ไทยประกันชีวิตเดินหน้า Digital Transformation

0
1018

ไทยประกันชีวิตเดินหน้ายุทธศาสตร์ Digital Transformation พัฒนาบริการ e-Service ต่อเนื่อง เพิ่มความสะดวกในการทำธุรกรรมให้ลูกค้า ทั้งด้านการชำระเบี้ยฯ การรับเงินผลประโยชน์ การตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต และไทยประกันชีวิต iService บนเว็บไซต์ ตอกย้ำการเป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิต

นายไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI เปิดเผยว่า จากการดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ “การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืน” โดยแผนการดำเนินงาน (Roadmap) ในช่วงแรกจะเป็นการเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตที่มั่นคง (Transforming Tomorrow) ด้วยการกำหนด Business Purpose เป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิต การประกันสุขภาพ และการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล หรือ Life Solutions Provider โดยให้ความสำคัญการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในรูปแบบเฉพาะบุคคล
บริษัทฯ จึงมุ่งขับเคลื่อนองค์กรผ่านการลงทุนเพื่อพัฒนาด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transformation) โดยนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะการพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกรวดเร็วแก่ผู้เอาประกันภัยในการทำธุรกรรมด้านการประกันชีวิตต่างๆ ทั้งด้านการรับเงินผลประโยชน์จากกรมธรรม์ บริษัทฯ ได้เพิ่มบริการใหม่ “ไทยประกันชีวิต Smart Pay” บริการโอนเงินสินไหมภายในวันเดียวกับที่ได้รับอนุมัติ สำหรับผู้เอาประกันภัยที่เลือกรับเงินผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ผ่านบัญชีธนาคาร ประเภทออมทรัพย์ หรือประเภทกระแสรายวัน ที่ไม่มีเงื่อนไขพิเศษกับธนาคาร หรือผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่สมัครโดยเลขที่บัตรประชาชน สำหรับสินไหมที่ได้รับการอนุมัติในวันและเวลาทำการของบริษัทฯกรณีผู้เอาประกันภัยต้องการรับเงินผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ผ่านบัญชีธนาคารอื่น ซึ่งไม่ใช่บัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกไว้กับเลขที่บัตรประชาชน ผู้เอาประกันภัยจะต้องแนบหน้าสมุดบัญชีธนาคาร หรือจัดทำหนังสือแจ้งความจำนงขอรับเงินผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ผ่านบัญชีธนาคาร ยกเว้นสินไหมที่ได้รับอนุมัติมีรายการหักหรือคืนหนี้สินผลประโยชน์ และกรณีการจ่ายค่าสินไหมมรณกรรม ผู้รับประโยชน์ทุกคนจะต้องเลือกรับเงินด้วยวิธีการโอนเงินและแนบหน้าสมุดบัญชีธนาคาร ยกเว้นแบบประกันควบการลงทุน และแบบประกันรายเดือนที่มีการหักเบี้ยประกัน ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับผลประโยชน์สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ไทยประกันชีวิตแคร์เซ็นเตอร์ โทร. 1124


ด้านการบริการโดยเน้นการบริการในรูปแบบออนไลน์ หรือ E-Service ผ่านแพลตฟอร์ม แอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต และบริการไทยประกันชีวิต iService บนเว็บไซต์ www.thailife.com ทั้งบริการด้านการชำระเบี้ยประกันภัย ได้แก่ บริการ e-Invoice ตรวจสอบเบี้ยประกันภัยที่ต้องชำระ ซึ่งผู้เอาประกันภัยสามารถชำระเบี้ยฯ ได้ทันทีผ่านบริการ E-Payment โดยบริษัทฯ ได้เพิ่มช่องทางการชำระเบี้ยประกันภัยด้วยการหักบัญชีธนาคารอัตโนมัติ หรือ Online Direct Debit (ODD) สำหรับผู้มีบัญชีเงินฝาก KBank ผูกกับแอปพลิเคชัน K PLUS ผ่านแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต โดยระบบจะดำเนินการหักบัญชีธนาคารต่อเนื่อง เมื่อถึงวันครบกำหนดชำระเบี้ยฯ และยังสามารถเลือกชำระเบี้ยฯ ผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ด บาร์โค้ด หรือชำระด้วยบัตรเครดิต ซึ่งผู้เอาประกันภัยจะได้ใบเสร็จรับเงินชั่วคราวทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) เพื่อสร้างความมั่นใจในการชำระเงิน
ขณะเดียวกันผู้เอาประกันภัยสามารถตรวจสอบข้อมูลสิทธิประโยชน์ และบริการต่างๆ ด้วยตนเองทุกที่ทุกเวลา ผ่านคู่มือผู้เอาประกันภัยรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Policyholder Guidebook หรือบัตรประจำตัวผู้เอาประกันภัยในรูปแบบ E-Card สามารถใช้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ได้สะดวก โดยไม่ต้องพกบัตร และ E-Document บริการดาวน์โหลดหนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันภัย
ตลอดจนผู้เอาประกันภัยยังสามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลกรมธรรม์ ติดตามสถานะพิจารณารับประกัน ค้นหาโรงพยาบาลคู่สัญญา บริการข้อมูลกองทุนรวมภายใต้แบบประกันยูนิตลิงค์ การยื่นเคลมสินไหมทดแทน บริการไทยประกันชีวิตฮอตไลน์ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์และการเดินทางฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ทุกที่ทั่วโลก บริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ การรับสิทธิประโยชน์ที่หลากหลายจากไทยประกันชีวิต Privilege หรือกิจกรรมและสิทธิพิเศษต่างๆ มากมายสําหรับสมาชิกไทยประกันชีวิต ไลฟ์ฟิต
“บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมการให้บริการแก่ผู้เอาประกันภัยอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้เอาประกันภัย พร้อมนำเทคโนโลยีและเครื่องมือดิจิทัลมา Enable เพื่อให้สามารถมอบบริการที่เหมาะสมสำหรับผู้เอาประกันภัยแต่ละบุคคล ภายใต้แนวคิดการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อตอบโจทย์การเป็นทุกคำตอบของชีวิตอย่างสมบูรณ์” นายไชยกล่าว