ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกับ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ยกระดับความร่วมมือในการทำธุรกรรมสัญญาอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน โดยนำผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ขององค์กรมาใช้เพื่อการพิจารณาอัตราดอกเบี้ย (ESG-Linked Interest Rate Swap) ซึ่งมีผลต่อต้นทุนทางการเงินขององค์กร นับเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากความร่วมมือในการทำสัญญาอนุพันธ์อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THOR ในปีที่ผ่านมาให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โดยกำหนดหลักเกณฑ์พิจารณาจาก 3 องค์ประกอบ ดังนี้ 1. ผลดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) 2. ผลการกำกับดูแลกิจการที่ดี (CG Score) ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย และ 3. ความสามารถในการลดปริมาณการใช้พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียว ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดรับกับบริบทสากลที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการลดโลกร้อนและสร้างโลกที่สมดุลพร้อมก้าวไปในอนาคตอย่างยั่งยืน
นายแพททริก ปูเลีย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทั่วโลกให้ความสำคัญกับแนวคิดในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยประเด็นเรื่อง สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ได้กลายเป็นสิ่งที่ถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์และใช้ประกอบการตัดสินใจในภาคธุรกิจและการลงทุนอย่างกว้างขวาง ธนาคารไทยพาณิชย์ จึงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ 3 เสาหลัก คือ การเงินที่ยั่งยืน สังคมแห่งคุณค่า และสิ่งแวดล้อมเพื่ออนาคต โดยพยายามที่จะสนับสนุนแนวคิดธุรกิจยั่งยืนไปยังกลุ่มลูกค้าผ่านผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินในรูปแบบต่างๆ ทั้งในตลาดการเงินและตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง และครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญของการต่อยอดคุณค่าในเรื่อง ESG เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากการทุ่มเททำสิ่งที่ดีให้กับสังคมและโลก โดยธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกับ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ริเริ่มนำผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ขององค์กร มาใช้เป็นองค์ประกอบในการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยสำหรับธุรกรรมสัญญาอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน (ESG-Linked Interest Rate Swap) ซึ่งเป็นการต่อยอดความร่วมมือจากการทำสัญญาอนุพันธ์ที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THOR ในปีที่ผ่านมาให้มีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น และยังช่วยเสริมสร้างสภาพคล่องในตลาดเพื่อรองรับการใช้อัตราดอกเบี้ย THOR อย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย ทั้งนี้ บริษัทไมเนอร์ฯ นับเป็นองค์กรที่ประสบความสำเร็จในการนำ ESG มาใช้ดำเนินธุรกิจ จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้รับประโยชน์ทางด้านการเงินจากธนาคารไทยพาณิชย์ หากสามารถทำผลงานด้าน ESG ได้ตามข้อตกลงร่วมกัน โดยมุ่งหวังว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยจุดประกายให้ธุรกิจไทยตื่นตัวกับเรื่อง ESG มากขึ้น มองเห็นประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่จะได้รับ ซึ่งธนาคารไทยพาณิชย์พร้อมที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และให้บริการทางด้านอนุพันธ์อื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับ ESG เพื่อรองรับความต้องการของภาคธุรกิจทุกกลุ่มต่อไป
นายไบรอัน เจมส์ เดลานี่ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ถึงแม้การแพร่ระบาดจากสถานการณ์โควิด-19 จะส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อธุรกิจอาหารและโรงแรมซึ่งเป็นธุรกิจหลักขององค์กร แต่บริษัทไม่เคยย่อท้อเร่งปรับตัวและรักษามาตรฐานการดำเนินธุรกิจตามแนวทางแห่งความยั่งยืน โดยให้ความสำคัญในเรื่อง ESG เพราะเชื่อว่าจะสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในระยะยาวและยังช่วยเปลี่ยนแปลงโลกไปในทางที่ดีขึ้น เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่ธนาคารไทยพาณิชย์ มองเห็นความตั้งใจและความทุ่มเทของบริษัทไมเนอร์ฯ ตลอดที่ผ่านมา จนนำมาสู่การต่อยอดความร่วมมือในการทำสัญญาอนุพันธ์อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THOR สู่การเชื่อมโยงระหว่างผลการดำเนินงานด้าน ESG กับการพิจารณาอัตราดอกเบี้ย (ESG-Linked Interest Rate Swap) ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อต้นทุนทางการเงินของบริษัท ทั้งนี้บริษัทไมเนอร์ฯ จะมุ่งมั่นพัฒนาผลงานด้าน ESG ให้ผ่านหลักเกณฑ์การพิจารณาของธนาคารด้วยดี และขอสนับสนุนให้องค์กรธุรกิจเอกชนไทยตระหนักถึงความสำคัญในเรื่อง ESG มากขึ้น เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของทั้งองค์กรเอง และผู้มีส่วนได้เสียโดยรวม อีกทั้งยังเป็นเทรนด์ในระดับสากล ที่จะมีอิทธิพลต่อการทำธุรกิจในแง่มุมต่างๆ มากขึ้นแน่นอนในอนาคต ความร่วมมือระหว่างบริษัท ไมเนอร์ฯ และธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นว่านอกจากจะสร้างประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมแล้ว ESG ยังสามารถสร้างผลประโยชน์ต่อต้นทุนทางการเงินขององค์กรได้อีกด้วย
คำบรรยายภาพ
ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกับ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ยกระดับความร่วมมือในการทำธุรกรรมสัญญาอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน โดยนำผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ขององค์กรมาใช้เพื่อการพิจารณาอัตราดอกเบี้ย (ESG-Linked Interest Rate Swap) ซึ่งมีผลต่อต้นทุนทางการเงินขององค์กร นับเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากความร่วมมือในการทำสัญญาอนุพันธ์อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THOR ในปีที่ผ่านมาให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โดยกำหนดหลักเกณฑ์พิจารณาจาก 3 องค์ประกอบ ดังนี้ 1. ผลดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) 2. ผลการกำกับดูแลกิจการที่ดี (CG Score) ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย และ 3. ความสามารถในการลดปริมาณการใช้พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียว ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดรับกับบริบทสากลที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการลดโลกร้อนและสร้างโลกที่สมดุลพร้อมก้าวไปในอนาคตอย่างยั่งยืน โดยมี นางสาวศรมน อิงคตานุวัฒน์ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Corporate Banking 1 นายแพททริก ปูเลีย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ และนาย ไบรอัน เจมส์ เดลานี่ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ร่วมเปิดตัว ESG-Linked Interest Rate Swap
SCB and MINT launch ESG-linked interest rate swap,
stepping up sustainable finance strategy in the business sector
Siam Commercial Bank (SCB) and Minor International PCL (MINT) have strengthened their commitment to sustainable business development with a recent deal on an ESG-linked interest rate swap, whereby rates offered for hedging derivatives go in line with each client’s environmental, social, and governance (ESG) performance, improving their financial costs. This progress follows the success of the Thai Overnight Repurchase Rate (THOR)-based derivatives introduced last year. A set of criteria for the ESG-linked interest rate swap covers the client’s status in the Dow Jones Sustainability Index (DJSI), corporate governance (CG) score given by the Thai Institute of Directors, and performance in reducing single-use plastic, resonating with an international context requiring every party’s participation in reducing global warming and promoting a balanced world for a sustainable future.
SCB Executive Vice President and Head of the Financial Markets Function Mr. Patrick Poulier said that among recent global trends is sustainable business practices whereby the environmental, social, and governance (ESG) performance of a company is widely seen as a factor in business and investment analysis and decision making.
SCB’s business sustainability is based on a strategic framework with three main pillars: Sustainable Finance, A Society of Value, and An Environment for the Future. The bank has actively promoted the sustainable business concept among its clients through financial products and services in financial and capital markets. This is a major step in adding ESG value for clients to benefit from their commitment to doing good things for society and the world.
SCB and MINT have now introduced an ESG-linked interest rate swap, whereby rates offered for hedging derivatives go in line with each client’s environmental, social, and governance (ESG) performance. This a further step adding more value to the THOR-based derivatives deal last year, as it will help boost market liquidity to fully support the adoption of THOR-based products. MINT has been successful with ESG performance as part of its business conduct, and this is a good opportunity for MINT to enjoy the financial benefits SCB has to offer, given that ESG performance is achieved through mutual agreement. It is hoped that this move will help raise ESG awareness among local businesses with direct and indirect benefits they can gain. SCB is ready to further develop other ESG-linked derivatives to cater to business needs across sectors.
MINT Chief Financial Officer Mr. Brian James Delaney commented “Even though the COVID-19 pandemic had a significant impact on our hotel and food operations, we have adapted and maintained our sustainability practices and standards. We believe that a focus on ESG will help strengthen our businesses in the long run and make this world a better place. It is a great delight that SCB has recognized MINT’s continuous commitment and dedication – from the THOR-based swap deals to the ESG-linked interest rate swap this time, which is believed will have a positive impact on the company’s financial costs. MINT is committed to striving to ensure that the company’s ESG performance goals meet SCB’s criteria. The company encourages local business entities to raise their ESG awareness for the sustainability of their own business and stakeholders at large, since this global trend is sure to have increasing influence on doing business in the future. This deal between MINT and SCB illustrates the fact that ESG performance not only benefits society and the environment, but also has a beneficial effect on corporate financial costs.”
Siam Commercial Bank (SCB) and Minor International PCL (MINT) have strengthened their commitment to sustainable business development with a recent deal on an ESG-linked interest rate swap, whereby rates offered for hedging derivatives go in line with each client’s environmental, social, and governance (ESG) performance, improving their financial costs. This progress follows the success of the Thai Overnight Repurchase Rate (THOR)-based derivatives introduced last year. A set of criteria for the ESG-linked interest rate swap covers the client’s status in the Dow Jones Sustainability Index (DJSI), corporate governance (CG) score given by the Thai Institute of Directors, and performance in reducing single-use plastic, resonating with an international context requiring every party’s participation in reducing global warming and promoting a balanced world for a sustainable future. SCB First Executive Vice President, Corporate Banking 1 Function, Soramon Inkatanuvatana, SCB Executive Vice President and Head of the Financial Markets Function Mr. Patrick Poulier, join MINT Chief Financial Officer Mr. Brian James Delaney, to launch ESG-linked interest rate swap.