แต่งหน้าลุคสวยใสสไตล์ญี่ปุ่น ที่ใครเห็นก็ต้องบอกคาวาอี้ กับ ARTISTRY STUDIO TOKYO EDITION

0
2465

เทรนด์การแต่งหน้าตอนนี้ไปถึงไหนกันแล้วนะ? ร่วมอัพเดตเทรนด์ใหม่กับ อาร์ทิสทรี สตูดิโอ (ARTISTRY STUDIO) ที่อยากให้สาวๆ ทุกคนสนุกกับการแต่งหน้า โดยจับมือกับเมคอัพอาร์ทิสต์ชื่อดังของเมืองไทย “พี่ยอด –   ภาสุ เหมียนบุตร” มาสอนเทคนิคแต่งหน้าให้สวยละมุนดั่งดอกซากุระ และเพิ่มความน่ารักสดใสรับหน้าร้อนด้วยสีสันสุดคิ้วท์ จากผลิตภัณฑ์ อาร์ทิสทรี สตูดิโอ โตเกียว เอดิชั่น (ARTISTRY STUDIO TOKYO EDITION) นอกจากนี้ยังมีเคล็ดไม่ลับต่างๆ ที่จะเพิ่มความมั่นใจให้สาวๆ อีกด้วย พลาดไม่ได้แล้ว !

  • สาวๆ คนไหนพร้อมแล้ว ก็มาเริ่มต้นกับเทคนิคสุดว้าวจากพี่ยอดที่ไม่ว่าใครก็สามารถเอาไปมิกซ์แอนด์แมทซ์ได้ แต่ก่อนที่จะเริ่มแต่งแต้มสีสันลงบนใบหน้า ขอแนะนำให้บำรุงผิวด้วยมอยเจอไรซ์เซอร์เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น บวกกับครีมกันแดดอีกชั้นก่อน หลังจากเตรียมผิวหน้าพร้อมแล้วก็เริ่มแต่งหน้ากันเลย

เริ่มต้นด้วยการลงรองพื้นที่เหมาะกับสภาพผิวโดยเกลี่ยบางๆ ตามแนวรูขุมขน และเพื่อเพิ่มความสวยกริบให้ผิวมากยิ่งขึ้น ใช้ คอร์เร็คท์ & เพอร์เฟ็คท์ เฟซ คอมแพ็ค คอร์เร็คเตอร์ที่สามารถแก้ได้หลายปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นสีม่วงไลแลคที่ช่วยให้ผิวส่วนที่หมองคล้ำอย่างบริเวณใต้ตาหรือแก้มดูสว่างขึ้น และส่วนสีเขียวที่ช่วยลดเลือนรอยแดง รอยสิว และฝ้า เพื่อปกปิดร่องรอยต่างๆ ให้เรียบเนียนยิ่งขึ้น โดยขั้นตอนนี้เราสามารถใช้คู่กับแปรงเพื่อเกลี่ยตามซอกจมูกและใต้ตาได้เนียนกริบ เท่านี้ใบหน้าของเราก็จะดูสวยเป๊ะ สว่างกระจ่างใสเหมือนเปิดสปอร์ตไลท์ให้ผิว จากนั้นเซทหน้าด้วยแป้งฝุ่นเน้นบริเวณทีโซนและใช้พัฟฟ์กดซ้ำเบาๆ บริเวณใต้ตา เพื่อให้เมคอัพติดทนท่ามกลางอุณหภูมิร้อนแรงของแดดเมืองไทย

  1. จากนั้นเติมพวงแก้มให้อมชมพูระเรื่อเป็นธรรมชาติด้วยลิปจากอาย แอนด์ ลิป บิวตี้ บ็อกซ์ ที่มีทั้ง อายแชโดว์และลิปจบครบในพาเลตต์เดียว ซึ่งการประยุกต์ใช้สีจากลิปนั้นจะทำให้เห็นสีชัดขึ้นและแก้มดูสดใส
  2. ขยับพาเลตต์เดิมมาแต่งแต้มสีสันสดใสให้ดวงตา ซึ่งเทรนด์การแต่งตาในปัจจุบันจะไม่เน้นการใช้เทคนิคมากมายอีกต่อไป แต่จะเลือกสีที่ทำให้ดูโมเดิร์นขึ้น โดยใช้เพียง 1 หรือ 2 สีเท่านั้นก็เอาอยู่ สำหรับลุคแต่งหน้านี้เลือกใช้สีชมพู เกลี่ยกว้างๆ ใช้แปรงเบลนด์ให้ฟุ้งเพื่อสร้างมิติให้ดวงตา ไล่สีจากสีเข้มตรงกลางและเปลือกตาให้อ่อนลง แล้วเพิ่มความไบรท์ให้ดวงตายิ่งขึ้นด้วยการลงอายแชโดว์สีอ่อนหรือทาชิมเมอร์ที่บริเวณหัวตา
  3. เติมความหวานสดใสให้ดวงตาด้วยการดัดขนตาให้โค้งงอน บวกกับการปัดด้วยโอ โซ คัลเลอร์ฟูล มาสคาร่า โดยหากเป็นคนขนตาสั้นอาจใช้ขนตาปลอมที่ดูเป็นธรรมชาติช่วยด้วย หลังจากนั้นเริ่มปัดด้วยมาสคาร่าสีน้ำตาล โดยปัดจากโคนถึงปลาย เพื่อให้ดวงตาดูน่ารักมีเสน่ห์ จากนั้นปัดทับด้วยมาสคาร่าสีน้ำเงิน เพื่อให้ดูสนุกสนาน  คัลเลอร์ฟูลมากขึ้น ถ้าหากยังเห็นสีไม่ชัดเจน ก็สามารถปัดทับอีกชั้นได้หลังจากขนตาแห้งจากการปัดรอบแรก
  4. Tips: วิธีการดัดขนตา ให้หลุบมองต่ำและใช้ที่ดัดขนตาช้อนขนตาและดัดขึ้น จะทำให้ปัดง่ายและขนตาดูสวยงามมากขึ้น
  5. เขียนคิ้วที่เป็นจุดที่สำคัญมากของใบหน้า โดยเริ่มจากการเติมส่วนที่หายไปอย่างเบามือ เรียกว่าการซ่อมคิ้ว หลังจากนั้นใช้ พาวเวอร์ บราว เพน ที่ออกแบบหัวแปรงเป็นเมจิก 4 แฉก เพื่อให้ใช้งานได้ง่าย เพียงแค่วางเบาๆ ลงบนคิ้ว แล้วค่อยๆ สะกิดขึ้นให้ดูฟุ้งและเป็นเส้น แต่ยังคงดูสมจริง แล้วลากหางคิ้วให้เกินมาจากคิ้วเพื่อให้ได้ทรงตามต้องการ
  6. เพิ่มสีพวงแก้มให้ชัดยิ่งขึ้นด้วยโอ โซ ชีคกี้ บลัชเชอร์ โดยเลือกเฉดสีให้เข้ากับสีผิว หมุนคอขวดเล็กน้อยแล้วเอียงบลัชเชอร์ลงให้เกือบคว่ำเพื่อให้ฟองน้ำบนหัวบลัชเชอร์ติดสี และแท็บลงบนแก้มอย่างเบามือ แบบฟุ้งๆ ให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ มีเลือดฝาด และดูสุขภาพดี
  7. เพิ่มความหวานให้เรียวปากสวยกับ เทรนด์การเติมปากที่กำลังมาโดยทาแบบขอบเบลอๆ เข้มใน อ่อนนอก ลุคนี้เลือกใช้เจลลี่ พลัมพิง ลิป ทินท์ ทาด้านในและเบลอบริเวณขอบปาก จากนั้นใช้ลิปเนื้อแป้งจาก พาเลตต์อาย แอนด์ ลิป บิวตี้ บ็อกซ์ ทาทับตรงบริเวณรอบนอก เพื่อเพิ่มความติดทน เคล็ดลับคือทาเลยขอบปากออกไป จะช่วยสร้างลุคที่ดูละมุนมากยิ่งขึ้น
  8. หน้าเป๊ะแล้วก็คอมพลีทลุคสวยละมุนด้วยแฟรแกรนซ์ มิสท์ ที่ให้กลิ่นหอมสดชื่น พร้อมมอบความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยน้ำแร่ โลตัสวอเตอร์ และสารสกัดจากชาเขียว โดยเลือกฉีดบริเวณจุดชีพจร ได้แก่ ข้อมือ ลำคอ รวมถึงเส้นผม เพื่อเพิ่มความหอมติดทนตลอดวัน
  9. การแต่งหน้าสามารถเปลี่ยนไปได้เสมอตามยุคสมัย เพียงแค่ทุกคนเปิดใจ กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง และสนุกไปกับสิ่งใหม่ๆ เพราะการแต่งหน้าไม่มีถูกหรือผิด ไม่แน่ว่าการแต่งแต้มเติมสีอย่างไม่มีขีดจำกัดนี้ อาจจะสร้างลุคใหม่ๆ ที่เป็นสไตล์เราก็เป็นได้ ติดตามความสนุกและไอเดียแต่งหน้าด้วยอาร์ทิสทรี สตูดิโอ โตเกียว เอดิชั่น ได้ที่ www.facebook.com/artistrythailand และทางอินสตาแกรม @artistrythailandofficial