ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ เผย 4 ไอเทมล่าสุดที่สะท้อนไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในยุค New Normal

0
1338

จากดัชนีใน “รายงานความมั่งคั่งและไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก ประจําปี 2021”

สอดรับกับกระแสการลงทุนอย่างยั่งยืนเพื่อสร้างความมั่นคงในระยะยาว

ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ เผย “รายงานความมั่งคั่ง และไลฟ์สไตล์จากทั่วโลกประจำปี 2021” (Global Wealth and Lifestyle Report 2021 – GWLR) ที่จัดทำขึ้นโดยจูเลียส แบร์ (Julius Baer) ผู้นำธุรกิจบริหารความมั่งคั่งชั้นนำระดับโลกจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำเสนอข้อมูล และผลการวิเคราะห์เทรนด์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค เพื่อสะท้อนแนวโน้มหลักด้านการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน และสถานการณ์ตลาดค้าปลีกในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยดัชนีล่าสุดนี้ได้เปิดเผย 4 ไอเทมหลักที่บ่งบอกให้เห็นถึงกระแสรักสุขภาพ และใส่ใจสิ่งแวดล้อม ได้แก่ จักรยาน เทคโนโลยี ลู่วิ่งออกกำลังกาย และประกันสุขภาพ สอดรับกับกระแสการลงทุนที่นักลงทุนในปัจจุบันให้ความสนใจในการลงทุนอย่างยั่งยืนเพื่อสร้างความมั่นคงในระยะยาว

กลุ่มสินค้าและบริการที่เพิ่มเข้ามาในดัชนีฉบับล่าสุดโดยจูเลียส แบร์ ได้จัดทำขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงเทรนด์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในยุค New Normal เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 และข้อจำกัดต่าง ๆ ส่งผลให้สินค้าและบริการ เช่น แกรนด์เปียโน งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส บริการด้านความงาม และเทรนเนอร์ไม่รวมอยู่ในดัชนีปีนี้ ซึ่ง4 ไอเทมหลักที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากมีดังต่อไปนี้ 

  1. จักรยาน ถือเป็นภาคการค้าปลีกที่เติบโตอย่างรวดเร็วในโลกที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้กระทั่งในช่วงก่อนเกิดโรคระบาด โดยพบว่ามียอดขายจักรยานเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงปี 2020 การปั่นจักรยานช่วยเอื้อประโยชน์ด้านสุขภาพจากการออกกำลังกาย และยังช่วยลดการใช้ระบบขนส่งสาธารณะของประชาชน นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มเม็ดเงินอุดหนุนจากรัฐบาลของเมืองต่าง ๆ รอบโลกที่คว้าโอกาสในการลดปัญหาการจราจร รวมถึงส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยหันมาใช้รูปแบบการคมนาคมที่คำนึงถึงสภาพอากาศมากขึ้น เราได้รวมจักรยานไว้เป็นหนึ่งในรายการสินค้าใหม่ในดัชนีไลฟ์สไตล์ของเราเป็นครั้งแรกเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์สำคัญนี้ โดยดัชนีไลฟ์สไตล์ของเราแสดงให้เห็นถึงข้อมูลโดยรวมว่าในเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล การซื้อจักรยานเสือหมอบ (Road bike) คุณภาพสูงนั้นมีราคาแพงมากที่สุด เพราะมีอัตราภาษีนำเข้าอยู่ในระดับสูงมาเป็นเวลานาน ซึ่งเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย มีราคาแพงน้อยที่สุดเพราะอัตราภาษีสินค้าและบริการในระดับที่น่าดึงดูดใจ รวมถึงมีฐานการผลิตในประเทศที่แข็งแกร่งและช่วยผลักดันยอดขาย ข้อมูลจากดัชนีของเราระบุว่าเอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีราคาจักรยานเสือหมอบถูกที่สุดในโลก แม้ว่าจะนับรวมสถิติของมะนิลาในประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งมีภาษีการขายค่อนข้างต่ำแต่เป็นเมืองที่แพงที่สุดเป็นอันดับสองในด้านราคาจักรยานเสือหมอบ โดยเมืองที่มีราคาแพงที่สุดสำหรับการซื้อจักรยานเสือหมอบกระจายตัวอยู่ทั้งในภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา 

  1. เทคโนโลยี ความจำเป็นในการอยู่บ้านเพื่อกักตัวรักษาระยะห่างของผู้คนในช่วงการระบาดของโควิด-19 ในปีที่ผ่านมานี้ ส่งผลให้ความสามารถในการเชื่อมต่อจากระยะไกลมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปี 2020 ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตประมาณ 4.5 พันล้านคนทั่วโลก โดยใช้เวลาเกือบหนึ่งในสามของทุกวันบนโลกออนไลน์ ซึ่งมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์เป็นการใช้งานบนโซเชียลมีเดีย และเนื่องด้วยแนวโน้มความต้องการด้านการเชื่อมต่อดิจิทัลอย่างต่อเนื่องที่นับวันก็ยิ่งจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เราจึงได้รวมแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่ขายพร้อมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (แพ็กเกจเทคโนโลยี) บนอุปกรณ์สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เป็นหนึ่งในรายการใหม่ในดัชนีของเราเป็นครั้งแรกเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงด้านไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคนี้ นอกจากนี้ ดัชนีของเรายังระบุว่าเซาเปาโลเป็นเมืองที่แพงที่สุดในการซื้อแพ็กเกจเทคโนโลยีสะท้อนให้เห็นถึงต้นทุนที่สูงในการนำเข้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มายังประเทศบราซิล ด้านจาการ์ตาเป็นเมืองที่มีราคาแพ็กเกจเทคโนโลยีถูกที่สุดในดัชนีของเรา สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการเชื่อมต่อดิจิทัลกับประเทศอินโดนีเซียซึ่งเป็นตลาดโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก จากข้อมูลนี้ เรามองว่าเอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีราคาเข้าถึงได้มากที่สุด (Most affordable region) สำหรับรายการสินค้าใหม่นี้ ในขณะที่ยุโรปเป็นภูมิภาคที่มีราคาเข้าถึงได้ยากที่สุด ซึ่งหลายเมืองในยุโรปมีค่าแพ็กเกจเทคโนโลยีแพงที่สุด รวมถึงมิลานที่มาในอันดับสองรองจากเซาเปาโล

  1. ลู่วิ่งออกกำลังกาย ในดัชนีปีนี้มีข้อมูลที่ระบุว่าผู้ฝึกสอนส่วนบุคคล (เทรนเนอร์) ถูกแทนที่ด้วยลู่วิ่งเพื่อสะท้อนถึงความต้องการในการออกกำลังกายที่บ้านมากขึ้น แม้ว่าโปรแกรมการออกกำลังกายต่าง ๆ จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ด้วยมาตรการด้านความปลอดภัยเพื่อรับมือกับการปิดของโรงยิม และศูนย์ออกกำลังกายทั่วโลกในช่วงการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ ทำให้หลายคนต้องนำโปรแกรมการออกกำลังกายส่วนตัวมาปฏิบัติที่บ้านของตนเอง เฉพาะในสหรัฐอเมริกาประเทศเดียว มียอดขายลู่วิ่งระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนตุลาคม 2020 เพิ่มขึ้นถึง 135 เปอร์เซ็นต์ และรายได้จากการขายอุปกรณ์เพื่อสุขภาพและฟิตเนสได้เพิ่มสูงขึ้นถึงสองเท่าในช่วงเวลาเดียวกัน ในปัจจุบัน ด้วยตารางเวลาที่ยืดหยุ่น และการที่ผู้ให้บริการฟิตเนสหลายรายได้หันมาเปิดบริการแบบออนดีมานด์ ส่งผลให้เทรนด์การรักสุขภาพที่บ้านเติบโตขึ้นในระยะยาว ทวีปอเมริกาถือเป็นภูมิภาคที่มีสนนราคาของลู่วิ่งที่ถูกที่สุด โดยเม็กซิโกซิตี้เป็นเมืองที่มีราคาเข้าถึงได้มากที่สุดโดยรวม (Most affordable city) แม้แต่เซาเปาโลซึ่งเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแสนแพงก็ยังอยู่ในอันดับกลางในหมวดหมู่นี้ ยุโรปเป็นภูมิภาคที่มีราคาแพงที่สุดในโลกสำหรับรายการนี้ โดย 5 ใน 10 เมืองที่ราคาลู่วิ่งแพงที่สุดต่างอยู่ในยุโรป เช่น  มอสโก และซูริกอยู่ที่ 3 และ 4 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม 2 เมืองที่ติดอันดับลู่วิ่งราคาแพงที่สุดในโลกกลับอยู่ในเอเชีย ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ และโตเกียวตามลำดับ ซึ่งสะท้อนถึงค่าครองชีพที่สูงลิ่วในการอาศัยอยู่ในใจกลางเมืองเหล่านี้

  1. ประกันสุขภาพ การให้บริการด้านเฮลธ์แคร์ และสุขภาพเป็นสิ่งที่ผู้คนต่างหันมาให้ความสำคัญมากขึ้นอย่างยิ่งในปีที่ผ่านมา และเนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานทางการแพทย์ทั่วโลกต้องมาเผชิญกับสถานการณ์ที่เป็นบททดสอบถึงขีดจำกัด ทำให้ผู้คนและครอบครัวต่างหันมาให้ความสนใจในด้านการรักษาสุขภาพ คาดว่าอุตสาหกรรมการประกันสุขภาพทั่วโลกจะเติบโตในอัตราร้อยละ 4.7 ต่อปีระหว่างปัจจุบันจนถึงปี 2027สะท้อนให้เห็นถึงการจัดลำดับความสำคัญของผู้มั่งคั่งในด้านการทำประกันสุขภาพในปีต่อ ๆ ไปหลังจากนี้ การจัดอันดับสำหรับรายการใหม่บนดัชนีนี้แสดงถึงความแตกต่างด้านราคาอย่างเห็นได้ชัดในระดับภูมิภาค อาจขึ้นอยู่กับโครงสร้างพื้นฐานทางการแพทย์ของแต่ละประเทศ รวมถึงว่ามีการดูแลสุขภาพที่ทางรัฐจัดให้แก่ประชาชน โดยเมืองที่มีราคาประกันสุขภาพแพงที่สุดและต่ำที่สุดคือ กรุงเทพฯ และเซี่ยงไฮ้เป็นสองเมืองที่ตั้งอยู่ในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งโดยรวมแล้วเป็นภูมิภาคที่มีราคาไม่แพงมากสำหรับบริการเหล่านี้ โดยข้อมูลแสดงถึงส่วนต่างของราคาที่สำคัญ เช่น กรุงเทพฯ มีราคาแพงเกินค่ามาตรฐาน ทวีปอเมริกาเป็นภูมิภาคที่มีราคาแพงที่สุดสำหรับการทำประกันสุขภาพ โดยยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกามีค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยน้อยกว่าการประกันสุขภาพในอเมริกา อย่างไรก็ตาม พบว่ามีการกระจายตัวของกลุ่มเมืองที่มีราคาแพงที่สุดสำหรับรายการนี้ ได้แก่ โจฮันเนสเบิร์ก มิลาน โมนาโก ปารีส กรุงเทพฯ และแวนคูเวอร์ 

ด้านภาพรวมของความมั่งคั่งและไลฟ์สไตล์จากทั่วโลกปี 2021 ของเอเชียแปซิฟิก แสดงให้เห็นว่าผู้คนในเอเชียปัจจุบันยังตระหนักว่าการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยเหล่านี้ถือเป็นการลงทุนที่อาจช่วยรักษาความปลอดภัย และเพิ่มความมั่งคั่งได้ในอนาคต ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการลงทุน การเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจในเอเชียได้สร้างความมั่งคั่งจำนวนมหาศาล จึงก่อให้เกิดความแออัดยัดเยียดของสังคมเมือง และด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้เกิดความคาดหวังในคุณภาพชีวิตที่สูงขึ้น  รวมถึงแรงกดดันต่อการจัดหาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ดังนั้น ผู้มีรายได้สูงต่างหันมาแสวงหาอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนนอกภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ ‘ที่อยู่อัจฉริยะ’ (Smart address) เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่รุ่นต่อไป นอกจากนี้ในตลาดเอเชียยังมีแรงอุปสงค์ขับเคลื่อนธุรกิจของฝั่งตะวันตกโดยแบรนด์ต่าง ๆ ได้จัดทำสินค้าลิมิเต็ดเอดิชันที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะพร้อมกลิ่นอายเอเชียในคอลเลกชัน และการเปิดตัวแฟล็กชิปสโตร์ในตลาดเอเชียขึ้น ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าภูมิภาคเอเชียมีสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่มีอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นมากกว่าภูมิภาคอื่น ๆ ของโลก

กรุงเทพมหานครยังคงเป็นหนึ่งในเมืองที่แพงที่สุดในโลกสำหรับเครื่องแต่งกาย โดยชุดสูทคุณภาพดีจะมีราคามากกว่าราคาเฉลี่ยระดับสากลถึง 5 เท่า ถึงแม้ว่ากรุงเทพฯ จะเป็นเมืองในฝันของเหล่านักช้อปแต่ในรายงานระบุว่าในปี 2020 ผู้หญิงที่ซื้อรองเท้าส้นสูงจากดีไซเนอร์จะจ่ายน้อยลงราว ๆ 17 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปี 2019 ซึ่งถือว่ามีการจับจ่ายในหมวดสินค้าเครื่องประดับ กระเป๋าถือ น้อยลง เนื่องด้วยจากผลกระทบของโรคโควิด-19 นอกจากนี้กรุงเทพฯ ยังคงเป็นจุดหมายแห่งการช้อปปิ้งยอดนิยมสำหรับผู้มาเยือนจากต่างประเทศเนื่องด้วยต้นทุนของเที่ยวบินชั้นธุรกิจ และห้องสวีทของโรงแรมที่ต่ำกว่าระดับตลาดสากล และนักลงทุนสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ในเมืองในราคาที่ต่อรองได้ โดยมีราคาเกือบครึ่งหนึ่งของค่าเฉลี่ยอสังหาฯ ทั่วโลก ซึ่งตลาดในกรุงเทพฯ มีจำนวนอสังหาริมทรัพย์เพียงพอสำหรับผู้ซื้อ จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนที่ร่ำรวยจำนวนมากต่างพากันมาซื้อบ้านหลังที่สองในกรุงเทพฯ

มร. โจเซฟ คาเซราส กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารฝ่ายแนะนำการลงทุน และผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด กล่าวว่า “เราเชื่อว่าการลงทุนอย่างยั่งยืนเป็นกุญแจสำคัญในการรับประกันผลตอบแทนในระยะยาวให้กับลูกค้าของเรา โดยเทรนด์การลงทุนด้านรักษ์สิ่งแวดล้อมนั้นมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้น เห็นได้จากการใช้จักรยานที่เพิ่มขึ้นหรือการหันมาใช้ยานพาหนะไฟฟ้าที่มีการปล่อยไอเสียเป็นศูนย์ ดังนั้น นักลงทุนควรที่จะเลือกสรรการลงทุนกับบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ มั่นคง และมีงบดุลที่ดี รวมทั้งยังต้องเป็นบริษัทที่คำนึงถึงความรับผิดชอบใน 3 ด้านหลักได้แก่ สิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) หรือที่เรียกกันในหมู่นักลงทุนว่า ESG ซึ่งในยุคปัจจุบันที่ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น นักลงทุนควรมองหาการลงทุนที่ยืดหยุ่น (Core Satellite Approach) และควรกระจายความเสี่ยงในการลงทุนไม่ควรที่จะลงทุนแค่ผลิตภัณฑ์ตัวใดตัวหนึ่ง โดยบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ พร้อมที่จะนำความเชี่ยวชาญ โดยมีทีม Expert Advisory ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนที่มีความรู้ และมีประสบการณ์ ความสามารถด้านการบริหารความมั่งคั่งที่ได้มาตรฐานของจูเลียส แบร์ให้คำแนะนำ และเป็นที่ปรึกษาให้กับลูกค้าคนสำคัญเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารพอร์ตได้อย่างยืดหยุ่น สร้างความยั่งยืนได้ในระยะยาว

ข้อมูลเกี่ยวกับ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด

บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์ และ จูเลียส แบร์ เพื่อมอบเอกสิทธิ์การให้คำแนะนำและบริการเหนือระดับที่ตรงกับความต้องการของนักลงทุนความมั่งคั่งสูงในประเทศไทยโดยเฉพาะ โดยความร่วมมือกันในครั้งนี้ ได้ผสานความเชี่ยวชาญและความแข็งแกร่งในประเทศไทยของธนาคารไทยพาณิชย์ ผนึกกำลังกับความเชี่ยวชาญด้านการบริหารความมั่งคั่งในระดับสากลของจูเลียส แบร์ เพื่อตอบสนองทุกเป้าหมายทางการเงินของนักลงทุนไทยในภูมิภาคเอเชีย

ผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-098-9999 | www.scbjuliusbaer.com | contact@scbjuliusbaer.com