เวทีนานาชาติยอมรับนวัตกรรมนักวิทยาศาสตร์ไทย ตีพิมพ์ผลงานByeBye HIV ในวารสารวิจัยทางคลินิกภูมิคุ้มกัน

0
389

Clinical Immunology & Research วารสารวิจัยทางคลินิกภูมิคุ้มกันที่เผยแพร่งานวิจัยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับพื้นฐานโมเลกุลและเซลล์ของโรคภูมิคุ้มกัน  และบทวิจารณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าในสาขาพื้นฐานของภูมิคุ้มกัน รวมทั้งรายงานที่เกี่ยวข้อง   ได้ตีพิมพ์เนื้อหาการวิจัย   โดย “ Wiriyachitra P, Wiriyachitra S, Wonghiranyingyot S, et al. ByeByeHIV with Thai Innovation. Clin Immunol Res. 2024; 8(1): 1-7.”  ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับนวัตกรรม ByeBye HIV  โดย ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO และหัวหน้าคณะนักวิจัยฯ  บรรยายในงานประชุมวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีแห่งประเทศไทยครั้งที่ 49 (STT49)มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่

สถานการณ์ผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลกจำนวนเกือบ 40 ล้านคน มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ทั่วโลก 1.5 ล้านคน ผู้เสียชีวิตจากสาเหตุที่สืบเนื่องจากโรคเอดส์ 650,000 คน ในจำนวนนี้ 110,000 เป็นเยาวชน (อายุ 0-19 ปี) และปัจจุบันมีเยาวชนติดเชื้อเอชไอวี   2.7 ล้านคน (ข้อมูลปี 2021 : ที่มา UNAIDS และ Unicef)  และ ในประเทศไทยกลุ่มเยาวชนอายุ 15-19 ปี มีแนวโน้มอัตราการติดเชื้อจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 13% เป็น 14% ภายในปี พ.ศ. 2573   แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มความรุนแรงและผลกระทบจากโรคร้ายนี้ ทั้งทางด้านสุขภาพร่างกาย เศรษฐกิจและสังคมความเป็นอยู่ ของประเทศไทยและประชากรโลก

นักวิทยาศาสตร์ไทย ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา  ทุ่มเทคิดค้นงานวิจัยด้านการเพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกายด้วยพืชไทยมาอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะ เวลากว่า 40 ปี   ได้นำเสนอความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์ ของนวัตกรรม ByeBye HIV  ค้นพบการดูแลผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยด้วยการดูแลรักษาทางเลือก จนประสบความสำเร็จในการดูแลผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS รวมทั้งสิ้น 50 ราย มีสุขภาพแข็งแรง โดยใช้นวัตกรรมสูตรภูมิคุ้มกันบำบัด ByeByeHIV  ที่เกิดจากการเสริมฤทธิ์ของสารสกัดพืชไทย 5 ชนิด คือ มังคุด, งาดำ, ถั่วเหลือง, ฝรั่ง และบัวบก  ซึ่งเข้าไปกระตุ้นเม็ดเลือดขาวเซลล์ทีพิฆาต (Killer T Cell) ให้เลือกกำจัดเซลล์ที่ติดเชื้อ HIV ด้วยการมุ่งเป้า โดยไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์ปกติของร่างกาย และหลังจากประสบความสำเร็จจากการใช้นวัตกรรม ByeByeHIV ทุกรายมีสุขภาพที่แข็งแรงอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งเกิดขึ้นจากประสิทธิภาพของ นวัตกรรม ByeByeHIV ที่ซ่อมสร้างเทโลเมียร์ (เป็นส่วนปลายของโครโมโซม) ส่งผลให้เกิดการย้อนวัยและชะลอวัยอีกด้วย

ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา  ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ทุกรายที่ได้รับนวัตกรรม ByeByeHIV  มีสุขภาพที่แข็งแรงต่อเนื่อง นอกจากนี้นวัตกรรม ByeByeHIV ยังแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในผู้ที่ใช้ระยะยาว โดยมีผู้ป่วยติดเชื้อมาตั้งแต่กำเนิด รวมทั้งผู้ที่ใช้ยาบำบัดมาเกิน 28 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสูงระยะสุดท้าย เช่น มะเร็งที่สมอง ช่องท้อง และกระดูกสันหลัง ก็สามารถจัดการกับปัญหามะเร็ง รวมทั้งเชื้อ HIV โดยใช้สูตร นวัตกรรม ByeByeHIV เพียงอย่างเดียว และมีสุขภาพดีต่อเนื่องมา  9 ปี จนถึงปัจจุบัน อันแสดงถึงประสิทธิภาพของนวัตกรรม ByeByeHIV ในการกระตุ้น Killer T Cell ให้กำจัดทั้งเซลล์ติดเชื้อ และเซลล์มะเร็งด้วยกลไกเดียวกัน 

ทั้งนี้  ผู้สนใจสามารถสืบค้นข้อมูลในวารสารClinical Immunology & Research   Abstract | ByeByeHIV with Thai Innovation (scivisionpub.com) ที่เรียบเรียงโดย “ Wiriyachitra P, Wiriyachitra S, Wonghiranyingyot S, et al. ByeByeHIV with Thai Innovation. Clin Immunol Res. 2024; 8(1): 1-7.”  

นับว่าเป็นความสำเร็จอีกขั้นของนักวิทยาศาสตร์ไทยในการก้าวสู่การรับรู้ในระดับนานาชาติ ในการเยียวยาผู้ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ป่วยโรคเอดส์ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถใช้ชิวิตและอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ลดภาระทางสังคมเศรษฐกิจของประเทศ  ประกอบกับความมุ่งมั่นในการค้นคว้าวิจัยนวัตกรรมเพื่อเอาชนะปัญหาจากโรคร้ายที่ก่อให้เกิดความสูญเสียและเสียหายต่อประชากรไทย ที่ส่งผลถึงเศรษฐกิจและการแข่งขันของประเทศ