“แกรนด์ โกลบอล อินโนเทค” เปิดแผนธุรกิจปี 2564 เร่งปั๊มเจ้าของแบรนด์ ดึงนักธุรกิจเปิดตัวแบรนด์สินค้า หวังสร้างการเติบโตในอนาคต ปั้นความสำเร็จ โดยผลิตจากโรงงาน G4 ภายใต้เครือเดียวกัน เพื่อผลักดันแบรนด์สินค้า แผนการตลาด และรายได้ให้ยังคงเติบโตต่อเนื่อง
มาดามปู – ปุณณะเกตุ สงคราม และ มาดามจิม – ปุณณดา วงศ์นิลคง เจ้าของแบรนด์คอกาแฟ ภายใต้เครือบริษัท แกรนด์ โกลบอล อินโนเทค จำกัด เปิดเผยว่า เดิมเป็นนักธุรกิจของแกรนด์โกลบอลฯ อยู่แล้ว เมื่อประสบความสำเร็จในด้านการเป็นนักธุรกิจ บริษัทจึงเปิดโอกาสให้นักธุรกิจนำเงินลงทุนมาต่อยอดเป็นเจ้าของแบรนด์ ภายใต้การดูแลของโรงงาน G4 โดยในหนึ่งแบรนด์มีหุ้นส่วน 50 คน
“ช่วงโควิดทำให้เรามีโอกาสก้าวเข้ามาในองค์กร แบรนด์คอกาแฟ คือ แบรนด์แรกที่ทำร่วมกับมาดามปู จากนักธุรกิจเน็ตเวิร์คก้าวเข้าสู่การเป็นเจ้าของแบรนด์ เรายอมรับสินค้าของบริษัท ทุกรายการเราใช้เองทุกตัว เพราะสินค้ามีคุณภาพจริง เมื่อเป็นเจ้าของแบรนด์ ยังได้รับส่วนแบ่งการตลาดจากแกรนด์ โกลบอลฯ ซึ่งบริษัทมีโรงงานรองรับฐานการผลิต ทั้งยังวางแผน มีตลาดจัดจำหน่าย มีรายได้หลายช่องทาง ทำให้มั่นใจว่า ถ้าอยากผลิตสินค้าอะไรให้มาที่นี่ ที่สำคัญบริษัทยังให้เจ้าของแบรนด์เซ็นต์สัญญาเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของแบรนด์ คอกาแฟ แท้จริง
อย่างไรก็ตาม ในปี 64 นี้ หลายท่านจะเห็นภาพบริษัทชัดเจนขึ้น เรื่องเปิดโอกาสให้คนธรรมดาเป็นเจ้าของแบรนด์ โดยองค์กรพร้อมซัพพอร์ตทุกอย่างเต็มที่ ซึ่งกลุ่มผู้บริโภคสินค้าก็แบ่งออกเป็น บุคคลทั่วไป นักธุรกิจภายใต้สายงาน รวมถึงการเปิดดิลเลอร์ในลักษณะของนักธุรกิจ ในจุดนี้จะมีรายได้ส่วนอื่นจากบริษัทด้วย เช่น ค่าคีย์ ค่าชุดสมัคร เป็นต้น
“เร็วๆ นี้ มาดามจิมจะเปิดตัวลิปสติก 7 เฉดสี ซึ่งจะทำในรูปแบบซิงเกิ้ลเพื่อลองตลาดก่อน แน่นอนว่าผลิตจากโรงงานและสินค้าที่ได้คุณภาพดีมาก เรื่องการตลาดบริษัทก็เข้ามาช่วยดูแล คาดจะเปิดตัวได้ในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ ตั้งราคาไว้ประมาณ 169 บาท ขณะนี้ก็มีพรีออเดอร์แล้วกว่า 1,000 แท่ง คาดจะทำยอดขายทะลุเป้ายอดการผลิตล็อดแรก 3,500 แท่งอย่างแน่นอน นับเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทมีโรงงานของตัวเองทำให้เราสามารถผลิตในปริมาณเท่านี้ได้ หากลงทุนเองเป็นไปได้ยากทั้งจำนวนเงินลงทุนและการตลาด แต่ที่นี่ดูแลครบวงจร”
ขณะเดียวกันนับเป็นเรื่องดีที่บริษัทเปิดโอกาสให้คนธรรมดา ทักษะน้อย สามารถต่อยอดสู่การเป็นเจ้าของแบรนด์ ตั้งแต่มูลค่าหลักแสนถึงหลักล้าน
“โดยรายได้แบ่งออกเป็น 3 ช่องทาง ทั้งจากซิงเกิ้ล แบบเน็ตเวิร์ค และผู้บริโภค ซึ่งรายได้จากการทำเน็ตเวิร์คจะมีรายได้ที่มากกว่า ยั่งยืนกว่า ทำให้สามารถแบ่งปันทีมงาน โดยไม่ต้องลงทุน เพียงเดินตามแผน GGI ทำงานแบบเครือข่าย การสร้างทีมงานออฟไลน์ OPP สำหรับใครที่สนใจก็ติดต่อเข้ามาศึกษาและร่วมลงทุนได้ โดยแต่ละแบรนด์จะมีหุ้นส่วน 50 หุ้น เพียงทำตามแผนก็สามารถสำเร็จได้แน่นอน นอกจากนี้รายได้ต่อเดือนของแบรนด์ คอกาแฟ ของเราสองคนอยู่ที่การทำยอดขายผลิตภัณฑ์ ซึ่งส่วนนี้ยอดขายยังไม่สรุปทั้งหมด ต้องรอตอนปลายเดือนมีนาคมนี้จึงจะรู้ผลลัพธ์ จากการเป็นเจ้าของแบรนด์ว่าจะมีรายได้เท่าไร่”มาดามปูกล่าวสรุป