ไม่เปลี่ยน ไม่รอด…! Merz Aesthetics Thailand ส่งแคมเปญ ‘Merz always with you’ New Normal Aesthetics Business กับการปรับตัวให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในช่วงโควิด-19

0
1620

ด้วยสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 หลายธุรกิจต่างประสบปัญหา หรือถึงขั้นต้องหยุดกิจการชั่วคราวหรือปิดกิจการ รวมถึงผู้บริโภคที่ไม่อาจใช้ชีวิตได้แบบเดิม ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ถูกหยิบยกประเด็นขึ้นมากล่าวถึงกันเป็นจำนวนมากในหลายกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะ “ธุรกิจคลินิกความงาม” เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคและรูปแบบธุรกิจได้ถูกบังคับให้เปลี่ยนแปลงไปจากโลกก่อนหน้าวิกฤตโควิด-19 นี้​ และเมื่อวิกฤตโควิด-19 มาเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมให้สอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่ (New Normal)
เมิร์ซ เอสเธติกส์ ผู้นำนวัตกรรมความงามจากเยอรมนี จึงส่ง ‘Merz Always with You’ แคมเปญเพื่อการสื่อสารกับการปรับตัวให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในช่วงโควิด-19 เพื่อสร้างความมั่นใจต่อคู่ค้าและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่องเพราะถึงแม้จะล็อกดาวน์ ก็ไม่ทำให้ธุรกิจต้องสโลว์ดาวน์เสมอไป พลิกวิกฤตโควิด-19 ด้วย Digital Transformationสถานการณ์ในปัจจุบันทำให้ผู้คนใช้เวลาอยู่ในโลกออนไลน์มากขึ้น การตลาดและการสื่อสารผ่านทางออนไลน์จึงทวีความสำคัญมากขึ้นกว่าเดิม โดยข้อมูลจาก realself.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลด้านศัลยกรรมเพื่อความงานระบุว่า “แพทย์ที่มีช่องทางให้บริการปรึกษาผ่านออนไลน์ (virtual consultation) จะได้รับการติดต่อสอบถามมากกว่ากลุ่มที่ไม่มีบริการดังกล่าวถึง 3 เท่า” เมิร์ซเอสเธติกส์ จึงจับมือกับ 3 ผู้เชี่ยวชาญส่งวิดีโอ คอนเทนต์เพื่อแชร์เคล็ดลับการดูแลผิวหน้าในช่วงที่ต้อง Work from home  ซึ่งการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าบนโซเชียลมีเดียจึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยสร้างความแตกต่างให้แพทย์/คลินิก และนำไปสู่การให้บริการที่หน้าร้านเมื่อสถานการณ์ทุกอย่างคลายล็อกดาวน์

นอกจากนั้น ในแง่ของการให้ความรู้กับแพทย์ และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ทางเมิร์ซยังได้มีการจัดการเรียนรู้ออนไลน์ (webinar) ทั้งหมด 9 ครั้งในช่วงที่คลินิกเปิดให้บริการไม่ได้ โดยวิทยากรที่เป็นแพทย์ชาวไทย และต่างชาติ ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องความงามในรูปแบบต่างๆ เพื่อแบ่งปันความรู้และข้อมูลอัพเดทล่าสุดให้กับแพทย์และคลินิกที่เป็นคู่ค้าของเมิร์ซอีกด้วย

“นวัตกรรมที่ก้าวหน้าและการสร้างสุขภาพดีแบบองค์รวม” เทรนด์ใหม่ในธุรกิจคลินิกความงาม ปัจจุบัน เราคุ้นเคยกับคำว่า Anti-Aging ในมุมของความสวยงาม และการทำให้ดูอ่อนกว่าวัย แต่จริงๆ แล้ว Anti-Aging ไม่ได้เป็นศาสตร์เกี่ยวกับความสวยงาม หรือเกี่ยวกับผิวพรรณทางใดทางหนึ่ง เพียงอย่างเดียว แต่เป็นศาสตร์ทางการแพทย์แขนงใหม่ ที่เน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม(Holistic Medicine) ซึ่งการสร้างสุขภาพดีแบบองค์รวม เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์ความงามที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เพราะคนในยุคนี้ต้องการมีสุขภาพที่ดี พร้อมกับคงความเป็นหนุ่มสาวโดยปราศจากโรคภัยให้นานที่สุด และยังดูดีได้ทั้งภายนอกและภายใน สอดคล้องกับพันธกิจหลักของเมิร์ซ ที่ยึดถือปฎิบัติมานานกว่า 111 ปี นั่นคือ Live Better, Feel Better, Look Better ดังนั้น การดูแลสภาพผิวด้วยวิธีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการยกกระชับให้รูปหน้าเรียวขึ้น หรือการเติมเต็มให้ดูอิ่มเอิบ โดยใช้กลุ่มสารประเภทฟิลเลอร์และการใช้สารเพื่อลดเลือนริ้วรอย จะยิ่งได้รับความนิยมมากกว่าเดิม เนื่องจากการบำรุงเฉพาะครีมทาผิว อาจไม่สามารถลงลึกได้ถึงผิวชั้นในที่เกิดการหย่อนคล้อย (ชั้นกล้ามเนื้อบนใบหน้า) หรือแม้กระทั่งการทำ Treatment เพื่อช่วยในเรื่องของ ความสุขและสงบทางจิตใจ (Peace & Mindfulness) ที่เกิดจากความพึงพอใจในรูปร่างหน้าตาของตนเอง ส่งผลให้สุขภาพจิตดีขึ้นอีกด้วย“ตลาดโดยรวมน่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ดี ลูกค้าที่กลับมารับบริการอีกครั้งจะใส่ใจกับคุณภาพของผิวมากขึ้น ผลิตภัณฑ์กลุ่ม​    microinjection และ filler จะเป็นที่นิยมยิ่งกว่าเดิม และเมื่อคนเราให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น การแพทย์เพื่อความงามจะเริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสุขภาพดีในภาพรวม เป็นส่วนที่ช่วยให้แต่ละคนมีความมั่นใจและความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม” บ๊อบ ราธิกาน ซีอีโอของเมิร์ซ เอสเธติกส์ กล่าว​New Normal Aesthetics Business ถึงจะ Slow แต่มั่นใจว่าหลังวิกฤตโควิด-19 ธุรกิจยังคงเติบโตเดวิด แอมเซลแลม กรรมการบริหาร นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัทไปเปอร์ แซนด์เลอร์ สหรัฐอเมริกา ให้ความเห็นว่า “วิกฤตโควิด-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเสริมความงามแต่อย่างใด นักลงทุนยังคงมองว่าการแพทย์เพื่อความงามเป็นวงการที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว เต็มไปด้วยนวัตกรรมและยังมีโอกาสโตได้อีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจชีวเภสัชภัณฑ์และสินค้าเพื่อความงามยังเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับตลาดในภาพรวม ซึ่งปัจจัยเชิงบวกที่ส่งผลให้ธุรกิจเสริมความงามยังมีแนวโน้มที่ดี ได้แก่

1. ฐานลูกค้าการแพทย์เพื่อความงามที่กว้างกว่าวิกฤตเศรษฐกิจรอบก่อนๆ
2. คนทั่วไปมองว่าการแพทย์เพื่อความงามเป็นส่วนหนึ่งของสุขภาพที่ดีแบบองค์รวมมากขึ้น
3. นวัตกรรมที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วและนำไปสู่ผลลัพธ์ในการรักษาดีขึ้น ทำให้ผู้สนใจเข้ารับบริการมากขึ้นตามลำดับ

เภสัชกรหญิง กิตติวรรณ รัตนจันทร์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์ ไทยแลนด์ กล่าวว่า “ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส แต่ไม่ใช่ทุกธุรกิจที่จะมีโอกาส เรามี 2 สิ่งสำคัญที่ต้องโฟกัส คือ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าทั้ง B2B และ B2C ด้วยช่องทาง Online และยกระดับทุกการสื่อสารเพื่อสร้าง Customer Experience ที่ดี ดังนั้น เมิร์ซ เอสเธติกส์ ผู้นำนวัตกรรมความงามจากเยอรมัน จึงส่ง ‘Merz Always with You’ แคมเปญเพื่อสื่อสารการตลาดเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในช่วงโควิด-19 และสร้างความมั่นใจต่อคู่ค้า โดยมุ่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะย่างยิ่งการสวมหน้ากากยังทำให้ดวงตาและหน้าผากยิ่งเด่นขึ้น ปัจจัยแวดล้อมเหล่านี้อาจนำไปสู่การขยายตัวของบริการด้านความงามโดยเฉพาะการฉีดท็อกซินบริเวณที่โผล่พ้นหน้ากากอนามัย ทั้งนี้ เมิร์ซ เอสเธติกส์ ยังคงดูแลผู้ให้บริการและคลินิกอย่างต่อเนื่องโดยการช่วยเหลือในเรื่องราคา และความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์ พร้อมกับการสร้างกระแสความต้องการในหมู่ผู้บริโภคผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ และช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงผู้ให้บริการได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาเอกสารให้ความรู้ต่างๆ เพื่อสร้างกระแสความต้องการในหมู่ผู้บริโภคทั้งภายในและภายนอกคลินิก การอบรมและการเรียนรู้ทางออนไลน์ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากผลตอบรับที่ได้ทำให้เรามั่นใจว่าเมื่อสถานการณ์ทุกอย่างคลายล็อกดาวน์แล้ว ผู้บริโภคจะยังนึกถึงวิดีโอ คอนเทนต์จากคุณหมอ และเกิดบทสนทนาบนโลกออนไลน์ จนนำไปสู่การรับบริการที่คลินิก”

“อย่างไรก็ดี เราคาดการณ์ว่าด้วยจำนวนฐานลูกค้าที่กว้างขึ้นและค่อนข้างเข้มแข็ง การนำเสนอบริการด้วยแนวคิดมอบผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมาย (over-delivery / under-promise) จะส่งผลให้ธุรกิจเสริมความงามกับ New Normal Aesthetics Business หลังวิกฤตโควิด-19 ยังคงเติบโต และคาดการณ์ว่าจะกลับมาเป็นปกติในปลายเดือนมิถุนายน” เภสัชกรหญิง กิตติวรรณ กล่าวปิดท้าย