โอบี ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 25 ปี เปิดตัวแคมเปญสุดพิเศษ สำหรับลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี

0
77

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 25 ปีของการดำเนินงานในประเทศไทยด้วยแคมเปญสุดพิเศษที่มอบสิทธิประโยชน์และโปรโมชันมากมายแก่ลูกค้ารายบุคคล และลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี

แคมเปญนี้ประกอบด้วยสิทธิพิเศษถึง 25 ประการ ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทางการเงินหลากหลายประเภท ทั้งบัตรเครดิต การลงทุน การประกันภัย และสินเชื่อประเภทต่างๆ อาทิ ของขวัญพิเศษสำหรับเงินฝากในบัญชีออมทรัพย์ปลอดภาษีสำหรับลูกค้าบุคคล ข้อเสนอสุดพิเศษจาก Starbucks สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต และบัตรกำนัลมูลค่า 200 บาท สำหรับผู้สมัครสินเชื่อบุคคล ยูโอบี 2,500 รายแรกในแต่ละเดือน ซึ่งข้อเสนอเหล่านี้ครอบคลุมทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้า ตั้งแต่การทำธุรกรรมในชีวิตประจำวันไปจนถึงการวางแผนทางการเงินระยะยาว

สำหรับลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี จะได้รับสิทธิพิเศษจากสินเชื่อ UOB BizProperty ด้วยอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียงร้อยละ 2.50 ต่อปี ค่าธรรมเนียมการจัดการสินเชื่อร้อยละ 1.25 ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติ พร้อมระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดถึง 30 ปี และวงเงินสินเชื่อสูงสุด 40 ล้านบาท ข้อเสนอนี้ใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568 นอกจากนี้ ลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอีที่เปิดบัญชี UOB Biz Account หรือบัญชี Biz Super Account ยังสามารถรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษสูงสุดถึงร้อยละ 1.25 ข้อเสนอนี้ใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2567

นายริชาร์ด มาโลนีย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “เรารู้สึกขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับความไว้วางใจที่ลูกค้ามอบให้เราตลอด 25 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การเข้าซื้อกิจการธนาคารรัตนสินในปี 2542 และธนาคารเอเชียในปี 2547 จนถึงการเข้าซื้อธุรกิจลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปในปี 2565 ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ได้เติบโตเป็นธนาคารต่างประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศไทยและเป็นสาขาที่ใหญ่เป็นอันดับสองของกลุ่มยูโอบี เรามุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องที่จะสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า คู่ค้า และชุมชนต่างๆ พร้อมสนับสนุนให้ประเทศไทยใช้ประโยชน์จากการเติบโตของภูมิภาคอาเซียน แคมเปญนี้จึงถือเป็นการแสดงความขอบคุณจากใจของเราต่อลูกค้าทุกท่าน ทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมาของธนาคาร”

ในโอกาสครบรอบครั้งสำคัญนี้ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ขอเชิญชวนลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสู่อนาคตของเรา ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชันครบรอบ 25 ปีและวิธีการเข้าร่วมได้ที่ธนาคารยูโอบี ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมฉลองโอกาสสำคัญนี้กับลูกค้า ทั่วประเทศไทย และพร้อมมุ่งมั่นเป็นพันธมิตรทางการเงินที่ท่านไว้วางใจตลอดไป

เกี่ยวกับธนาคารยูโอบี
ธนาคารยูโอบี เป็นธนาคารชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย มีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศสิงคโปร์และมีการดำเนินธุรกิจในจีน อินโดนิเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม อีกทั้งยังมีเครือข่ายระดับโลกที่ประกอบด้วยสำนักงานประมาณ 500 แห่ง ใน 19 ประเทศและเขตการปกครอง ทั้งในเอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันตก และอเมริกาเหนือ นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ 2478 ธนาคารยูโอบีได้พัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านการควบรวมกิจการที่สำคัญ ปัจจุบันธนาคารยูโอบีได้รับการจัดลำดับให้เป็นธนาคารที่มีความแข็งแกร่งในระดับสากลจากบริษัทจัดลำดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ได้แก่ Aa1 โดย มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และ AA- โดย ฟิทช์ เรทติงส์ และเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติงส์ ตลอดระยะเวลาเกือบ 9 ทศวรรษ ธนาคารยูโอบีดำเนินธุรกิจโดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อสร้างคุณค่าให้แก่ธุรกิจในระยะยาวโดยการปรับกลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคผ่านพลังงานแห่งความสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นในการทำสิ่งที่ถูกต้องแก่ลูกค้า ยูโอบีพร้อมที่จะพัฒนาอนาคตของภูมิภาคอาเซียนในเติบโต ทั้งประชากรและธุรกิจให้มีความเชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึงในภูมิภาคเรายังมีส่วนในการเชื่อมต่อโอกาสทางธุรกิจภายในภูมิภาคนี้ ผ่านเครือข่ายทางการเงินที่แข็งแกร่ง เรามีการจัดทำฐานข้อมูลและรวบรวมข้อมูลเชิงลึกสำหรับพัฒนาและนำเสนอประสบการณ์ทางการเงินส่วนบุคคล และบริการทางการเงินที่เหมาะสมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลง ยูโอบีมีความมุ่งมันที่จะสร้างความยั่งยื่นในการดำเนินธุรกิจให้แก่ลูกค้า ผ่านกิจกรรมการมีส่วนร่วมทางสังคม สร้างผลกระทบที่ดีต่อสื่งแวดล้อม พร้อมไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจ ธนาคารเชื่อมั่นในการเป็นผู้บริการทางการเงินที่มีความรับผิดชอบ พร้อมทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อชุมชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผ่านการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมด้านศิลปะ เยาวชน และ การศึกษา เกี่ยวกับธนาคารยูโอบี ประเทศไทย
ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เป็นธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีเครือข่ายทั่วประเทศ 147 สาขา และเครื่องเบิกเงินสดอัตโนมัติ 343 เครื่อง (ข้อมูลถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566) โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ ได้แก่ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส (อันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะยาวที่ A3) และฟิทช์ เรทติ้งส์ (อันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวที่ A- และความน่าเชื่อถือภายในประเทศระยะยาวที่ AAA(tha))