิทรรศการภาพรวมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของไทย, Innovation Showcase, งานสัมมนา Trade Logistics Symposium 2024 และ World Transport & Logistics Forum

งาน TILOG – LOGISTIX 2024 กำหนดจัดระหว่างวันที่ 15 – 17 สิงหาคมนี้ ณ ไบเทค ฮอลล์ 98 สามารถดูรายละเอียดและลงทะเบียนได้ที่ www.tilog-logistix.com

http://www.tilog-logistix.com หรือโทร. 0 2686 7222 งานนี้เป็นงานเจรจาทางธุรกิจ ผู้จัดงานจึงขอความร่วมมือผู้ชมงานแต่งกายสุภาพ และสงวนสิทธิ์ไม่ให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปีเข้าชมงาน

DITP and RX Tradex Continue Upgrading Thai Logistics,

Connecting the Logistics Future at TILOG – LOGISTIX 2024

The Department of International Trade Promotion (DITP), Ministry of Commerce, and RX Tradex will organize TILOG – LOGISTIX 2024 from August 15 – 17 at BITEC, Hall 98. The exhibition will feature over 150 exhibitors showcasing products and services by more than 415 brands from 25 countries with a full range of logistics innovations, technologies, and services, educational activities, and academic seminars. The event is expected to attract about 9,000 visitors.

          Natiya Suchinda, Deputy Director General of the DITP, said, “Thailand’s logistics industry grew well in 2023. The Thai Intralogistics Association (TIA) has forecasted that the industry will expand by 15%, in line with Thailand’s and the world’s economic recovery. Currently, there are also 35,593 logistics companies in Thailand (Source: Department of Business Development, June 2024). As of May 2024, foreign investments in the industry totaled 5,808.76 million baht, accounting for 16.36% of investments in Thailand’s logistics with China’s being the largest investor. The World Bank’s 2023 International Logistics Performance Index (LPI) reported that Thailand is ranked 34th out of 139 countries and 3rd in ASEAN after Singapore and Malaysia.”

Dr. Chaichan Chareonsuk, Chairman of Thai National Shippers’ Council (TNSC), stated, “Exporters are facing both domestic and international challenges including labor shortage and rising operational costs. The challenges also include such trade measures as the Carbon Border Adjustment Mechanism (CBAM) and the EU Deforestation-free Regulations (EUDR) which seek to curb the production and consumption of products that cause deforestation or forest degradation within the European Union. Soon, other key trade partners of Thailand will also introduce similar measures if not already. To Thai entrepreneurs eyeing those markets, such situation provides both threats and opportunities. The entrepreneurs are required to adapt and come up with responsive plans and implementation. Opportunities will come to those who can adapt, from their selection of raw materials, production process improvement, packaging choices, transport means, and suppliers who share the same goals. Logistics service providers are exporters’ key partners; therefore, it is imperative that exporters choose partners who truly understand their business needs, support their plans, recommend development alternatives, and help solve problems. The right partners have crucial importance and hold keys to sustainability in international trade”.

Chalermsak Karnchanawarin, President of the Thai International Freight Forwarders Association (TIFFA), discussed the future of the logistics industry, “Digitalization will enable service providers to manage the entire supply chain more efficiently with instant, accurate information for quick decision-making. The technology can assist them in catering to customers’ needs in a timely manner at a better cost. Various technologies are playing and will play vital roles in logistics services, including warehousing & material-handling robots, AI-powered monitoring solution that can detect deliverymen’s driving behaviors, delivery-route-planning software, and blockchain that not only enables the collection of massive product information across various categories but also connect it to all stakeholders in the supply chain. Technological development requires committed cooperation from both public and private sectors so that we can enhance our competitiveness in the global markets.”

Recognizing that logistics is a key driver of Thailand’s national development goals, the DITP has, once again, partnered with RX Tradex in organizing TILOG – LOGISTIX 2024. Natiya revealed that, “This year, the exhibition will be organized under the theme of ‘Connecting the Logistics Future’ and will demonstrate the potential, readiness, and collaboration of the entire logistics industry in keeping pace with the future by focusing on innovations, digitalization, and sustainability.”

Varaporn Dhamcharee, Managing Director of RX Tradex, said,“TILOG – LOGISTIX 2024 will showcase products from various countries, from Thailand to China, Indonesia, Japan, Malaysia, Norway, Singapore, the United Arab Emirates, and the United States of America, including a Pavilion from China. Key highlights at the exhibition will include an AI-enabled deliverymen assistance and monitoring system, robotic material handling and warehouse management systems, smooth-surfaced airbags to protects goods in containers, digital warehouse systems, and integrated rail transport services. We expect the event to attract over 9,000 visitors and generate a trade value of over two billion baht”.

In addition, TILOG – LOGISTIX 2024 will present a variety of special activities. Among them are an exhibition on Thailand’s logistics industry, Innovation Showcase, Trade Logistics Symposium 2024 and World Transport & Logistics Forum.

TILOG – LOGISTIX 2024 will run from August 15 to 17 at BITEC, Hall 98. For more information and registration, please visit www.tilog-logistix.com or call 0 2686 7222. As the event is a B2B event, visitors are required to dress in a business attire and be at least 15 years of age.