นายจาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ (ที่ 1 จากซ้าย) บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด, นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ (กลาง) กรรมการบริหาร แกร็บ ประเทศไทย และ นายธีรชาติ จิรจรัสพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด ร่วมผนึกกำลังรักษ์โลก จัดโปรแกรม ‘สินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อพาร์ทเนอร์คนขับ’ หวังกระตุ้นพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บใช้รถยนต์ไฟฟ้า |
แกร็บ ประเทศไทย จับมือ ลีสซิ่งกสิกรไทย และ เอ็มจี ประเทศไทย ร่วมสนับสนุนนโยบายรัฐผลักดันพลังงานสะอาด จัดโปรแกรม ‘สินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อพาร์ทเนอร์คนขับ’ หวังกระตุ้นพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บใช้รถยนต์ไฟฟ้าในการหารายได้จากบริการเรียกรถผ่านแอปฯ ด้วยสิทธิประโยชน์ที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่นยอดนิยม ได้แก่ MG ZS EV และ MG EP ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงิน อาทิ การผ่อนเริ่มต้นเพียงวันละ 227 บาทต่อวัน การสมัครโดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน และโปรโมชันสุดคุ้มขับฟรี 90 วัน
นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการบริหาร แกร็บ ประเทศไทย และ กรรมการผู้จัดการ แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “การส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่แกร็บมุ่งมั่นผลักดันเพื่อสร้างความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นไปตามพันธกิจ GrabForGood หรือ แกร็บ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า โดยเมื่อเร็วๆ นี้ เราได้ประกาศเป้าหมายระยะยาวในประเทศไทย โดยตั้งเป้าให้มีพาร์ทเนอร์คนขับที่ใช้รถ EV ให้ได้ 10% ภายในปี 2569 และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ล่าสุด แกร็บ ประเทศไทย จึงได้ผนึกความร่วมมือกับ ลีสซิ่งกสิกรไทย และ เอ็มจี ประเทศไทย พัฒนาโปรแกรม ‘สินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับพาร์ทเนอร์คนขับ’ ขึ้นเป็นครั้งแรก”
“จากการสำรวจข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ปัจจุบันมีพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บให้ความสนใจที่จะหันมาใช้รถ EV เป็นจำนวนมากถึง 73.5%* ทั้งนี้ โปรแกรมสินเชื่อดังกล่าวถูกออกแบบมาสำหรับกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับที่ยังไม่มีรถยนต์เป็นของตัวเอง เนื่องจากอาจไม่สามารถเข้าถึงบริการทางเงินในระบบ หรือมีข้อจำกัดต่างๆ เช่น ขาดผู้ค้ำประกันหรือขาดเงินก้อนในการดาวน์ โดยเราได้ทลายข้อจำกัดเหล่านั้นด้วยรูปแบบการผ่อนจ่ายแบบรายวันเริ่มต้นเพียง 227 บาท และอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษ ซึ่งช่วยเปิดโอกาสให้คนกลุ่มนี้สามารถเป็นเจ้าของรถ EV ได้ไม่ยากและนำมาใช้เป็นเครื่องมือทำกินหรือสร้างรายได้ผ่านบริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันของแกร็บ”
นายธีรชาติ จิรจรัสพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เผยว่า “เทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มกลายมาเป็นที่สนใจของสังคมและผู้คนในวงกว้าง จากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และมาตรการของทางภาครัฐที่ได้ออกมาสนับสนุนด้านราคา คาดการณ์ว่าในปี 2565 จะมียอดขายรถ EV อยู่ที่ประมาณ 10,000 คัน มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยการชะลอตัวของภาคการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า สำหรับธนาคารกสิกรไทย จากที่ได้เปิดตัวโครงการ GO GREEN Together โดยเป็นธนาคารแรกที่เชื่อมโยงและผลักดันให้เกิด Green Ecosystem อย่างครบวงจรและเกิด Green Lifestyle ขึ้นจริงในประเทศไทย ลีสซิ่งกสิกรไทยจึงสอดรับนโยบายด้วยแคมเปญสินเชื่อ Green Zero พร้อมขยายความร่วมมือกับแกร็บ และเอ็มจี ประเทศไทย ในการจัดทำโปรแกรม สินเชื่อรถ EV สำหรับพาร์ทเนอร์คนขับ สมัครสินเชื่อรถใหม่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า รับสิทธิ์ขับฟรี 90 วันและไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการใช้รถ EV อย่างแพร่หลาย ซึ่งสอดคล้องกับโครงการ GO GREEN Together ของธนาคารกสิกรไทย”
นายจาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การผนึกความร่วมมือกับแกร็บ ผู้นำบริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน และ ลีสซิ่งกสิกรไทยในการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ที่ผ่านมา เอ็มจี มีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้เข้าถึงผู้คนในวงกว้าง โดยหลังจากที่ภาครัฐได้ประกาศนโยบายสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน เอ็มจี มียอดจองรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ถึงกว่า 4,500 คัน นอกจากบทบาทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เอ็มจี ยังเป็นผู้สร้าง ‘ระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า’ หรือ EV Ecosystem ที่ครบวงจรและครอบคลุมในทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ด้วยการลงทุนในด้านเครือข่ายสถานีชาร์จ MG Super Charge ที่ปัจจุบันมีมากถึง 120 แห่งทั่วประเทศ และมีเป้าหมายในการเพิ่มสถานี MG Super Charge อย่างน้อย 1 แห่ง ในทุกๆ 150 กิโลเมตร ทำให้คนไทยมีความมั่นใจ และพร้อมที่จะเข้าสู่สังคม EV อย่างเต็มรูปแบบ”
พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บที่สนใจสมัครโปรแกรม ‘สินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อพาร์ทเนอร์คนขับ’ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.grab.com/th/new-car-leasing/
*ผลสำรวจจากกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับตัวอย่างจำนวน 3,470 คนบนแอปพลิเคชันคนขับแกร็บ
เกี่ยวกับแกร็บ
แกร็บ (Grab) คือ ผู้นำซูเปอร์แอปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อ้างอิงข้อมูล “มูลค่าธุรกรรมรวมในตลาด” หรือ GMV ทั้งบริการจัดส่งอาหาร บริการการเดินทาง และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ในปี พ.ศ. 2564 โดยยูโรมอนิเตอร์) ปัจจุบัน แกร็บนำเสนอบริการต่างๆ แบบออนดีมานด์ ครอบคลุมทั้งบริการการเดินทาง การจัดส่งอาหาร สินค้าและพัสดุ ตลอดจนบริการทางการเงินในรูปแบบดิจิทัล เพื่อตอบสนองผู้ใช้บริการหลายล้านคนทั่วทั้ง 480 เมืองใน 8 ประเทศ อันได้แก่ กัมพูชา ไทย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เมียนมาร์ เวียดนาม สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เพื่อให้สามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ของพาร์ทเนอร์คนขับและพาร์ทเนอร์ร้านค้า ไม่ว่าจะเป็น การสั่งอาหารหรือการสั่งซื้อสินค้า การจัดส่งพัสดุ การเรียกรถรับ-ส่งหรือแท็กซี่ ไปจนถึงการทำธุรกรรมทางการเงินแบบออนไลน์ เช่น การขอสินเชื่อ การทำประกัน การบริหารความมั่งคั่ง และการบริการทางการแพทย์ทางไกล เป็นต้น แกร็บก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2555 โดยมีวิสัยทัศน์ในการมุ่งขับเคลื่อนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการสร้างโอกาสและส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจให้กับทุกคน จวบจนปัจจุบันแอปพลิเคชันแกร็บได้ถูกดาวน์โหลดไปแล้วบนโทรศัพท์มือถือนับหลายล้านเครื่อง และแกร็บจะยังคงยึดมั่นเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่งให้กับผู้ถือหุ้น ควบคู่ไปกับการสร้างการเปลี่ยนแปลงเขิงบวกให้กับสังคมทั่งทั้งภูมิภาค ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแกร็บได้ที่ www.grab.com
Grab Thailand teams up with KLeasing and MG
to promote EV loan programme among driver-partners
Grab Thailand joins forces with KLeasing and MG Thailand to launch the ‘EV loan for Grab driver-partners’ programme in support of the government policy in driving clean energy. Aiming at promoting EV adoption among Grab driver-partners, the programme offers competitive loan benefits for the two popular EV series of MG electric car, MG ZS EV and MG EP, to help ease financial burdens for driver-partners. The benefits include a no-guarantor requirement, a daily repayment starting at only THB 227, and a 90-day free drive.
Mr. Worachat Luxkanalode, Executive Director of Grab Thailand, and Country Head of Grab Financial Group – Thailand, said, “Promoting the use of EVs among Grab driver-partners is one of our goals to strive for environmental sustainability which is part of our GrabForGood mission. After recently announcing a long-term EV goal for Thailand, targeting 10% of total driver-partners to adopt EVs by 2026, Grab Thailand has joined forces with KLeasing and MG Thailand to launch the first ‘EV loan for Grab driver-partners’ programme. The loan programme will support driver-partners who do not own a car and are unable to access financial services due to some limitations such as lack of a guarantor or a lump sum for a down payment by offering a daily repayment starting at only THB 227 and a low annual interest rate.”
“According to our recent survey, up to 73.5 per cent* of Grab driver-partners are interested in adopting electric vehicles. The programme will give them an opportunity to own EVs and earn extra incomes through the ride-hailing service on the Grab application.”
Mr. Tirachart Chiracharasporn, Managing Director of Kasikorn Leasing Company Limited, said, “The EVs adoption trend has increasingly become an interest across a wide public. Due to the economic impact of the surging fuel price and a government initiative in supporting the price of EVs, the total sales of EVs this year are expected to reach 10,000 with a minimum value of THB 10 billion, depending on the manufacturer’s production capacity. Following the launch of the GO GREEN Together project by Kasikornbank, the first bank that fully integrates and drives the Green Ecosystem and Green Lifestyle in Thailand, KLeasing also launches a Green Zero loan campaign by extending our partnership with Grab and MG Thailand to provide the ‘EV loan for driver-partners’ programme. The new applicants for EVs loan will receive a 90-day free drive with no guarantor required to encourage wide adoption of EVs per the GO GREEN Together project of Kasikornbank.”
Mr. Zhang Haibo, President of SAIC Motor-CP Co., Ltd., and MG Sales (Thailand) Co., Ltd., said, “Our collaboration with Grab, a leading ride-hailing service via application and KLeasing to promote the adoption of EVs is another key milestone in driving Thailand to become the EV society even more expeditiously. MG is committed to supporting the adoption of EVs across a wide public. We received up to 4,500 reservations of 100% electric vehicles only within a month following the government announcement on the support of electric vehicles. Besides our role as a manufacturer and distributor of EVs, MG also builds the integrated ‘EV Ecosystem,’ covering all aspects related to the adoption of electric vehicles. With our investment in providing over 2,000 MG Supercharger stations nationwide and our goal to increase at least one MG Super Charge station every 150 kilometers, Thai people are ready to move the EV society forward with full confidence.”
Grab driver-partners who are interested in joining the ‘Electric Vehicles (EVs) loan for Grab driver-partners’ program may visit www.grab.com/th/new-car-leasing/ for more information
*A survey was conducted among a sampling group of 3,470 driver-partners on the Grab application
About Grab
Grab is Southeast Asia’s leading superapp based on GMV in 2021 in each of food deliveries, mobility, and the e-wallets segment of financial services, according to Euromonitor. Grab operates across the deliveries, mobility, and digital financial services sectors in 480 cities in eight countries in the Southeast Asia region – Cambodia, Indonesia, Malaysia, Myanmar, the Philippines, Singapore, Thailand, and Vietnam. Grab enables millions of people each day to access its driver- and merchant-partners to order food or groceries, send packages, hail a ride or taxi, pay for online purchases, or access services such as lending, insurance, wealth management, and telemedicine, all through a single “everyday everything” app. Grab was founded in 2012 with the mission to drive Southeast Asia forward by creating economic empowerment for everyone, and since then, the Grab app has been downloaded onto millions of mobile devices. Grab strives to serve a double bottom line: to simultaneously deliver financial performance for its shareholders and a positive social impact in Southeast Asia. (www.grab.com)