เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566 ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารที่ทำการสำนักงาน คปภ. จังหวัดจันทบุรี แห่งใหม่ โดยมี นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวต้อนรับ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตลอดจนสื่อมวลชนร่วมงานและแสดงความยินดี
เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่าเหตุที่มีการย้าย สำนักงาน คปภ. จังหวัดจันทบุรี มายังที่ทำการแห่งใหม่ เนื่องจากที่ทำการเดิมมีพื้นที่ใช้สอยเพียง 150 ตารางเมตร ซึ่งไม่เพียงพอในการรองรับงานและการให้บริการประชาชน สำนักงาน คปภ. จึงได้ดำเนินการจัดซื้ออาคารเพื่อเป็นที่ทำการแห่งใหม่ เป็นอาคาร 3 ชั้นครึ่ง เลขที่ 999/2 ถนนตากสิน ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี มีพื้นที่ใช้สอย 189.70 ตารางเมตร ซึ่งสามารถรองรับภารกิจงานได้เพียงพอ มีพื้นที่ให้บริการประชาชนกว้างขวางมากขึ้น สามารถจัดให้มีห้องไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ห้องสอบนายหน้าประกันภัย และห้องประชุม จึงสามารถอำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชนผู้เอาประกันภัย และผู้มีส่วนได้เสีย รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่มาติดต่อขอรับบริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และมีมาตรฐานในการให้บริการมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การปฏิบัติงานของสำนักงาน คปภ. จังหวัดจันทบุรีแห่งใหม่นี้ จะนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ มีระบบฐานข้อมูลด้านการประกันภัย รวมทั้งมีการเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับหน่วยงานเครือข่าย
ในปี 2565 จังหวัดจันทบุรี มีเบี้ยประกันภัยรับรวมกว่า 7,764 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับปี 2564 แยกเป็นเบี้ยประกันชีวิตกว่า 6,283 ล้านบาท เบี้ยประกันวินาศภัย 1,481 ล้านบาท และการถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิตและกรมธรรม์ประกันวินาศภัยต่อจำนวนประชากรในพื้นที่ พบว่า มีอัตราร้อยละ 58 และร้อยละ 48 มีสาขาบริษัท สำนักงานตัวแทน-นายหน้าประกันภัย 42 แห่ง จำนวนตัวแทน-นายหน้าประกันภัย 888 คน และธนาคารพาณิชย์ 60 แห่ง ส่งผลให้ธุรกิจประกันภัยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีเป็นอย่างมาก
ด้านนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า สำนักงาน คปภ. ถือเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่ที่สำคัญอย่างยิ่งในการกำกับ ส่งเสริม และพัฒนาธุรกิจประกันภัยในการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ รวมถึงการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัยตามสัญญาประกันภัย รวมทั้งช่วยส่งเสริมให้ประชาชนจันทบุรีและประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการนำระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง เมื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ตลอดจนให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกรวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการติดตามการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของบริษัทประกันภัยให้แก่ผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงทีและเป็นธรรม ซึ่งจะส่งผลในการพัฒนาจังหวัดและการให้บริการประชาชนได้อย่างดียิ่ง สอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อพัฒนาจังหวัดจันทบุรี ให้เป็นเมืองเศรษฐกิจการเกษตร โดยพืชผลทางเกษตรที่สำคัญ ได้แก่ ทุเรียน ยางพารา ลำไย และมังคุด ซึ่งสำนักงาน คปภ. ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการส่งเสริมให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยโดยเฉพาะรองรับ เช่น ประกันภัยทุเรียน และประกันภัยพืชผลอื่น ๆ
“จากสถิติการถือครองกรมธรรม์ประกันภัยในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีทั้งในส่วนของประกันชีวิตและประกันวินาศภัยที่มีตัวเลขค่อนข้างน้อย รวมทั้งสภาพภูมิประเทศของจังหวัดนี้ที่อยู่ติดชายแดน ตลอดจนการประกอบอาชีพที่มีทั้งภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมอื่นมีความหลากหลาย จึงถือเป็นความท้าทายและภารกิจสำคัญของสำนักงาน คปภ. จังหวัดจันทบุรีที่จะต้องเร่งทำงานในเชิงรุกในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเพื่อให้ชาวจังหวัดจันทบุรีเข้าถึงประกันภัยได้มากขึ้น การส่งเสริมให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนในพื้นที่ การคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านการประกันภัยเชิงรุก การนำระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. จังหวัดจันทบุรีแห่งใหม่นี้ พร้อมแล้วที่จะปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มความสามารถและจะบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนอย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและการปฏิบัติภารกิจในทุก ๆ มิติ” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย