ธนาคารกรุงไทย ประกาศความร่วมมือกับ 6 องค์กรพันธมิตรในการพัฒนานวัตกรรมที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ โดยเฉพาะการลดความเสี่ยงจากการหกล้มและกระดูกหัก รวมถึงการหักซ้ำ เพื่อเสริมสร้างระบบสุขภาพในประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกช่วงวัยอย่างแท้จริง
นายธวัชชัย ชีวานนท์ ประธานบริหาร Product and Solution ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ มุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาบริการด้านสุขภาพและการรักษาพยาบาล ซึ่งเป็น 1 ใน 5 Ecosystem ที่ธนาคารกรุงไทยให้ความสำคัญเสมอมา เพื่อส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เชื่อมโยงข้อมูลและบริการต่าง ๆ โดยล่าสุดได้ร่วมขับเคลื่อนโครงการพัฒนานวัตกรรมการจัดการด้านการดูแล ติดตามและเฝ้าระวังทางสุขภาพของผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้มและกระดูกหัก รวมถึงการหักซ้ำ ซึ่งเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย และสมาคมออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย โดยธนาคารได้นำเทคโนโลยีการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Krungthai Digital Health Platform มาต่อยอดผ่านกระเป๋าสุขภาพบนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจสอบสิทธิ การยืนยันตัวตน และการเข้าถึงประวัติการรักษาแบบเรียลไทม์ รวมทั้ง ธนาคารยังได้พัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับหน่วยบริการทางการแพทย์เพื่อช่วยในการบริหารจัดการคนไข้ และการส่งเบิกเคลม โดยมุ่งเน้นการให้บริการที่รวดเร็วและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้แก่หน่วยบริการให้ดียิ่งขึ้น
“โครงการนี้เกิดขึ้นจากการรวมพลังขององค์กรชั้นนำจากหลายภาคส่วน ทั้งจากวงการแพทย์ หน่วยงานภาครัฐ และสถาบันการเงิน เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยโดยรวม โดยเฉพาะในเรื่องสุขภาพของผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงอันดับต้นๆ ที่ได้รับการบาดเจ็บจากการพลัดตกหกล้มและกระดูกหัก การพัฒนาระบบการเฝ้าระวังและป้องกันได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของระบบสุขภาพในประเทศไทย ยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพ ช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ตามวิสัยทัศน์ กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน”