เอสซีบีเอสตอบโจทย์ตลาดหุ้นไทย sideway เปิดตัวหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง KIKO เจาะกลุ่มลูกค้า High Net  Worth  

0
1431

หลักทรัพย์ไทยพาณิชย์จับจังหวะหุ้นไทย แกว่งตัว Sideway  เปิดผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง KIKO ผลตอบแทนอ้างอิงหุ้นสามัญรายตัวใน SET 50 ที่ได้คัดสรรหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี นำเสนอลูกค้ากลุ่มHigh Net  Worth เพื่อเพิ่มทางเลือกการสร้างความมั่งคั่ง เงินลงทุนขั้นต่ำ 1 ล้านบาทต่อสัญญา อายุ 6 เดือน รับดอกเบี้ย 10% ต่อปี   

นายอิทธิพันธ์ เจียกเจิม  ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่  ผู้บริหารฝ่าย Investment  Products  ธนาคารไทยพาณิชย์  เปิดเผยว่า ในขณะนี้ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมีลักษณะเป็น sideway มีการแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ทำให้นักลงทุนทำกำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้นได้ไม่มากนัก ในโอกาสนี้ จึงเป็นจังหวะที่ดี บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ (SCBS) ได้ออกผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ประเภทหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง ที่เรียกว่า KIKO ( Knock – in Knock – out ) เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน กลุ่ม High Net Worth ของธนาคาร ในการจัดพอร์ตการลงทุน  ( Asset Allocation )  เพื่อกระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์ให้มีความหลากหลาย  

ทั้งนี้  หุ้นกู้ เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ควรจะมีในพอร์ตการลงทุน เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตและเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงและผลตอบแทนอยู่ในระดับต่ำ การถือครองมีระยะเวลาหลายปี แต่สำหรับหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง ประเภท KIKO เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อน ( Complex product ) สามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าหุ้นกู้ทั่วไป  แต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่าหุ้นกู้ทั่วไปด้วย  เป็นการลงทุนแบบ Knock -in  Knock- out ที่มีผลตอบแทนอ้างอิงกับหุ้นสามัญที่อยู่ใน SET 50   โดยจะคัดสรร เลือกเฉพาะหุ้นที่ผ่านการพิจารณาจากผู้เชี่ยวชาญทีม Research  ของบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์  (SCBS)  และสอดคล้องกับมุมมองด้านการลงทุนของ CIO office  ของธนาคารไทยพาณิชย์ เท่านั้น   

การลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง   KIKO  นักลงทุนสามารถซื้อคูปองได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1 ล้านบาทต่อสัญญา ใช้ระยะเวลาในการถือครอง ประมาณ 6 เดือน  ได้รับอัตราผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยประมาณ 10% ต่อปี  เฉลี่ยจ่ายเป็นรายเดือนตลอดอายุการถือครอง  ซึ่งผลตอบแทนมากกว่าการลงทุนในหุ้นกู้ปกติ และใช้ระยะเวลาในการถือครองน้อยกว่า   ลูกค้าที่สนใจซื้อคูปองการลงทุนใน KIKO จะได้รับคำแนะนำจากทีมที่ปรึกษาด้านการลงทุน ( Relationship Manager ) ในการเลือกหุ้นที่จะมาใช้อ้างอิงในการจ่ายผลตอบแทน  ตามระดับผลตอบแทนที่คาดหวัง  และสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงของผู้ลงทุน โดยหุ้นที่ธนาคารคัดสรรมาลงทุนจะเป็นหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ มีปัจจัยพื้นฐานดี จับคู่กัน 2 ตัว จากนั้นธนาคารจะนำเงินไปทำสัญญาอนุพันธ์บนหุ้นที่ลูกค้าเลือกเป็นหุ้นอ้างอิง โดยมีการทำสัญญาอนุพันธ์ตกลงเป็นกรอบกำหนดราคาหุ้นอ้างอิงไว้   ซึ่งลูกค้าจะได้รับใบหุ้นไว้เป็นหลักฐานในการลงทุน เช่น  ทำสัญญาหุ้น PTT กับ AOT ไว้ที่ราคา 50 กับ 70 บาท  เป็นราคาตั้งต้นที่ 100%   ราคากรอบบนที่ 110 %  เรียกว่า Knock-out price และราคาลงกรอบล่าง 85% เรียกว่า Knock-in price  โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทน ตามเงื่อนไขการลงทุน ดังนี้

เงื่อนไขที่  1   สัญญาถูกถอนก่อนครบกำหนดอายุ หากในเดือนใดราคาปิดของหุ้นทั้งสองตัวสูงกว่า หรือเท่ากับ Knock-out  price  ลูกค้าจะได้รับดอกเบี้ยพร้อมเงินต้นคืนทั้งจำนวนก่อนครบอายุ  และถือว่าหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง  KIKO ถูกถอนก่อนกำหนด

เงื่อนไขที่  2  อยู่จนครบอายุสัญญา จะได้รับเงินต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยทุกเดือน

เงื่อนไขที่  3 ลูกค้าได้ดอกเบี้ยทุกเดือน แต่ได้เงินต้นคืนเป็นหุ้น ที่มีราคาต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับราคาตั้งต้น ในกรณีที่ในแต่ละวันราคาปิดของหุ้นอ้างอิงตัวใดตัวหนึ่งต่ำกว่าหรือเท่ากับ Knock-in price และเมื่อครบอายุสัญญา มีหุ้นอ้างอิงตัวใดตัวหนึ่งมีราคาปิดต่ำกว่าราคาตั้งต้น   ซึ่งในกรณีนี้  หากลูกค้าถือหุ้นนั้นต่อไป แล้วหุ้นนั้นขึ้นก็ยังมีโอกาสได้รับเงินต้นคืน

 ทั้งนี้ การลงทุนใน KIKO ถือเป็นการลงทุนในหุ้นกู้ประเภทหนึ่ง จึงไม่มีค่าธรรมเนียมการซื้อ หากผู้ลงทุนซื้อ KIKO 1 ล้านบาท จะมีมูลค่าหน้าตั๋ว 1 ล้านบาท    โดยดอกเบี้ยที่ผู้ลงทุนจะได้รับจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายตามปกติ

การลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง KIKO  เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหุ้นที่ธนาคารเลือกมาอ้างอิงได้ ต้องการรับผลตอบแทนที่มากกว่าการลงทุนในหุ้นกู้ปกติ   และต้องการกระแสเงินสดมาหมุนเวียนจากดอกเบี้ยทุกๆ เดือน เป็นลูกค้ากลุ่ม High net worth (HNW) ตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต ) กรณีเป็นบุคคลธรรมดาต้องมีสินทรัพย์สุทธิตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป หรือมีรายได้ต่อปีตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไป หรือมีเงินลงทุนในหลักทรัพย์ตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป สามารถพิจารณารวมกับคู่สมรสได้ หรือถ้าเป็นลูกค้า SCB PRIVATE BANKING และ SCB FIRST สามารถติดต่อผ่านทีมที่ปรึกษาทางการลงทุนส่วนบุคคลได้ทันที  ซึ่งจะได้รับคำแนะนำอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งคัดเลือกหุ้นที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย ตามระดับความเสี่ยงที่ลูกค้ายอมรับ   โดยจะมีการติดตามรีวิวหุ้นทุกๆ สัปดาห์ จึงวางใจได้ว่ามีทีมที่ปรึกษาการลงทุนดูแลให้เป็นอย่างดี   

          อย่างไรก็ตาม    ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการลงทุนในหุ้นกู้อนุพันธ์แฝง KIKO  ได้แก่ ความเสี่ยงด้านราคา  (Price  Risk) ความเสี่ยงจากการที่ราคาหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงเปลี่ยนแปลงไป  โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ราคา / ระดับของหลักทรัพย์ / ดัชนีอ้างอิง  รวมถึงความผันผวนของหลักทรัพย์ / ดัชนีอ้างอิง  อายุคงเหลือของหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง  อัตราดอกเบี้ย  เป็นต้น  โดยราคา / ระดับของหลักทรัพย์ / ดัชนีอ้างอิงจะมีผลกระทบสูงสุด  ดังนั้น ผู้ถือหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงจะต้องติดตามข่าวสารข้อมูลของหลักทรัพย์ / ดัชนีอ้างอิงอย่างใกล้ชิดจากเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์อ้างอิง 

         ความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Risk)  ความเสี่ยงที่บริษัทในฐานะผู้ออกหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงจะไม่สามารถทำการชำระคืนเงินต้น พร้อมทั้งอัตราดอกเบี้ยได้เต็มจำนวนและ/หรือ ได้ตรงตามกำหนดเวลา หรือไม่สามารถส่งมอบปัจจัยอ้างอิงได้ในจำนวนที่ได้ตกลงกัน หรือไม่สามารถปฏิบัติได้ตามข้อกำหนดสิทธิ และ/หรือ ข้อกำหนดเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาของหุ้นกู้ที่ที่มีอนุพันธ์แฝงที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม  หากผู้ออกหุ้นกู้ที่อนุพันธ์แฝงหยุดจ่ายเงินต้นหรือผลตอบแทนจะถือว่าเป็นการผิดนัดชำระหนี้   ซึ่งหากผู้ออกหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงประกาศล้มละลายหรือผิดนัดชำระหนี้   ผู้ถือหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงจะมีสิทธิเช่นเดียวกับเจ้าหนี้อื่นของผู้ออกหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง   และความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง  (Liquidity  Risk)   ผู้ถือหุ้นกู้อนุพันธ์แฝงอาจไม่สามารถขายหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง เนื่องจากมีการจดข้อจำกัดการโอน  และการไม่มีตลาดรองสำหรับซื้อขายหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง เป็นต้น 

คำเตือน 

ผู้ลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงมีความเสี่ยงที่จะสูญเงินลงทุนทั้งจำนวน  หรือบางส่วน หากไม่มีการคุ้มครองเงินต้น หรือคุ้มครองเงินต้นต่ำกว่า 100% ของเงินลงทุน   เนื่องจาก หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง  มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อนกว่าหุ้นกู้ทั่วไป ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะความเสี่ยงและเงื่อนไขหุ้นกู้ฯ  และขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้แนะนำการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน