“แฮ็ปปี้ เอ็มพีเอ็ม” เปิดกลยุทธ์ปี’64 เดินเกมรุก ENJOY THE FUTURE   ชูระบบ “HAPPY SYSTEM” โฉมใหม่! ดันยอดขายในไทยทะลุ 700 ลบ.

0
1755

“แฮ็ปปี้ เอ็มพีเอ็ม” กางแผนธุรกิจปี 2564 เดินเกมรุกสร้างอนาคต ภายใต้แนวคิด “ENJOY THE FUTURE” ขยายฐานลูกค้าใหม่ เจาะตลาดระดับภูมิภาคทั่วประเทศ เน้นพัฒนาระบบ “HAPPY SYSTEM” โฉมใหม่! พร้อมเดินหน้ารีโนเวทศูนย์ทุกภูมิภาค 20 สาขา ตอบโจทย์ความต้องการ สอดรับไลฟ์สไตล์ผู้นำอย่างลงตัว เร่งอัดกลยุทธ์สื่อสารการตลาดครอบคลุม หวังดันยอดขายเฉพาะในประเทศไทยทะลุ 700 ล้านบาทในสิ้นปี

ณพวิทย์ สัตย์เพริศพราย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด และ ณพวัฒน์ สัตย์เพริศพราย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ “CEOคู่แฝด” บริษัท แฮ็ปปี้ เอ็มพีเอ็ม จำกัด เปิดเผย “Thai MLM” ว่า หลังวิกฤตโควิค-19 “แฮ็ปปี้ เอ็มพีเอ็ม” ยังคงทำงานเชิงรุกมาโดยตลอด ผู้บริหารยังคงลงพื้นที่ร่วมกับผู้นำต่อเนื่องอาทิ ภาคอีสาน เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จ ในด้านการขยายตลาดระดับภูมิภาคเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันก็เริ่มเจาะตลาดทางภาคใต้และภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นเสาหลักให้ผู้นำ ด้วยการสร้างนโยบาย การประชาสัมพันธ์ การวางแผนการตลาด คาดปีหน้าจะสามารถวางเกมรุกสร้างอนาคต ภายใต้แนวคิด “ENJOY THE FUTURE”  

“โดยบริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์เริ่มตั้งแต่การวางระบบ Happy e-Learning ด้านการไลฟ์สด และการฝึกอบรมผ่าน  AI รวมถึงการปรับปรุงเว็บไซต์รองรับการทำงานผ่านระบบออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีการวางแกนหลักสำคัญของระบบฝึกอบรมที่แข็งแกร่งขึ้น ภายใต้ชื่อ “HAPPY SYSTEM” แบ่งเป็นระดับการเรียนรู้ 3C1E  ได้แก่ COURSE คอร์ส , CLASS คลาส , CAMP แคมป์ และ EVENT         อีเว้นท์ เพื่อรองรับสมาชิกใหม่ที่จะก้าวเข้ามาเป็นผู้บริโภคหรือนักธุรกิจ ที่จะบอกตั้งแต่จุดเริ่มต้นว่าเส้นทางเดินแห่งความสำเร็จต้องไปทางไหน ทำอย่างไรให้สามารถทำธุรกิจได้ถูกต้อง โดยการปรับปรุงเครื่องมือและระบบต่างๆ บริษัทลงทุนประมาณ 7 หลัก นับว่าคุ้มค่าเพื่อความเป็นมืออาชีพ” 

  อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการทำงานผ่านระบบออนไลน์ 30% ออฟไลน์ 70% ขณะเดียวกันบริษัทก็พยายามปรับสมาชิกออนไลน์สู่ออฟไลน์จากผู้บริโภคสู่นักธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในการทำธุรกิจเครือข่าย สร้างระบบรองรับสมาชิกทุกระดับให้ทำงานได้ง่าย เพื่อรองรับการขยายตัวที่เพิ่มขึ้น บริหารงานด้วยความโปร่งใส และมีคุณธรรม นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญในการเชื่อมต่อระบบออฟไลน์-ออนไลน์ สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภคทุกกลุ่ม รวมถึงให้ความสำคัญกับช่องทางการขาย เพื่อป้องกันการขายตัดราคา โดยมีทีมและระบบรองรับตรวจสอบเข้มข้น

“ในปีนี้ บริษัทยังคงดำเนินการรีโนเวทสาขาทุกภูมิภาคทั้ง 20 สาขา ทั้งในและต่างประเทศ หวังตอบสนองความต้องการผู้นำ ส่วนปีหน้าก็มีแผนจะเปิดสาขาใหม่เพิ่มคือ อ่างทอง และภาคใต้ที่ ยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่ของผู้นำกลุ่มใหญ่ ในมุมมองของเราที่เลือกทำงานกับคน เพราะคนคือ Asset ในโลกธุรกิจ ที่สามารถต่อยอด ขยายสาขาในธุรกิจของเราได้ นอกจากคนจะทรงคุณค่าแล้ว บริษัทยังสามารถสร้างอาชีพให้โอกาส ให้รายได้โดยไม่จำเป็นต้องกำหนดว่าเป็นใคร เรียนจบอะไรมา นี่คือ ความความสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายอย่างแท้จริง”

ทั้งนี้คาดว่าปี 2564 จะมีการขยายไลน์สินค้าใหม่เพิ่มอีก จากเดิมที่มีสินค้ากว่า 17 รายการ เพื่อตอบโจทย์ด้านการดูแลสุขภาพ มั่นใจว่าในอนาคตจะกลายเป็นอีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ในตลาดอาหารเสริม

บริษัทมีทิศทางการขยายตัวของนักธุรกิจอย่างเห็นได้ชัด ตลอดระยะเวลาที่มีส่วนการบริหารงานกว่า 2 ปี รวมถึงการมีพื้นฐานการบริหารจัดการองค์กร มีกลยุทธ์ที่ชัดเจน และพร้อมลงทุนต่อ​    ยอดการเติบโตทันทีเมื่อเห็นโอกาส สะท้อนได้จากช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่บริษัทฯ สามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสและต่อยอดสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจได้ คาดอีก 3 เดือนสิ้นปี มั่นใจผลักดันรายได้เฉพาะในประเทศไทยให้ทะลุ 700 ล้านบาทได้