เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นายนิคฮิล แอดวานี (ที่ 3 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายโยฮัน ดีทอย (ซ้ายสุด) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน ร่วมเปิดงานเสวนา AIA Wealth Forum ประจำปี 2565 ในหัวข้อ “ถอดรหัสการลงทุน ก้าวหน้าอย่างมั่นคง จากกูรูชั้นนำของโลก” ซึ่งในงานได้รับเกียรติจากวิทยากรทั้งจากในประเทศและระดับโลก ได้แก่ นายสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) นายแมทท์ เรย์โนลส์ (ขวาสุด) Investment Director จาก Capital Group นางสาวเพนนี ชิน (ที่ 2 จากขวา) Director, Head of APAC FIG (PMG) จาก BlackRock และนางสาวธนธร กาญจนิศากร (ที่ 3 จากซ้าย) นักวางแผนการเงินมากประสบการณ์
เอไอเอ ประเทศไทย บริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งของประเทศไทย* จับมือพันธมิตรด้านการลงทุนระดับโลก จัดงานเสวนา AIA Wealth Forum ประจำปี 2565 ในหัวข้อ “ถอดรหัสการลงทุน ก้าวหน้าอย่างมั่นคง จากกูรูชั้นนำของโลก” เพื่อมอบสาระความรู้เกี่ยวกับการวางแผนการเงินในระยะยาว ท่ามกลางความผันผวนของสถานการณ์การลงทุนที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก
โดยมีผู้เชี่ยวชาญทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ที่ให้เกียรติมาให้ความรู้และอัพเดตทิศทางเศรษฐกิจ ได้แก่ นายแมทท์ เรย์โนลส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนตราสารทุน จาก Capital Group และนางสาวเพนนี ชิน ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนตราสารหนี้ จาก BlackRock ซึ่งเป็นตัวแทนจากพันธมิตรด้านการลงทุนระดับโลกของกลุ่มบริษัทเอไอเอ นอกจากนี้ ยังได้กูรูด้านการลงทุนมือฉมังอย่าง รศ. ดร. ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ที่มาบอกเล่าประสบการณ์ด้านการลงทุน พร้อมแนะนำแนวทางสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว ร่วมด้วย นายสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) และ
นางสาวธนธร กาญจนิศากร หรือคุณน้ำไฟแนนซ์ ที่มาร่วมแชร์มุมมองด้านการวางแผนการเงินผ่านประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิต ลิงค์) ซึ่งงานเสวนาครั้งนี้จัดขึ้น ณ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา
นายสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ปัจจุบันถือเป็นช่วงเวลาที่คนทั่วโลกรวมถึงคนไทยเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติหลังจากที่เราต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่หนักหน่วงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามแม้สถานการณ์โดยรวมจะเริ่มดีขึ้น แต่ถ้ามองในฝั่งด้านการลงทุนนับว่ายังมีปัจจัยเสี่ยงหลายปัจจัยที่ยังกดดันสภาวการณ์ลงทุนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นความกังวลด้านอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น จนส่งผลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ซึ่งนำไปสู่ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย รวมถึงความขัดแย้งระหว่างประเทศที่ยังคงรุนแรงและยืดเยื้อ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อการตัดสินใจด้านการลงทุนของเราทุกคนอย่างเลี่ยงไม่ได้
“สำหรับ AIA Wealth Forum เป็นงานที่เราจัดมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเอไอเอ ในการนำเสนอการบริการที่เหนือระดับทั้งในด้านการประกันชีวิตและการลงทุนให้กับลูกค้าทุกท่าน โดยมุ่งดูแลไม่เพียงเฉพาะด้านสุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการดูแลสุขภาพทางการเงิน เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าที่ถือกรมธรรม์เอไอเอ ยูนิต ลิงค์ มีสุขภาพที่แข็งแรงรอบด้าน พร้อมเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนด้วยการเข้าถึงการลงทุนระดับสากล ด้วยการเลือกลงทุนในกองทุน AIA Global Allocation Funds และกองทุน AIA Asset Allocation Funds ที่ได้จับมือกับพันธมิตรด้านการลงทุนระดับโลก ทั้ง BlackRock, Capital Group, Baillie Gifford และ Wellington Management เพื่อช่วยขยายศักยภาพด้านการลงทุนให้ก้าวสู่ระดับสากล ตลอดจนสามารถตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการส่งต่อความมั่นคง หรือแผนเก็บเงินยามเกษียณ ช่วยให้ลูกค้ายูนิต ลิงค์ ของเอไอเอ ประเทศไทย ได้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives”
ในส่วนของการเสวนาด้านการลงทุนในตลาดต่างประเทศ นายแมทท์ เรย์โนลส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนตราสารทุนจาก Capital Group กล่าวว่า “แม้สถานการณ์การลงทุนในระดับโลกปัจจุบันจะเป็นเรื่องท้าทาย แต่สำหรับนักลงทุนแล้ว ความผันผวนถือเป็นส่วนหนึ่งของวัฎจักรที่เกิดขึ้นในโลกของการลงทุน จากข้อมูลในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นแล้วว่า การวางแผนการลงทุนในระยะยาวและลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นที่การคัดเลือกสินทรัพย์ที่พร้อมด้วย 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1) กระแสเงินสด 2) อำนาจในการกำหนดราคาสินค้าของบริษัท (Pricing Power) และ 3) การประเมินมูลค่าหุ้น (Valuation) ที่สมเหตุสมผล จะช่วยให้สามารถรับมือกับความผันผวน และช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในที่สุด”
ด้าน นางสาวเพนนี ชิน ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนตราสารหนี้จาก BlackRock กล่าวว่า “ตราสารหนี้ถือว่าเป็นเครื่องมือกระจายความเสี่ยง (Diversifier) ที่สำคัญที่นักลงทุนควรจัดสรรไว้ในพอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ตลาดหุ้นกำลังเผชิญความเสี่ยงจากความผันผวน และอัตราดอกเบี้ยอยู่ในขาขึ้นเช่นนี้ เพราะถือเป็นเกราะกำบังที่จะช่วยลดโอกาสในการขาดทุนจากการลงทุน และสร้างรายได้ให้ได้ในทุกสภาวะตลาด อย่างไรก็ตาม การเลือกตราสารหนี้ที่มีคุณภาพสูงมีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง ไม่ว่าจะเป็นอายุของตราสารหนี้และผลตอบแทนที่เหมาะสม ซึ่งทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีระบบในการวิเคราะห์ และเกาะติดสถานการณ์การลงทุนอยู่โดยตลอด โดยเฉพาะด้านอัตราเงินเฟ้อ นโยบายการเงิน และการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งล้วนเกี่ยวโยงกับผลตอบแทนของตราสารหนี้”
สำหรับมุมมองด้านการลงทุนจากกูรูชั้นแนวหน้าของไทย รศ. ดร. ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา เผยว่า “การมีทีมผู้เชี่ยวชาญเป็นที่ปรึกษาที่ไว้ใจได้ด้วยประสบการณ์ องค์ความรู้เฉพาะด้าน และการตัดสินใจลงทุนแบบนักลงทุนสถาบันที่เน้นมองภาพใหญ่ ไม่หวั่นไหวไปกับความผันผวนชั่วคราว คือเคล็ดลับในการลงทุนให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว ซึ่งเอไอเอ เป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านการลงทุน อีกทั้งยังมีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เพื่อให้นักลงทุนมั่นใจได้ในตลอดเส้นทางการลงทุน”
ปิดท้ายด้วยเทคนิคในการส่งต่อความมั่งคั่งผ่านประกันชีวิตควบการลงทุน เอไอเอ อินฟินิท เวลท์ เพรสทีจ (ยูนิต ลิงค์) (AIA Infinite Wealth Prestige (Unit Linked)) โดย นางสาวธนธร กาญจนิศากร นักวางแผนการเงิน ผู้ผ่านประสบการณ์ร่วมวางแผนการเงินกับลูกค้ามาแล้วมากมาย ซึ่งได้ทิ้งท้ายว่า “การวางแผนการเงินเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคน ซึ่งยิ่งเริ่มต้นได้เร็วเท่าไร ยิ่งส่งผลดีต่ออนาคตในระยะยาว เพราะทรัพย์สินกับมรดกต่างกันเพียงลมหายใจเดียว ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนเริ่มวางแผนการเงินตั้งแต่วันนี้ โดยให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีความพร้อมและเป็นมืออาชีพช่วยดูแล”
ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่สนใจประกันชีวิตควบการลงทุน (เอไอเอ ยูนิต ลิงค์) สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.aia.co.th/th/our-products/unit-link.html หรือ AIA Call Center 1581 หรือติดต่อตัวแทนประกันชีวิตเอไอเอ ประเทศไทย
*ข้อมูลจากสมาคมประกันชีวิตไทย ณ เดือนกรกฎาคม 2565
หมายเหตุ:
• ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษา อ่าน และทำความเข้าใจในเอกสารเสนอขายก่อนตัดสินใจทำประกันภัย เมื่อได้รับกรมธรรม์แล้วโปรดศึกษารายละเอียด ข้อกำหนดและเงื่อนไขในกรมธรรม์
• ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์
• การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทาความเข้าใจลักษณะสินค้าเงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
• ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
-จบ-
เกี่ยวกับกลุ่มบริษัทเอไอเอ
กลุ่มบริษัทเอไอเอ และบริษัทในเครือ (รวมเรียกว่า “เอไอเอ” หรือ “กลุ่มบริษัทเอไอเอ”) เป็นกลุ่มบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และมีการบริหารจัดการอย่างอิสระ มีบริษัทในเครือและสำนักงานสาขาใน 18 ประเทศทั่วเอเชียแปซิฟิก ทั้งในประเทศจีน เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย กัมพูชา อินโดนีเซีย เมียนมาร์ นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ศรีลังกา ไต้หวัน (จีน) เวียดนาม บรูไน และเขตปกครองพิเศษมาเก๊า และเป็นผู้ถือหุ้นร่วมทุน 49% ในประเทศอินเดีย
เอไอเอเริ่มต้นธุรกิจครั้งแรกในเมืองเซี่ยงไฮ้เมื่อศตวรรษที่ผ่านมา ในปี 2462 โดยเป็นผู้นำตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น) ในด้านเบี้ยประกันภัยรับจากธุรกิจประกันชีวิต และเป็นผู้นำตลาดโดยส่วนใหญ่ในภูมิภาค โดยมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 302 พันล้านเหรียญสหรัฐ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565
กลุ่มบริษัทเอไอเอนำเสนอผลิตภัณฑ์ในการออมเงินระยะยาวและความคุ้มครองชีวิตแก่ลูกค้าบุคคลผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ทั้งการประกันชีวิต การประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพ และการวางแผนทางการเงินในวัยเกษียณ นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทเอไอเอยังให้บริการลูกค้าองค์กรผ่านผลิตภัณฑ์สวัสดิการพนักงาน ประกันสินเชื่อ และให้บริการเป็นผู้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพผ่านเครือข่ายตัวแทน พันธมิตรและพนักงานทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเอไอเอมีลูกค้าที่ถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิตรายบุคคลที่มีผลบังคับมากกว่า 40 ล้านกรมธรรม์ และเป็นสมาชิกกรมธรรม์ประกันกลุ่มมากกว่า 17 ล้านคน
กลุ่มบริษัทเอไอเอจดทะเบียนในกระดานหุ้นหลักของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ภายใต้รหัสหลักทรัพย์ “1299” สำหรับ American Depositary Receipts (ระดับ 1) มีการซื้อขายหลักทรัพย์นอกตลาดหลักทรัพย์ (Over-the-Counter) ภายใต้สัญลักษณ์ AAGIY