ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี จัดงานสัมมนาลูกค้า SCG Chemicals Digest 2019 หัวข้อ “ทันกระแสโลก: สงครามการค้าจีน–สหรัฐฯ” เพื่อนำเสนอมุมมองเศรษฐกิจ ความผันผวน ความท้าทาย และวิเคราะห์สถานการณ์เตรียมรับมือกับสงครามการค้าโลกให้แก่ผู้ประกอบการพลาสติกกว่า 400 คน โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและเชี่ยวชาญด้านสังคม วัฒนธรรม การค้า รวมถึงความเป็นมาของปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาไว้อย่างน่าสนใจ อาทิ ศ. ดร.ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ ธรรมศาสตราภิชาน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ทรงคุณวุฒิและเชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา และ ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญด้านประเทศจีน ![](http://www.thaimlmnews.com/wp-content/uploads/2019/10/2_นายธนวงษ์-อารีรัชชกุล-กรรมการผู้จัดการใหญ่-ธุรกิจเคมิคอลส์-เอสซีจี-300x200.jpg)
นายธนวงษ์ อารีรัชชกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี เปิดเผยว่า ผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ของโลก และบรรดาผู้เชี่ยวชาญมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น สำหรับธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ได้รับมือและปรับตัวกับสถานการณ์ดังกล่าวด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการประเมินสถานการณ์ราคาและสั่งซื้อน้ำมัน ขณะเดียวกันได้มีการบริหารจัดการต้นทุน รวมทั้งการพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม
ด้าน นายศักดิ์ชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ Vice President – Polyolefins and Vinyl Business ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี กล่าวว่า จากสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีในตลาดโลกผันผวนจากการปรับตามราคาน้ำมันที่ขึ้นลงอย่างรวดเร็ว และยังส่งผลต่อความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนอีกด้วย นอกจากเรื่องสงครามการค้าแล้ว อีกประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจพลาสติก คือวิกฤตที่เกิดจากขยะต่างๆ ที่มีการจัดการอย่างไม่เหมาะสม ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และทำให้สัตว์ทะเลเสียชีวิต ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ไม่ได้นิ่งนอนใจกับวิกฤตนี้ จึงได้พยายามสร้างความเข้าใจ ตลอดจนร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนภาคประชาสังคม ในการขับเคลื่อน “เศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy” ด้วยการผลิต ใช้ และวนกลับ รวมถึงการบริหารจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ
![](http://www.thaimlmnews.com/wp-content/uploads/2019/10/3_บรรยากาศการสัมมนา-300x200.jpg)
ขณะที่ ศ. ดร.ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ ธรรมศาสตราภิชาน แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ เกิดจากนโยบายที่เน้น “อเมริกาก่อน” ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อตอบสนองฐานเสียงของอเมริกันอนุรักษ์นิยมและกลุ่มเอียงขวา ซึ่งได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกาภิวัตน์โดยเฉพาะจากความสามารถในการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของจีนที่รวดเร็วและจะก้าวเหนือสหรัฐฯ ความขัดแย้งทางเศรษฐกิจและการเงินไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงได้ง่ายแม้จะมีการเจรจาก็ตาม เพราะประธานาธิบดีทรัมป์ทำให้ความขัดแย้งนี้ ซึ่งจริง ๆ ยังไม่เป็น “สงคราม” กลายเป็นประเด็นทางการเมืองในประเทศไป ผลของการต่อรองครั้งนี้จะเป็นปัจจัยต่อชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยต่อไปของทรัมป์ ปัญหาความขัดแย้งกับจีนเปิดโอกาสให้ทรัมป์ได้ใช้วิธีการที่เขาถนัด นั่นคือศิลปะการต่อรอง แต่เจ้าหน้าที่ในกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะทำงานได้ยากลำบากที่สุด![](http://www.thaimlmnews.com/wp-content/uploads/2019/10/4-5-300x200.jpg)
สำหรับ ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีมุมมองว่า กลยุทธ์ของจีนในการรับมือสงครามการค้ากับสหรัฐฯในครั้งนี้ อาจสรุปได้เป็น กลยุทธ์ 4R ได้แก่ 1. RESIST – กลยุทธ์ซื้อเวลาและปลุกชาตินิยม 2. RETALIATE – กลยุทธ์ตีให้ตรงเป้า เอาให้พอเหมาะ เป็นการตอบโต้ด้วยการตั้งกำแพงสินค้าเกษตรและลดค่าเงินหยวน 3. REFORM – กลยุทธ์ปฏิรูปเศรษฐกิจภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ เปิดภาคเศรษฐกิจ และที่สำคัญคือ การลดการพึ่งพิงจากเทคโนโลยีภายนอกประเทศ และกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดคือ 4. REORGANIZE – จัดห่วงโซ่เศรษฐกิจใหม่ เน้นตลาดผู้บริโภคภายในประเทศและตลาดในประเทศเส้นทางสายไหมใหม่ รวมทั้งกระจายฐานการผลิตไปต่างประเทศ![](http://www.thaimlmnews.com/wp-content/uploads/2019/10/5-4-300x200.jpg)
ทั้งนี้ งานสัมมนาลูกค้า “SCG Chemicals Digest” เป็นงานสัมมนาวิชาการที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับลูกค้าของธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ในด้านการตลาด เศรษฐกิจ รวมถึงสถานการณ์ปิโตรเคมี ซึ่งจะช่วยส่งเสริมศักยภาพในการบริหารจัดการธุรกิจของลูกค้าให้สามารถแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืน