ธนาคารไทยพาณิชย์และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ ในไตรมาส 3 ของปี 2564 จำนวน 8,818 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากความสามารถในการทำกำไรจากของธุรกิจที่ดีขึ้นและการตั้งเงินสำรองที่ลดลง ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองมีจำนวน 21,097 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลของการเติบโตที่แข็งแกร่งของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยและการบริหารค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ สำหรับเก้าเดือนแรกของปี 2564 ธนาคารมีกำไรสุทธิจานวน 27,720 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในไตรมาส 3 ของปี 2564 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 23,533 ล้านบาท ลดลง 0.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงแรงกดดันต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิภายใต้สภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำและอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ลดลง
รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 13,377 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการขยายตัวของธุรกิจการขายผลิตภัณฑ์ประกันผ่านธนาคารและธุรกิจการบริหารความมั่งคั่ง การฟื้นตัวของธุรกรรมการค้า และกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีจำนวน 15,813 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียง 0.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลของมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ของธนาคารอยู่ที่ 42.8% ในไตรมาส 3 ของปี 2564
ธนาคารได้ตั้งเงินสำรองจำนวน 10,035 ล้านบาท สำหรับไตรมาส 3 ของปี 2564 และเป็นจำนวน 30,071 ล้านบาท สำหรับเก้าเดือนแรกของปี 2564
อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 อยู่ที่ 3.89% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.79% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 ในขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารยังอยู่ในระดับสูงที่ 137.6% และเงินกองทุนตามกฎหมายของธนาคารยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.4%
| นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า
“ธนาคารมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผลกระทบในวงกว้าง ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของฐานะการเงินของธนาคารและความสามารถในการปรับตัวภายใต้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธนาคารยังคงเน้นบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือลูกค้าและสังคมผ่านโครงการช่วยเหลือทางการเงิน ในไตรมาส 3 ธนาคารได้เริ่มกระบวนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แบบเบ็ดเสร็จภายใต้กรอบของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อช่วยให้ลูกค้าของธนาคารมีโอกาสฟื้นตัวจากวิกฤตครั้งนี้แบบยั่งยืน นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการรายย่อยผ่านแพลตฟอม์ส่งอาหารโรบินฮู้ด โดยในไตรมาสนี้ ธนาคารมีผู้ใช้งานใหม่บนแพลตฟอร์มดิจิทัล เพิ่มขึ้นกว่า 1.9 ล้านราย ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการขยายฐานผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มส่งอาหารโรบินฮู้ด ธนาคารจะยังคงมุ่งมั่นยกระดับการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าบนช่องทางดิจิทัลให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้บนแพลตฟอร์มต่อไป” |
SCB ANNOUNCED THIRD-QUARTER PROFIT OF BAHT 8.8 BILLION AND
NINE-MONTH PROFIT OF BAHT 27.7 BILLION
Bangkok: Siam Commercial Bank and its subsidiaries reported consolidated net profit of Baht 8.8 billion for 3Q21, a 90.0% yoy increase from higher operating profit and lower provisions. Pre-provision operating profit increased 12.6% yoy to Baht 21.1 billion driven by strong non-interest income growth and effective cost management. Net profit for the first nine months of 2021 was Baht 27.7 billion, up 24.6% yoy from the same period last year.
For the third quarter of 2021, net interest income declined 0.8% yoy to Baht 23.5 billion, reflecting the pressure on net interest margin in the current low interest rate environment and weak economic growth.
Non-interest income increased 24.3% yoy to Baht 13.4 billion. Strong income growth in bancassurance and wealth management businesses, a rebound in trade activities, and higher gain on sale of assets had contributed to this increase.
Expenses increased slightly 0.4% yoy to Baht 15.8 billion as the Bank continued its strict cost control measures. The Bank’s cost-to-income ratio for the third quarter was 42.8%.
The Bank set provisions at Baht 10.0 billion in the third quarter and Baht 30.1 billion in total for the first nine months.
Non-performing loan (NPL) ratio went up slightly to 3.89% at the end of September 2021 from 3.79% at the end of June 2021. The Bank maintained a high NPL coverage ratio at 137.6% as well as a strong capital adequacy ratio at 18.4%.
| Arthid Nanthawithaya, Chairman of the Executive Committee and CEO, commented:
“The Bank’s steady growth despite the widespread impact of the COVID-19 pandemic reflected both our financial strength and our adaptability in this rapidly changing operating environment. We continue to focus on our critical role in helping our customers and society through our relief programs. In the third quarter, the Bank launched a comprehensive debt restructuring program following the Bank of Thailand’s framework to help customers recover from this crisis in a sustainable fashion. Moreover, the Bank also channeled additional assistance to consumers and SMEs through its food deliver platform, Robinhood. The Bank saw over 1.9 million of new digital users in the recent quarter, most of which were from Robinhood’s expanded user base. The Bank is committed to enhancing and deepening digital engagement and customer experience across multiple platforms and beyond banking services.” |
