นายอภิรักษ์ จิตรานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานเทคโนโลยีและปฎิบัติการ บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ส่งผลให้ลูกค้าที่เป็นผู้ป่วยไม่สะดวกในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล บริษัทฯจึงได้ร่วมกับโรงพยาบาลชั้นนำ จำนวน 55 แห่งทั่วประเทศ ในการเพิ่มบริการ Telemedicine สำหรับลูกค้าเอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต โดยเป็นผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาอย่างต่อเนื่องจากการเป็นผู้ป่วยใน หรือผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง โรคประจำตัว ที่จำเป็นต้องติดตามการรักษา และจะต้องได้รับยาอย่างต่อเนื่อง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคทางสมอง หรือโรคไทรอยด์ เป็นต้นทั้งนี้ผู้ป่วยรายนั้นจะต้องมีเอกสารการนัดติดตามการรักษาจากแพทย์และเคยได้รับการอนุมัติสินไหมค่ารักษาพยาบาลของโรคดังกล่าวจากบริษัทมาก่อนแล้ว
สำหรับการให้บริการ Telemedicine นี้เป็นการบริการให้คำปรึกษาจากแพทย์ทางออนไลน์ และการจัดส่งยาถึงบ้านลูกค้าโดยครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลตามวงเงินค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก(OPD)ของลูกค้า ได้แก่ ค่ายาและเวชภัณฑ์(ตามเงื่อนไขกรมธรรม์) ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ เฉพาะการตรวจเลือดเพื่อดูปริมาณน้ำตาล การทำงานของไต, ตับ, ตับอ่อน และหัวใจ ค่าแพทย์ รวมทั้งค่าจัดส่งยาถึงบ้าน
ทั้งนี้โรงพยาบาลที่ให้บริการ Telemedicine แก่ลูกค้าเอฟดับบลิวดีประกันชีวิตเป็นโรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศ เช่น เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เครือโรงพยาบาลพญาไท เครือโรงพยาบาลสมิติเวช เครือโรงพยาบาลบางปะกอก เครือโรงพยาบาลเปาโล เครือโรงพยาบาลจุฬารัตน์ เครือโรงพยาบาลมหาชัย โรงพยาบาลตรังรวมแพทย์ โรงพยาบาลศรีสวรรค์ เป็นต้น โดยให้บริการ Telemedicine ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2563 นี้
นายอภิรักษ์ กล่าววว่า “บริษัทฯตระหนักถึงความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก เราจึงได้ร่วมกับโรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศในการเพิ่มบริการ Telemedicine เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของเรา ว่าเขาจะได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง แม้เราจะอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 นี้ “
ทั้งนี้หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ ศูนย์บริการลูกค้า เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต ได้ที่ 1351 หรือตรวจเช็ครายชื่อโรงพยาบาลที่เข้าร่วมได้ที่ www.fwd.co.th