ไวทัลไลฟ์ ในเครือโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ปรับโฉมใหม่ ปลดล็อกความลับสู่อายุที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพ สอดรับเมกะเทรนด์ทางการแพทย์สู่ศูนย์กลางสุขภาพแห่งอนาคต

0
79

ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพและต้องการมีอายุยืนยาวขึ้น เวชศาสตร์การมีอายุยืนยาว (Longevity Medicine) นับเป็นเมกะเทรนด์ที่ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายทั่วโลก สถิติหลายแห่งได้เผยถึงคนทั่วโลกมีอายุขัยเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และต้องการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงสมบูรณ์ไปจนถึงวัยชราสูงขึ้นตามไปด้วย

ดร. อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ Chief Executive Officer โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และ Executive Director ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ได้เปิดเผยถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรมสุขภาพทั่วโลก (The Global Health and Wellness Industry) จากข้อมูลการวิจัยของ New Global Wellness Institute ระบุว่า มีมูลค่า 5.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตขึ้นเป็น 8.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2027 และมีอัตราเติบโตเพิ่มสูงขึ้นถึง 40% หากเทียบกับปี 2023 สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการโซลูชันและบริการด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ด้วยปัจจัยหนุนทั้งการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพและป้องกันโรคมากขึ้น ซึ่งเกิดจากแรงขับเคลื่อนสำคัญทั้งของคนรุ่นใหม่ที่แสวงหาวิธีป้องกัน และคนรุ่นเก่าที่แสวงหาวิธีปรับปรุงให้มีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ รวมถึงเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ส่งผลให้อุตสาหกรรมสุขภาพมีศักยภาพในการเติบโตสูง

ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ (VitalLife Scientific Wellness Center) เป็นผู้บุกเบิกการแพทย์ด้านเวชศาสตร์การมีอายุยืนยาวมากว่า 24 ปี ภายใต้การดำเนินงานของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้ประกาศถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาการแพทย์สู่การดูแลสุขภาพเชิงรุก ในงานแถลงข่าว ‘Unlocking the Secrets to a Longer, Healthier Life by VitalLife’ โดยเน้นการป้องกันและส่งเสริมสุขภาพที่ดีในทุกช่วงอายุ ไม่ใช่เพียงการรักษาโรคเมื่อเจ็บป่วยเท่านั้น แต่มุ่งเน้นการมีอายุยืนยาวอย่างแข็งแรงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีตลอดอายุขัย พร้อมทั้งนำเสนอเทคโนโลยีและองค์ความรู้ทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อให้การดูแลสุขภาพเป็นแบบเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการนี้ นอกจากจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนแล้ว ยังช่วยขับเคลื่อนวงการแพทย์ของประเทศไทยให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น

ปี 2024 นับเป็นปีแห่งความท้าทายสู่การเปลี่ยนแปลงที่เหนือกว่าของไวทัลไลฟ์ เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จอีกขั้น โดยได้มีการปรับเปลี่ยนในหลายมิติ ภายใต้การนำทีมของ ผศ.นพ. พลกฤต ทีฆคีรีกุล Chief Executive Officer ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์และเอสเพอรานซ์ และ Chief Science Officer โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์และศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ซึ่งปฏิวัติวงการในการดูแลสุขภาพด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัย มุ่งเน้นการสร้างการดูแลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคลเพื่อให้ผู้คนมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพอย่างยั่งยืน รวมถึงการปรับรูปโฉมใหม่ของไวทัลไลฟ์และการให้บริการแบบบูรณาการครอบคลุมทุกมิติ โดยย้ายมาที่ตึก D ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ภายใต้การออกแบบที่หรูหราและทันสมัย อีกทั้งยังได้ปรับทัพทีมผู้บริหารและทีมแพทย์เพื่อให้สอดรับการเติบโตด้านเวชศาสตร์การมีอายุยืนยาว ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ทางการแพทย์

ผศ.นพ. พลกฤต ทีฆคีรีกุล กล่าวในช่วง Longevity Talkว่า ในปีนี้ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ได้ก้าวสู่การดำเนินงานปีที่ 24 โดยมุ่งมั่นพัฒนาด้านการดูแลสุขภาพมาอย่างต่อเนื่องทั้งด้านนวัตกรรมและวิธีการที่ทันสมัย รวมถึงทุ่มเทการทำวิจัยเพื่อออกแบบการดูแลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคล เพื่อเป้าหมายในการมีอายุยืนยาวอย่างเยาว์วัยและแข็งแรง

หัวใจสำคัญของไวทัลไลฟ์ คือ การมุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1) นวัตกรรมในห้องปฏิบัติการ (Lab Innovation) ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ผลการตรวจวิเคราะห์ที่แม่นยำและรวดเร็วจากเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้งานในห้องปฏิบัติการ ซึ่งได้รับการรับรองจากวิทยาลัยพยาธิแพทย์อเมริกัน (College of American Pathologists: CAP) ช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและวางแผนการรักษาของผู้รับบริการแต่ละบุคคลได้อย่างตรงจุด 2) การบูรณาการ AI (AI Integration) ด้วยการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรมและชีวภาพจำนวนมหาศาลหรือการวินิจฉัยโรคที่มีความซับซ้อนทางชีวเคมี เช่น โรคมะเร็ง และโรคทางระบบประสาทได้อย่างครอบคลุม ซึ่งจะนำไปสู่การรักษาโรคได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น และ 3) นวัตกรรมแห่งความร่วมมือ (Collaborative Innovation) โดยผนวกจุดแข็งในด้านนวัตกรรมในห้องปฏิบัติการเข้ากับความเป็นเลิศทางคลินิกของบำรุงราษฎร์ ทำให้เกิดกระบวนการการวินิจฉัยและการวางแผนการดูแลสุขภาพที่ไร้รอยต่อ

นอกจากนี้ ไวทัลไลฟ์ยังได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของวิทยาการทางการแพทย์อย่างรวดเร็ว ซึ่งมีบทบาทสำคัญอย่างมากทำให้เราอยู่ในแถวหน้าของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์

นพ. สุธี ศิริเวชฎารักษ์ Chief Administrative Officer ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์และเอสเพอรานซ์ กล่าวว่า การมีอายุยืนยาวไม่ใช่เพียงแค่การมีชีวิตอยู่ให้นาน แต่หมายถึงการมีสุขภาพที่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกช่วงอายุ ไวทัลไลฟ์ให้ความสำคัญกับการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสาเหตุของความชรา เพื่อนำมาพัฒนาแนวทางการดูแลสุขภาพที่สามารถชะลอกระบวนการชรา และช่วยให้ทุกคนมีอายุยืนยาวอย่างมีสุขภาพที่ดี จากงานวิจัยและข้อมูลทางวิทยาศาสตร์บ่งชี้มี 12 สาเหตุสำคัญที่นำไปสู่วัยชรา เช่น การกลายพันธุ์ของ DNA ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดเนื้องอกและโรคมะเร็งตามอายุ การสูญเสียความสมดุลของการควบคุมการผลิตและทำลายโปรตีนในเซลล์ ซึ่งจะส่งต่อความผิดปกติของระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับอายุ เช่น โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน รวมถึงการตอบสนองต่อสารอาหารผิดปกติ นำไปสู่ภาวะผิดปกติของระบบเผาผลาญ ส่งผลต่อการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ เป็นต้น

สุขภาพของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ดังนั้น ไวทัลไลฟ์จึงได้นำเสนอแนวทางและพัฒนาแผนการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมระยะยาวที่ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะบุคคล เพื่อให้ทุกคนสามารถบรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพที่ตั้งเป้าไว้ โดยมีเส้นทางการดูแลสุขภาพใน 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย การประเมินที่ครอบคลุม การวางแผนอายุยืนเฉพาะบุคคล การบำบัดและการดูแลรักษาแบบองค์รวม และการติดตามและการปรับเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและองค์ความรู้ใหม่ ๆ เกี่ยวกับการมีอายุยืนยาว พร้อมใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีทันสมัย อย่างนาฬิกาสุขภาพหรือแหวนสุขภาพ เข้ามาเป็นตัวช่วยในการดูแลสุขภาพ เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการมีอายุที่ยืนยาวพร้อมพลังแห่งความเยาว์วัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว

พญ. สุวรรณา สุวรรณพงษ์ Program Director ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ กล่าวว่า ไวทัลไลฟ์ได้ออกแบบพัฒนาและกลั่นกรองมานานหลายปี จนเป็น ‘โปรแกรมการดูแลสุขภาพของไวทัลไลฟ์’ โดยได้นำเทคโนโลยีขั้นสูงและข้อมูลเชิงลึกทางวิทยาศาสตร์ เพื่อช่วยให้ผู้เข้ารับบริการมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ โปรแกรมนี้เน้นการประเมินสุขภาพเชิงลึกแบบเฉพาะบุคคล ผ่านการตรวจสุขภาพที่ครอบคลุม รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรมและชีวภาพต่าง ๆ เพื่อสร้างแผนการดูแลสุขภาพที่ตรงกับความต้องการของแต่ละคน

นอกจากนี้ ไวทัลไลฟ์ยังใช้นวัตกรรมการรักษาที่ช่วยชะลอกระบวนการชราในระดับเซลล์ และมีการติดตามสุขภาพอย่างใกล้ชิดผ่านอุปกรณ์สวมใส่ต่าง ๆ เพื่อติดตามตัวชี้วัดด้านสุขภาพที่สำคัญในแต่ละวัน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำและทันสมัย รวมถึงใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงเข้ามาวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของผู้เข้ารับบริการอย่างละเอียด เพื่อคาดการณ์ความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ ได้ล่วงหน้า ช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาที่ตรงจุดและเฉพาะบุคคลได้มากขึ้น ตลอดจนเข้าใจถึงกลไกของโรคในระดับโมเลกุลได้อย่างลึกซึ้ง จากการบูรณาการข้อมูลและเทคโนโลยีที่หลากหลาย จึงทำให้ไวทัลไลฟ์สามารถให้บริการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ เพื่อเป้าหมายของการมีสุขภาพที่ดีและอายุยืนยาว

พญ. วรรณวิพุธ สรรพสิทธิ์วงศ์ Business Development Director ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า นอกจากไวทัลไลฟ์จะนำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนานวัตกรรมและโปรแกรมดูแลสุขภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคล โดยเน้นการตรวจวินิจฉัยที่แม่นยำ การดูแลเฉพาะบุคคล และการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างแข็งแรงแล้ว ไวทัลไลฟ์โฉมใหม่ยังให้ความสำคัญในเรื่องการออกแบบประสบการณ์ของผู้มารับบริการ ผ่านแนวคิด ‘Ecosystem of Care’ โดยใช้หลักการของสัดส่วนและความกลมกลืนของ Golden Ratio ระบบนิเวศด้านการดูแลสุขภาพ เน้นการสร้างประสบการณ์เชิงบวกโดยยึดหลักผู้มารับบริการเป็นศูนย์กลาง เช่น การอำนวยความสะดวกสบาย และการช่วยแก้ไขปัญหา (Pain Point) ให้กับผู้มารับบริการได้อย่างเหมาะสมในทุกจุดของการให้บริการ

ด้วยการผสมผสานศาสตร์แห่งการมีอายุยืนยาวกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย พร้อมทีมแพทย์ชำนาญการเฉพาะทางและโปรแกรมดูแลสุขภาพที่ออกแบบเป็นเอกลักษณ์ ไวทัลไลฟ์พร้อมเป็นผู้นำในการปฏิวัติวงการสุขภาพ สู่การมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ และสร้างอนาคตแห่งสุขภาพที่เหนือกว่าในระยะยาว

VitalLife, a Bumrungrad Initiative, Transforms to Embrace Wellness Megatrends and Pioneer Longevity Care

Today, people are increasingly concerned about their health and want to live longer. Longevity medicine plays a key role in meeting the demand driven by this global megatrend. Statistics show that people worldwide are living longer and want to stay healthy throughout old age.

Artirat Charukitpipat, PhD, Chief Executive Officer of Bumrungrad International Hospital and Executive Director of VitalLife Scientific Wellness Center, discussed current trends in the global health and wellness industry. According to the New Global Wellness Institute, the total value of the health and wellness market is 5.6 trillion US dollars and is expected to grow to 8.5 trillion US dollars by 2027—a 40% increase over 2023 figures. This significant growth reflects the rising demand for health solutions and services. In an aging society, people are becoming more aware of the importance of healthcare and disease prevention. This awareness is driven by both young people seeking preventive care and older individuals looking to improve their healthspan while maintaining a good quality of life. Advanced technology, essential for providing health and wellness solutions to both groups, supports the industry’s high growth rate.

VitalLife Scientific Wellness Center, a subsidiary of Bumrungrad International Hospital, has been a pioneer in longevity medicine for over 24 years. At the recent press event, ‘Unlocking the Secrets to a Longer, Healthier Life by VitalLife,’ the center announced its commitment to further advancing proactive healthcare. The event emphasized the prevention and promotion of good health at every stage of life, not merely treating illnesses as they arise, but focusing on longevity and quality of life. VitalLife also showcased its cutting-edge medical technology and expertise in providing individualized care. This not only improves quality of life but also propels Thailand’s medical industry to the next level.

2024 has been a challenging year for VitalLife as it strives to achieve next-level success. Under the leadership of Polakit Teekakirikul, MD, Assistant Professor, Chief Executive Officer of VitalLife Scientific Wellness Center and Esperance, and Chief Science Officer of Bumrungrad International Hospital and VitalLife Scientific Wellness Center, a transformation has begun across multiple dimensions to revolutionize healthcare. This includes leveraging cutting-edge AI innovation and technology to help people live longer and more sustainably through personalized healthcare. Additionally, the center has been redesigned to be more luxurious and modern, now located in Building D of Bumrungrad International Hospital, along with its health and wellness team specializing in comprehensive, integrated healthcare. Furthermore, the executive and medical teams have undergone changes to align with the anticipated growth of the longevity medicine megatrend.

Polakit Teekakirikul, MD, Assistant Professor, stated during the Longevity Talk that this year marks VitalLife’s 24th year of operation, and the center remains committed to continuous improvement in innovation, modernization, and research to provide individualized healthcare. Our goal is to help everyone who comes to VitalLife achieve resilience and youthful longevity.

VitalLife focuses on innovating in three key areas: 1) Lab Innovation leverages internationally recognized certifications to ensure quick and accurate analysis by employing advanced technologies certified by the College of American Pathologists (CAP). This supports doctors in making precise diagnoses and creating individualized treatment plans. 2) AI Integration enables increasingly accurate and faster treatments by using AI to analyze large volumes of genetic and biological data, helping to comprehensively diagnose and treat complex diseases, such as cancer or neurological conditions. 3) Collaborative Innovation facilitates a seamless diagnosis and healthcare planning process, connecting insights with clinical practice by combining our laboratory innovation with Bumrungrad’s clinical excellence.

Additionally, VitalLife has received support from world-class experts to create new innovations in response to the rapid advancements in medical science. This plays a significant role in keeping it at the forefront of scientific and medical progress.

Suthee Siriwechdaruk, MD, Chief Administrative Officer of VitalLife Scientific Wellness Center and Esperance, remarked that longevity is not just about living longer, but about maintaining good health and quality of life at every stage of life. VitalLife places great importance on researching the causes of aging to develop healthcare guidelines that slow the aging process and help our clients live long, healthy lives. Scientific research has identified 12 hallmarks of aging, including DNA mutations that increase the risk of tumors or cancers with age; a loss of balance in controlling the production and destruction of cellular proteins, which leads to age-related neurological disorders like Alzheimer’s and Parkinson’s disease; and abnormal nutrient uptake, which leads to metabolic disorders that contribute to chronic diseases such as diabetes, obesity, high blood pressure, and heart disease.

Each individual’s health is different, so VitalLife offers personalized, long-term holistic healthcare plans to help everyone achieve their health goals. The healthcare journey consists of four steps: comprehensive assessment, personalized longevity plan, holistic interventions and therapies, and regular monitoring and adjustments. We utilize advanced technology and cutting-edge longevity research, along with consumer health monitoring devices such as watches and rings, to help manage clients’ health, allowing them to stay youthful and enjoy a better quality of life throughout their lifetime.

Suwanna Suwannaphong, MD, Program Director of VitalLife Scientific Wellness Center, emphasized that VitalLife has leveraged its years of program development and design experience to create the ‘VitalLife Longevity Health Program.’ This program utilizes advanced technologies and scientific insights to help clients live longer, healthier lives. It begins with an in-depth assessment, personalized aging intervention, and the integration of wearable data and infrastructure, including the analysis of genetic and biological data to create a tailored healthcare plan.

Moreover, VitalLife uses innovative treatments to help slow the aging process at the cellular level, while closely monitoring health through wearable devices that track important health indicators daily, providing an accurate and up-to-date picture of client health. Advanced artificial intelligence technology is also employed to analyze client health data and predict individual risks for various diseases, allowing doctors to plan more targeted and personalized treatments. By integrating data and technology, VitalLife provides comprehensive, holistic healthcare that includes physical, mental, and emotional care, supporting our clients’ health and longevity.

Wanviput Sanphasitvong, MD, Business Development Director of VitalLife Scientific Wellness Center, stated that VitalLife uses science to develop innovations and healthcare programs tailored to the needs of each individual, focusing on diagnostic accuracy, personalized care, and lifestyle changes to help everyone live a long and healthy life. Additionally, the updated VitalLife recognizes the importance of client experience design and has developed its ‘Ecosystem of Care’ service concept, using the Golden Ratio as a principle of proportion and harmony. This creates a healthcare ecosystem that provides a positive, client-centric experience and conveniently addresses individual pain points at every step of the client journey.

By combining the science of longevity with cutting-edge technology, VitalLife, along with our team of specialist doctors who create unique wellness programs for our clients, is poised to lead the wellness revolution, enabling our clients to live long, healthy lives and build long-term healthy futures.